xs
xsm
sm
md
lg

รำลึกบทเพลงป๊อปอมตะ: ยอดนักแต่งเพลงผู้ล่วงลับ “ฮัล เดวิด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นข่าวเศร้าของวงการดนตรีอย่างแท้จริง กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ “ฮัล เดวิด” นักเขียนเนื้อเพลง ที่สร้างชื่อขึ้นมาด้วยการทำงานกับ “เบิร์ต แบแคแร็ก” ที่เคยมอบบทเพลงมากมายให้กับทั้งภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ และศิลปินนับจากยุค 60s ที่เสียชีวิตลงด้วยวัย 91 ปี

ฮัล เดวิด เสียชีวิตลงจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา ณ ศูนย์แพทย์เซดาร์-ไซไน ในลอสแอนเจลิส หลังมีอาการไม่ดีมาตั้งแต่เดือน มี.ค.แล้ว โดย ยูนิซ เดวิด ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเขาได้กล่าวถึงการจากไปของสามี ว่า “แม้แต่ในวาระสุดท้าย เขาก็ยังมีบทเพลงอยู่ในหัว เขาจะเขียนโน๊ตเก็บเอาไว้ หรือบอกให้ฉันจดข้อความ ที่จะทำให้เขาไม่ลืมเนื้อเพลงที่คิดขึ้นมาได้” โดยตลอดชีวิตการทำงานมากกว่า 60 ปี นักเขียนเนื้อเพลงผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ มีบทเพลงที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการทำงานร่วมกับ เบิร์ต แบแคแร็ก ที่ทำหน้าที่แต่งทำนอง และเรียบเรียง



แบแคแร็ก และ เดวิด ถือเป็นคู่หูนักแต่งเพลงที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลงยุคใหม่ มีผลงานงานอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Raindrops Keep Fallin' On My Head, (They Long to Be) Close to You และ That's What Friends Are For ส่วนใหญ่เป็นการทำงานร่วมกับ ดิออน วอร์วิค แต่ก็ยังมีศิลปินอีกมากมาย ที่ได้ร่วมร้องเพลงป๊อปอันน่าประทับใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น บาร์บรา สไตย์แซนด์ จนถึง แฟรง ซิเนตรา และอารีธา แฟรงกิน

ด้วยชีวิตที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในนิวยอร์ก เดวิด ได้เข้าเรียนสาขาสื่อสารมวลชนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ก่อนจะมีโอกาสรับใช้ชาติในกองทัพเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะในแผนกกิจกรรมบันเทิงที่เซาธ์แปซิฟิก หลังสงครามจึงได้เริ่มอาชีพนักเขียนคำโฆษณาให้กับหนังสือพิมพ์ นิวยอร์กโพสต์ แต่สุดท้ายกลายเป็นงานเพลงที่เขารู้ว่าสามารถตอบสนองความสามารถของตนเองได้มากที่สุด เดวิด ได้ร่วมงานกับทั้ง แซมมี เคย์, กาย ลอมบาร์โด และศิลปินมากมาย ก่อนจะได้ทำความรู้จักกับ นักดนตรีหนุ่มเชื้อสายยิวจากมิซูรี ที่ชื่อว่า เบิร์ต แบแคแร็ก ในปี 1957 และได้ร่วมงานสร้างเพลงอมตะด้วยกันมากมาย



หลังทำงานด้วยกันมาซักระยะ ในปี 1962 แบแคแร็ก กับ เดวิด ได้มีโอกาสเขียนเพลงให้กับนักร้องสาวหน้าใหม่คนหนึ่งที่ชื่อ ดิออน วอร์วิค ซึ่งต่อมาเธอกลายเป็นผู้มีโอกาสถ่ายทอดบทเพลงของทั้งคู่อีกมากมาย ด้วยเสียงร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ที่สามารถนำเสนอเพลงของสองคู่หูได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนทั้ง 3 กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และมีผลงานตามออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Walk On By, I Say a Little Prayer, Do You Know the Way to San Jose, Trains and Boats and Planes, Anyone Who Has a Heart และ You'll Never Get to Heaven แต่หากจะพูดถึงจุดเริ่มต้นแห่งการร่วมงานของทั้ง 3 ก็คือ Don't Make Me Over ในปี 1962 ที่ถือว่าเป็นเพลงเปิดตัวของ วอร์วิค และทำให้ชื่อของเธอเป็นดาวค้างฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน



เพลงหวานๆ อย่าง The Look of Love ก็เป็นอีกหนึ่งในบทเพลงแห่งความทรงจำที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย เดวิด และ แบแคแร็ก จากบทเพลงที่เดิมทีฝ่ายหลังตั้งใจแต่งขึ้นเพื่อเป็นเพลงบรรเลงสำหรับหนัง Casino Royale ที่เขาบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากการชมดาราสาว เออร์ซูลา แอนเดรียส ในหนัง ต่อมาท่วงทำนองดังกล่าวได้ถูก เดวิด เขียนเนื้อเพลงให้ในภายหลัง และได้ ดัสตี้ สปริงฟิลด์ มาขับร้องในปี 1967 จนกลายเป็นเพลงยอดฮิต ถูกนำไปคัฟเวอร์อีกมากมายหลายรอบ



