เป็นที่รู้จักในฐานะสาวมาดทอมบอย นักร้องวง “เฟย์ ฟาง แก้ว” ค่าย “กามิกาเซ่” ในเครืออาร์เอส สำหรับสาว “แก้ว จริญญา ศิริมงคลกุล” ด้วยลุกส์ภายนอกที่ผมสั้น ห้าว แต่งตัวทะมัดทะแมง บวกกับที่เจ้าตัวมีแฟนคลับเป็นสาวๆ ซะส่วนใหญ่ ทำให้ข่าวคราวที่มีออกมาก่อนหน้านี้ตอกย้ำ “ภาพทอม” ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่าแก้วจะเคยยืนไปแล้วว่าตนเป็น “ผู้หญิง” ไม่ใช่ทอมโปรดอย่าเข้าใจผิด
พอวันเวลาผ่านไป เมื่อแก้วแตกเนื้อสาว เจ้าตัวก็ฉลองความสาวด้วยการมีข่าวกับหนุ่มๆ เริ่มที่นักร้องหนุ่ม “วิศวะ ไทยานนท์” หรือ “โทโมะ เคโอติก” ค่ายเดียวกัน ก่อนจะมามีข่าวกับ “ฟิล์ม รัฐภูมิโตคงทรัพย์” หลังได้ร่วมงานกันในละครเรื่อง “บันทึกรักซุปเปอร์สตาร์” ออกอากาศทางช่อง 8 เคเบิลอาร์เอส เป็นการดึงกระแสความเป็นสาวเนื้อหอมในเวลานั้น
ทว่าสุดท้ายก็ทำเอาหลายคนเซอร์ไพรส์ เมื่อสาวแก้วเปิดปากยอมรับด้วยตัวเองว่า กำลังคุยอยู่กับพระเอกชื่อดัง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” ที่ในขณะนั้นกำลังโด่งดังไกลถึงประเทศจีน เรียกว่าระดับความฮอตติดลมบน บวกกับสาวๆ ที่เคยตกเป็นข่าวก็คนละแนวกับแก้ว ไม่ว่าจะเป็น “เอมี่ มรกต กิตติสาระ, เจน เจนสุดา ปานโต, ซาร่า มาลากุล เลน, ครีม เปรมสิณี รัตนโสภา และล่าสุดกับสาว “ใบเตย อาร์สยาม” เรียกว่าเป็นเซ็กซี่ตัวแม่ทุกคน แต่แล้วคนที่หนุ่มป้องเลือกมอบหัวใจให้กลับเป็น สาวกะโปโล “แก้ว” งานนี้ก็เลยทำเอาสาวนางอื่นๆ อิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว
ก่อนจะไปล้วงหัวใจสาวน้อย “แก้ว” ถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ว่า อะไรที่ทำให้เอาชนะใจหนุ่มฮอตอย่าง “ป้อง” ได้ เรามาทำความรู้จักกับสาวแก้วให้ลึกซึ้งก่อน เพื่อให้เคลียร์กันไปเลยว่า “เป็นทอมกลับใจ” อย่างที่เขาว่าจริงหรือเปล่า?!
