“แป้ง” เผยได้ฤกษ์แต่ง “ผู้กองต้อม” ต้น ต.ค.นี้ แต่อุบสถานที่และวันที่แน่นอน เจ้าตัวบอกการแต่งงานไม่ใช่เรื่องใหญ่ มองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่จะประคับประคองกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เป็นอีกเรื่องนึงที่สำคัญกว่า
ได้ฤกษ์เดือน ต.ค.มาพักใหญ่ แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นวันไหน ล่าสุด ว่าที่เจ้าสาว “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” ก็ออกมาเผยฤกษ์ดีแต่ง “ผู้กองต้อม ร.ต.อ.ทรงพันธ์ กุลดิลก” ชัดเจนขึ้นมาอีกนิดนึงว่าเป็นต้นเดือน ต.ค.นี้ แต่ยังอุบสถานที่และวันที่แน่นอน เพราะต้องรอคอนเฟิร์มความพร้อมหลายๆ อย่างก่อน ทั้งนี้ เจ้าตัวเผยจะบอกแค่วันฉลอง แต่วันพิธีการขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว
“งานแต่งก็มีเตรียมบ้างแล้วนะคะ แต่ยังไม่ได้ไปไหนไกลเท่าไหร่ วันก็ได้ต้นๆ ตุลาฯนี้แล้วค่ะ แต่ว่าต้องดูสถานที่ด้วย ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นวันไหน คือ จริงๆ ที่มันก็ได้แล้ว แต่ว่ายังไม่รู้ว่ามันจะเตรียมทันหรือไม่ทัน คือ จริงๆ เลี้ยงมันไม่มีฤกษ์อยู่แล้วค่ะ ฤกษ์นี้แค่เป็นในส่วนของพิธีเช้าเฉยๆ”
“แต่เรื่องฉลองเรื่องนี้ยังไม่บอกได้มั้ย เรื่องส่วนตัวก็อยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว เอาไว้ถ้าถึงวันที่ฉลองแล้วจะบอกแล้วกัน จริงๆ ไม่อยากจะบอกใครอยู่แล้ว แต่มันเป็นเรื่องที่ปิดไม่ได้ ต้นตุลาฯเป็นงานฉลองค่ะ แต่พิธีขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวนะคะ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ในปีนี้ค่ะ”
“หมั้นก่อนแล้วค่อยแต่งค่ะ งานเลี้ยงน่าจะเป็นตอนเย็น แต่คงไม่ใช่วันเดียวกัน แป้งไม่ค่อยรู้ว่าพิธีเขาเป็นยังไง มันก็จะมีพิธีหมั้นวันนึง พิธีแต่งวันนึง พิธีเย็นวันนึง อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คน แล้วแต่ความสะดวกด้วย ไม่บอกวันค่ะ ขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว อะไรที่บอกได้ก็จะบอก ไม่ใช่ไปฉลองที่ทะเลค่ะ เพราะว่าแค่ในกรุงเทพฯยังไม่ทันเลยค่ะ ถ้าไปทะเลคงไม่ทันยิ่งไปใหญ่”
บอกตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้น เพราะเรื่องแต่งงานเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของชีวิต
“ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้นค่ะ แต่ถ้าใกล้ๆ ก็คงแบบว่า ไม่ทันแล้ว ก็คงตื่นเต้น แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็คงโทษคนจัดงาน เข้าคอร์สเตรียมคงไม่ค่ะ คงไม่จำเป็น แล้วเรื่องชุดถ้าเกิดทันก็คงทันค่ะ ถ้าไม่ทันก็คงต้องไปโวยเขาค่ะ เพื่อนๆ เจ้าสาวก็บอกเมื่อไหร่จะเอาผ้ามาให้ เราก็บอกยังไม่รู้เลย ก็เป็นเพื่อนๆ นอกวงการ”
“คือเรื่องแต่งงานมันไม่ได้เป็นจุดจบของทุกอย่าง แต่งงานมันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น แต่เราจะประคับประคองกันรอดหรือไม่รอด ก็เป็นอีกเรื่องนึง บางคนแต่งแล้วเลิกกันไปก็มี ใช่มั้ย เราเลยไม่อยากที่จะอะไร เพราะเราคิดว่าเรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น เพราะอนาคตต่อไปมันจะเป็นยังไง เราก็ไม่รู้อยู่แล้ว แต่คือวันนี้เราได้ทำอะไรที่มันเป็นไปตามรูปแบบประเพณี”