“แก้ม กวินตา” ยันไม่เคยดูถูก “กี้ รฐกร” แต่รับต่อว่าอีกฝ่าย เพราะอยากจะเตือน ปัดไม่รู้ทำให้ร้องไห้ ยินดีร่วมงานละครแต่ถ้าอีเว้นท์ไม่ขอรับคู่กัน เผยขอถอยห่าง “อานัส” เพื่อถามใจตัวเอง
ยังคงเป็นศึกน้ำลายไม่จบสิ้น กับกรณีของสองสาวดาราคู่เกาเหลา “แก้ม กวินตา โพธิจักร” และ “กี้ รฐกร สถิรบุตร” กับการที่ล่าสุดสาว “กี้” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่โกรธแก้มไม่ใช่เรื่องของผู้ชาย อย่าง “อานัส ฬาพานิช” แต่เป็นเพราะสาวแก้มพูดดูถูกตนด้วยถ้อยคำที่แรงกลางกองถ่ายละคร จนทำให้ตนต้องนั่งร้องไห้ในกองถ่าย ซึ่งกับเรื่องนี้สาว “แก้ม” แจงว่า…
“เท่าที่จำความได้ แก้มไม่เคยดูถูกใครค่ะ แล้ววิธีที่แก้มพูดกับเพื่อนหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ แก้มพูดในฐานะเพื่อน มึง กู หรืออะไรก็แล้วแต่ พูดด้วยความจริงใจ คิดว่าเขาก็น่าจะให้ใจเรา แก้มจึงพูดในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง แต่ถ้าวันหนึ่งออกมาเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าไม่ใช่เพื่อนกัน ก็ไม่ต้องพูดอะไรถึงกันอีก ก็ขอร้องว่าอย่าออกมาพูดอะไรถึงแก้มอีกจะขอบคุณมากค่ะ”
“แต่ถ้าบอกว่าเขาบอกว่าแก้มพูดกับเขาจนเขาร้องไห้กลางกองถ่าย อันนั้นไม่ทราบค่ะ ตอนนั้นพูด พูดในฐานะเพื่อนกัน อาจจะเตือน เราพูดในสิ่งที่เราคิด แล้วไม่ทราบว่าไปโดนอะไรยังไง แต่ตอนนั้นแก้มพูดในฐานะเพื่อนจริงๆ แล้วตอนนี้ก็ไม่ขอพูดถึงแล้วกันค่ะ เพราะตัวแก้มเองยังไม่รู้เลยว่าพูดอะไรยังไง เพราะว่าเวลาพูดในฐานะเพื่อนก็พูดปกติค่ะ”
ยินดีร่วมงานละครอีกฝ่ายหากผู้ใหญ่ทางช่องเห็นสมควร แต่ถ้าเป็นงานอีเว้นท์ไม่ขอรับ รับผู้ใหญ่เตือน
“ถ้าเป็นงานละคร แล้วผู้ใหญ่เห็นว่าควรที่จะร่วมเล่นละครด้วยกัน หรือสามารถเล่นด้วยกันได้ แก้มก็ยินดี แต่ถ้าเป็นงานอีเว้นท์ แก้มไม่รับค่ะ ซึ่งทางผู้ใหญ่มีเตือนค่ะ ไม่อยากให้เรามีข่าวไม่ค่อยดี ด้วยลุกส์แก้มเป็นคนตรงๆ แรงๆ อยู่แล้ว เขาก็ไม่อยากให้พูดอะไรมาก เขาบอกว่าถ้าจะตอบอะไรผิดพลาดไปก็ขอโทษ และให้ยิ้มค่ะ เพราะปกติแก้มไม่ค่อยยิ้ม”
ปัดเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการแย่งผู้ชายชื่อ “อานัส ฬาพานิช”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่นัสเลยค่ะ พี่นัสไม่ได้มาเป็นตัวกลางอะไร ไม่พูดถึงค่ะ เวลาเจอกันแก้มก็ไม่พูดถึง เราอยู่กับใครแล้วมีความสุข เราก็ทำตรงนั้นให้ตัวเราเองมีความสุข ไม่ยึดติดกับอะไร ถ้าเอาปัญหาของคนอื่นมาคิดมาก ตัวเราก็จะไม่มีความสุขค่ะ”
“ถามถึงสถานะตอนนี้แก้มกับพี่นัสยังติดต่อกันอยู่ ยังไปกินข้าวดูหนังได้เหมือนเดิมค่ะ ไม่ห่างด้วย เรายังอยู่กับสปีดวัน ยังเทคแคร์กันเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ให้เวลากัน ให้ช่องว่างระหว่างกันได้คิดทบทวนในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำมากขึ้นค่ะ อย่างที่บอกว่าแก้มเป็นคนถอยออกมา เพราะว่าไม่อยากมีปัญหากับใคร ถ้าไม่สามารถยุติปัญหาได้ ก็แก้ที่ตัวเราดีกว่าค่ะ”
“แต่ที่เราต้องถอยออกมา ยอมถอยออกมา เพราะว่าด้วยว่าทั้งแก้มและพี่นัสเราไม่อยากไม่สบายใจ แล้วก็ไม่อยากทำให้ผู้ใหญ่ของทั้งฝ่ายแก้ม และฝ่ายพี่นัสไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นเราก็ห่างกัน เว้นช่องว่างระหว่างกันว่าเราควรทำอะไรไม่ควรทำอะไรดีกว่าค่ะ”