“คือเราก็เป็นเด็กทั่วไปเรียนไฮสคูล เฮ้วๆ หน่อย เป็นเด็กซ่าๆ หน่อย สำหรับงานในวงการเราก็ไม่ได้ตั้งใจเลยว่าจะมาที่นี่แต่เราก็เคยเรียนร้องเรียนเต้น แต่ก็ไม่ชอบมาก ตอนนั้นเราไปเล่นฟิตเนส เข้าคอร์สต่อยมวยอยู่ แล้วก็มาเจอฝ่ายแคสติ้งของอาร์เอส เขาก็ถามว่าแก้วอายุเท่าไหร่ ตอนนั้นเขากำลังตามหาวัยรุ่นอยู่ ตอนนั้นอายุ 14-15 เอง เขาก็ให้นามบัตรมาแล้ว ก็ให้เบอร์คุณแม่ เพราะเรากลัวว่าเขาจะหลอก แต่พอมาเห็นนามบัตรว่าเป็นอาร์เอส เราก็โอเคเพราะรู้จัก”
“แม่ก็เลยให้ลองดูตอนนั้น เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะให้เราเป็นอะไร วันนั้นก็ลองแคสเยอะมาก ร้องเพลงเต้น พูด แนะนำตัวก็ไม่คิดจะได้ตอนนั้นร้องเพลงก็ไม่ได้ แต่เขาคงอยากได้แบบคนที่ไม่เคยเป็นงาน ดูความเป็นธรรมชาติของเรา กลับบ้านไปก็ไม่คิดจะได้ยังไม่ทันถึงวันเลย เขาก็โทร.กลับมาว่าได้นะ เราก็งง(หัวเราะ) ซึ่งตอนนั้นเราก็ร้องไห้ไม่อยากเป็น เพราะติดเพื่อน เขาจะหาผู้หญิง 9 คน เขาได้ เฟย์-ฟาง มาก่อน สุดท้ายจาก 9 ก็เหลือ 3 คน เลยให้ร้องเพลงกัน 3 คน”
“ถามว่าตอนนั้นคิดยังไงถึงได้ยอมมาแคสติ้ง คือพี่สาวแก้วก็มาด้วย แต่แก้วได้คนเดียว พี่สาวเขาก็บอกว่าโอกาสไม่ได้มีมาง่ายๆ นะ ฉันอยากได้จะได้แต่ไม่ได้ เขาก็ให้ทำเถอะ บางคนอยากจะเป็นแทบตายก็ไม่ได้เป็นเราก็ลองดู จากวันนั้นมาถึงวันนี้เราพัฒนาตัวเองเยอะขึ้นมาก จากแต่ก่อนง่อยมาก (หัวเราะ) ร้องเพลงยังไม่เป็นเลย ตอนนี้ก็พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น”
“ลุกส์แรกๆ ของเราที่ทางค่ายวางให้เป็นเด็กผู้หญิงห้าวๆ แฟนคลับก็เลยมีแต่ผู้หญิง ซึ่งเราเองก็บุคลิกแบบนี้อยู่แล้ว ช่วงแรกๆ คนก็มองว่าเป็นทอม ตอนนั้นเรากล้าทำหลายๆ อย่าง เช่น ตัดผมสั้น พอโตขึ้นเราจะไปทำแบบนั้นมันก็ไม่ได้ ตอนนี้เราโตขึ้นก็เลยดูสาวขึ้นนิดนึง เพราะจะทำตัวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ ซึ่งแฟนคลับเราก็ชอบทั้งสองแบบแหละค่ะ เพราะเป็นเรา แต่ก่อนๆ สาวชอบมากเพราะอาจจะเข้าใจผิด”
“ส่วนเรื่องรับงานนอกเฮียฮ้อ(สุรชัย) ก็ให้อิสระนะคะ แต่ก็ต้องมาบอกกันก่อนจะให้แก้วไปใส่กระโปรง หรือบิกีนีก็ไม่ใช่ (หัวเราะ) ไม่มีให้โชว์ ต้องดูแนวด้วย ดูคาแร็กเตอร์ ซึ่งเราไม่ชอบเดินแบบ ไม่ชอบใส่ส้นสูง เดินไม่ได้เลย ไม่ชอบค่ะ ไม่ชอบส้นสูง และไม่ชอบกระโปรง คิดว่ามันไม่เหมาะกับตัวเอง”
เปิดใจความรักกับ “ป้อง” เป็นการเปิดซิงรักของทั้งคู่
