“ชาคริต” แฮปปี้ควง “วุ้นเส้น” พร้อมครอบครัวเที่ยวญี่ปุ่น เล็งปั๊มลูกปีหน้า แง้มได้ลูกแฝดก็ดีภรรยาจะได้เหนื่อยทีเดียว
ตั้งแต่แต่งงานกันมาคุณสามี “ชาคริต แย้มนาม” ก็ควงภรรยา “วุ้นเส้น วิริฒิภา” เติมหวานอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ เพิ่งจะกลับมาจากฮันนีมูนที่ฝรั่งเศส ล่าสุด ทั้งคู่ก็ควงกันไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกรอบ ซึ่งชาคริตเผยให้ฟังว่าเป็นทริปที่มีความสุขมาก เพราะได้พาทั้ง 2 ครอบครัวไปด้วย
“ไปญี่ปุ่นก็พาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว ทั้งสองบ้าน คุณแม่ผมบอกว่าทารุณทัวร์ครับ เพราะว่าอากาศร้อนมาก แต่ว่าก็มีฝนตกบ้าง เราก็ได้ไปสถานที่ที่เป็นธรรมชาติของเขา ไปวัดที่เป็นโบราณสถานของเขา ก็ดีครับ แฮปปี้ครับ แฮปปี้มาก กิน ก็ไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้พระคุ้มครองครอบครัวมีความสุข เจริญรุ่งเรืองก็ขอตามปกติ ก็ได้ไปถ่ายรูปความเป็นญี่ปุ่นเพราะนานๆ ไปสักทีครับ”
“สวีตมั้ยก็ดีครับ เหมือนทุกวันครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไม่ได้มีน้องโตเกียว (หัวเราะ) ถามว่าหมดไปเท่าไหร่ไม่เท่าไหร่ครับ ไม่ได้หมดเพราะชอปปิ้งนะครับ หมดเพราะกินมากกว่า เพราะว่าไม่อยากจะใช้เงินมาก อยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวมากกว่า หมดทริปนี้ก็ยังไม่มีแพลนไปไหนครับ เพราะว่าต้องเตรียมตัวเรื่องงานก่อน เดี๋ยวถ้างานเริ่มแบ่งเวลาได้ค่อยดูกันตอนนั้น แต่ว่าตอนนี้ขอกลับมาโฟกัสเรื่องงานเต็มๆ”
ปัดกล้ามใหญ่ขึ้นเพราะฟิตหุ่นเตรียมเป็นคุณพ่อ บอกไว้ปีหน้า
“ใหญ่ขึ้นเพราะฟิตร่างกายครับ เพราะไหนจะละครด้วยหนังด้วย ฟิตพร้อมจะเป็นคุณพ่อ ก็เดี๋ยวครับ เอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากันอีกที แต่คุณแม่ก็ถามเรื่องหลานว่าจะมีเมื่อไหร่ เราก็บอกว่าเดี๋ยวขอปีหน้าก็แล้วกัน ขอทำงานก่อน ยังไม่รู้ว่าจะคลอดปีหน้าหรือว่าจะปั๊มปีหน้า (หัวเราะ) พูดเหมือนมาง่ายเนอะ”
“แต่ว่าเดี๋ยวนี้เรื่องลูกก็ไม่ได้ว่าจะมาง่ายๆ นะ แต่ถ้าถึงเวลาก็คงต้องให้คุณหมอดูเรื่องสุขภาพไว้ก่อน เพราะว่าเดี๋ยวนี้เรื่องอาหารการกินด้วย ยังไงก็คงต้องดูแล ยิ่งเป็นผู้หญิงเราก็ต้องให้เขาไปตรวจเช็กร่างกาย”
“นานา (นานา ไรบีนา) นำไปแล้วสองศูนย์ก็ใช่ครับ กลับมาดีใจใหญ่ เราก็ยินดีด้วยกับน้องครับ อยากได้แฝดแบบนั้นมั้ย ก็ดีนะครับ ภรรยาจะได้เหนื่อยทีเดียว แต่ก็เหมือนกับความคิดเพราะว่ามันยังไม่เกิด ก็เลยยังไม่รู้ ก็คิดไว้ว่าสองคนก็กำลังดี แต่ว่าเราก็ลองธรรมชาติก่อนแล้วกัน”
“ตอนนี้ไว้ก่อนแล้วกันเพราะงานเยอะ เพราะถ้ามีลูกเราก็ต้องแบ่งเวลาให้เขาในการเลี้ยงดู แต่คงไม่ถึงกับพักงานแต่ว่าก็มาดูอีกทีว่าเราจะทำอะไร เป็นครอบครัวแล้วอะไรมันก็จะต้องมั่งคงยิ่งขึ้น ก็ต้องดูอีกทีว่าจะมีธุรกิจอะไรที่มั่นคงสามารถเป็นของตัวเองได้มั้ยก็ประมาณนี้ครับ”