เดวิด และ แบแคแร็ก อาจถือได้ว่าเป็นสุดยอดนักแต่งเพลงที่โด่งดังในวงการภาพยนตร์มากที่สุดอีกคน ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 1999 เขาเคยอธิบายถึงแนวทางการทำงานของตัวเองว่า “พยายามบรรยายเรื่องราว เพลงควรจะมีส่วนที่คล้ายกับภาพยนตร์นิดหน่อย เล่าเรื่องให้ได้ใน 3-4 นาที พยายามพูดเรื่องที่ง่ายที่สุดเท่าที่จะเท่าได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน”

บทเพลงของทั้งสองเคยได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์อยู่หลายหน ไม่ว่าจะเป็น What's New Pussycat?, Alfie, The Look of Love จากหนัง Casino Royale และคว้ารางวัลสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปได้ด้วยเพลง Raindrops Keep Fallin' on My Head ที่ บี.เจ.โธมัส ขับร้องให้กับภาพยนตร์ Butch Cassidy and the Sundance Kid เมื่อปี 1969 ซึ่งทั้งหนังและเพลงยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้



เดวิด ยังมีโอกาสแต่งเพลงให้กับศิลปินดังมากมาย รวมถึงคู่พี่น้องที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป๊อปของสหรัฐฯ อย่าง The Carpenters ในบทเพลง (They Long to Be) Close to You เมื่อปี 1970 ที่ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตบิลบอร์ด และครองอันดับสูงสุดดังกล่าวอยู่ถึง 4 สัปดาห์เต็มๆ



ในช่วงยุครุ่งเรือง เดวิด ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดในนิวยอร์ก ซึ่งทำให้เข้าต้องบินไปมาระหว่างลอสแอนเจลิส เพื่อทำงานกับ แบแคแร็ก อยู่เสมอ บางครั้งก็ต้องช่วยกันแต่งเพลงทางโทรศัพท์ รวมถึงเพลงฮิต I Say a Little Prayer ที่แต่งให้กับ ดีออน วอร์วิค ก็เกิดจากการทำงานในลักษณะนั้นเช่นเดียวกัน

การทำงานลักษณะดังกล่าวที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินข้ามประเทศไปๆ มาๆ อยู่แทบจะตลอดเวลา จนทำให้เขายอมรับว่าในตัวนั้นเริ่มตันกับการแต่งเพลงอยู่เหมือนกัน หลายปีต่อมา เดวิด เล่าเรื่องความรู้สึกในตอนนั้น ที่เขาเกิดความคิดขึ้นมาว่า “สิ่งของอย่างเครื่องบิน และรถยนต์ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นทั้งนั้น แต่สิ่งอย่างภูเขา, แม่น้ำ และห้วยเขาต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้น จึงกลายเป็นความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างไอเดีย และภาษา แทนที่จะเป็นความขัดแย้ง” สุดท้ายทั้งคู่จึงได้เพลงฮิตอีกเพลงอย่าง What the World Needs Now is Love ที่ร้องโดย แจ็คกี เดอแชนอน มาอีกเพลง



คู่หู แบแคแร็ก และ เดวิด ทำงานด้วยกันจนกระทั่งถึงปี 1973 ที่ทั้งคู่มีส่วนร่วมแต่งเพลงให้กับหนังมิวสิเคิล Lost Horizon ที่คู่หูนักแต่งเพลงทุ่มเทฝีมือกันอย่างสุดความสามารถ แต่ผลกลับลงเอยด้วยความเลวร้าย หนังถูกโขกสับจากทั้งนักวิจารณ์ และคนดู แบแคแร็ก ถึงขั้นซึมเศร้ากับความล้มเหลวครั้งนี้ และขอปลีกวิเวก ใช้เวลากับการพักร้อน โดยไม่รับงานไปพักใหญ่ๆ

ความล้มเหลวของงานชิ้นนี้ ยังทำให้เกิดเรื่องฟ้องร้องระหว่าง แบแคแร็ก, เดวิด และ วอร์วิค ด้วยแต่สุดท้ายทั้งสามก็สามารถยอมความกันได้เมื่อปี 1979 แต่ก็สลายตัวไม่ได้ทำงานร่วมกันไปอีกนาน จนกว่าจะถึงปี 1992 กับเพลง Sunny Weather Lover



หลังจากนั้น เดวิด ยังมีโอกาสร่วมงานกับนักแต่งเพลงดังๆ มากมาย ทั้ง จอห์น แบร์รี ในเพลงสำหรับหนัง เจมส์ บอนด์ ตอน Moonraker รวมถึง อัลเบิร์ต แฮมมอนด์ ในเพลง To All the Girls I've Loved Before ที่ต่อมา ฮูลิโอ อีเกลเซียส และ วิลลี เนลสัน นับไปร้องใหม่จนโด่งดัง เขายังได้ทำงานกับ เฮนรี แมนชินี และคนดนตรีแถวหน้าอีกมากมาย ที่ต่างประสบความสำเร็จมากน้อยแตกต่างกัน แต่ก็ไม่สามารถเทียบเคียงกับการทำงานภายใต้ชื่อ แบแคแร็ก และ เดวิด ได้เลย

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก



กำลังโหลดความคิดเห็น