“เราเองก็เป็นคนกวนๆ เขาด้วย เขาก็บอกไม่เคยเจอผู้หญิงกวนประสาทแบบนี้ กับความรักครั้งนี้เรื่องเก่าๆ ที่คนอื่นชอบมาพูดให้ฟังก็ต้องลดลง เราต้องปรับความเข้าใจ ฟังที่เราสนิทด้วย ไม่ใช่ไปฟังใครก็ไม่รู้ เขาเป็นคนพิเศษสำหรับเรา ถามว่าชอบเขาตรงไหน รักเขาตรงไหน แก้วเป็นคนชอบผู้ใหญ่อยู่แล้ว เขาก็ดูแลเราได้ ตอนนี้คุณแม่ยังไม่ปล่อยให้ขับรถ บางทีคุณพ่อคุณแม่ไม่ว่าง ก็วานให้พี่ป้องช่วยขับรถได้ เขาค่อนข้างดูแลเราได้ค่ะ”
“ตอนนี้ก็มีคนรู้จักแก้วเยอะขึ้นเพราะเป็นข่าวกับพี่ป้อง ไปไหนมาไหนก็จะถามถึงพี่ป้อง ไม่ได้ถามถึงเราเลย (หัวเราะ) เหมือนกับเราอยากให้โฟกัสเรื่องงานมากกว่า ถามว่ากดดันไหม ช่วงแรกก็ค่อนข้างกดดันเพราะหลายคนก็มองว่าเราเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ ไม่น่าจะใช่สเปคพี่เขา เพราะพี่เขาน่าจะชอบแบบเซ็กซี่ เราเป็นใคร เราก็งงเพราะเราก็คนธรรมดา แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะ”
“ความจริงแก้วเป็นคนคิดมาก แต่พอโดนบ่อยๆ ก็ชิน ปล่อยดีกว่า เราเองก็ไม่ค่อยเป็นข่าวกับใคร เพราะว่าเรายังเด็ก เราเองก็ไม่ได้เปิดใจกับใครเหมือนกัน พี่เขาก็ไม่ได้เปิดเหมือนกัน เลยมีคนสนใจเยอะ ไปไหนมาไหนก็เป็นข่าว”
“การระมัดระวังตัวเองในการไม่ให้ตกเป็นข่าว เราเองก็ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไปไหนก็มีเพื่อนไปด้วยตลอด อย่างพ่อแม่แก้วก็จะรู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น แก้วไปไหนก็จะโทร.บอกเขาตลอด ไม่เคยไปไหนไม่บอก มีอะไรก็ไม่สบายใจก็ปรึกษา”
“ในกลุ่มเพื่อนเขา ก็จะเด็กกว่าพี่ป้องบ้าง บางทีคุยอะไรกันก็จะมีไม่รู้เรื่องบ้าง อย่างเรื่องเพลง เพราะเราเกิดไม่ทัน (หัวเราะ) เราไม่รู้จัก หรือบางเพลงวัยรุ่นเกินไปเขาก็จะไม่รู้จัก จากแฟนคลับแก้วเดี๋ยวนี้กลายเป็นแฟนคลับพี่ป้องด้วย แฟนคลับเขาก็มาดูคอนเสิร์ตเราด้วย เขามีแฟนคลับวัยรุ่นเยอะ เราก็มีแฟนคลับรุ่นแม่ๆ เยอะเหมือนกัน”
“ถามว่าเขาดูแลดีไหมพอเป็นข่าว เขาก็ช่วยปลอบเหมือนกัน เพราะเราไม่เคยเจอข่าวเยอะขนาดนี้ ว่ามันเป็นธรรมดาของวงการอย่าไปคิดมาก ใครจะพูดอะไรก็อย่าไปสนใจ ช่วงแรกๆ ก็มีแต่คนชอบมาบอกว่า พี่เขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พี่เขาบอกว่ามีอะไรก็ให้คุยกัน อย่าฟังคนอื่นมากกว่า”
“คบกันก็ต้องเป็นผู้ใหญ่หน่อย ต้องฟังหูไว้หู เรื่องความเจ้าชู้เท่าที่ดูก็ไม่มีนะ เพราะแก้วก็รู้จักเพื่อนๆ เขานะ พี่ป้องก็บอกว่าจริงๆ เขาไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้นะ เป็นธรรมชาติของข่าวไม่เป็นเกย์ ก็เจ้าชู้ เขาขอยอมมีข่าวเจ้าชู้มากกว่า (หัวเราะ)”
ถามต่อด้วยความคาดหวังกับรักครั้งนี้สาว “แก้ว” ตอบเพียงสั้นๆ ว่า… “เราไม่ได้ใช้ชีวิตหวือหวาหรือเร่งรีบ อยากปล่อยไปให้เป็นไปตามเวลา ไม่อยากเร่งรีบ พี่เขาก็ไม่เร่งรีบ ขอคุยไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ”