“เจเน็ต เขียว” ฉุนถูกคนหลอกจะมาเซ้งรีสอร์ตแล้วไม่จ่ายเงิน แถมโดนเชิดเงินแสน ที่แสบไปว่านั้น คู่กรณีสวมรอยไปหลอกคนอื่นว่าเข้ามาเทกโอเวอร์รีสอร์ตตน แล้วไปหลอกเงินคนรอบข้างอีกหลายล้าน ลั่นเตรียมแจ้งความเร็วๆ นี้
ทำเอาตลกไม่ออกเลยทีเดียว ในส่วนของ “เจเน็ต เขียว” ที่ล่าสุดเจ้าตัวถูกคนหลอกจะมาเซ้งรีสอร์ต “กรีนคอทเทจ บีช รีสอร์ท” ที่เกาะช้าง จ.ตราด แล้วไม่จ่ายเงิน ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเจ้าตัวสร้างจากน้ำพักน้ำแรง ที่ทำงานเก็บเงินมาตลอดชีวิต ทั้งนี้ เจเน็ต เขียว เผยว่า นอกจากคู่กรณีตัวแสบจะไม่ยอมจ่ายเงินค่าเซ้งที่ตกลงกันไว้ 13.5 ล้านบาท แล้ว อีกฝ่ายยังไปหลอกเงินคนรอบข้างมาอีกหลายล้าน บอกตนเตรียมแจ้งความเร็วๆ นี้
“รีสอร์ตที่ทำมีปัญหาตั้งแต่ปลายปี ผู้ที่จะซื้อเป็นคนที่อยุธยาหนีน้ำมา แล้วก็มาพักเสาร์-อาทิตย์ เขารู้สึกถูกชะตากับรีสอร์ตเรามาก พอดีเราเองก็มีปัญหา คือ คุณแม่ป่วยเป็นกระดูกทับเส้นสมองตีบ และก็มีความเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ก็รีบเอาคุณแม่มารักษา ซึ่งเราจะพาคุณแม่ออกจากเกาะ แต่เราก็อยากเซ้งรีสอร์ตให้ได้ก่อน ให้คนอื่นมาบริหารงานแทน”
“พอดีคนนี้เข้ามาก็เลยตกลงราคากัน และด้วยความที่เราใจร้อน อยากพาแม่มารักษาก็เลยให้เขาทำไปก่อน 45 วัน ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน ถึง 1 มกราคม ที่ผ่านมา และมันก็เกิดเหตุการณ์ที่เขาไปบอกคนอื่นๆ ว่า เขาจ่ายเงินให้เราครบแล้ว และไปเอาเงินจากคนอื่นมา ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้สักบาท และมกราคมช่วงระหว่างที่รอน้องๆ ก็ไม่กล้ายุ่งเรื่องเงิน ซึ่งเขาก็มาเก็บเงินรีสอร์ตไป ก็เลยโดนไปอีก”
“เด็กๆ ไม่กล้าเพราะเขาบอกว่าจ่ายเงินให้เรามาแล้ว ซึ่งราคาที่ตกลงว่าจะเซ้งรีสอร์ตประมาณ 10 กว่าล้าน ส่วนเงินที่เขามาเก็บซึ่งเป็นเงินที่แขกเข้ามาพักประมาณแสนกว่าบาท แต่จะบอกว่าคนรอบๆ ที่โดน มีหลายคนโดน 8 แสนบาท เพื่อนเขาก็โดนไป 1.4 ล้านบาท”
“คือ เราตกลงเซ้งให้เขา 13.5 ล้านบาท แต่เขาบอกคนอื่นเลยว่าเขาให้ 15 ล้านบาท เลยนะ และให้ไปแล้ว ให้หมดแล้ว คนเลยเชื่อแห่เงินเอาให้เขายืมกันใหญ่”
บอกจะแจ้งความดำเนินคดีแน่นอน เพราะไม่อยากให้ไปหลอกเงินคนอื่นอีก
“กว่าจะรู้ว่าเขาหลอกก็ 2-3 เดือนได้ เพราะบังเอิญน้องที่โคราชโดนเลยรู้ และเราก็เลยโทร.ไปบอกเด็กที่รีสอร์ต ให้เก็บเงินมา อย่าให้เขาเก็บ แต่น้องเขาก็ไม่กล้า เหมือนเขาไปเทกโอเวอร์แล้ว เขาเลยเข้าไปทำ เขาอ้างว่าให้เงินเราแล้วอย่างเดียวแค่นั้น แต่ไม่ได้เอาชื่อไปอ้างอย่างอื่น ก็เลยคิดว่าเร็วๆ นี้จะไปแจ้งความ”
“เราปรึกษากับอาจารย์ประมาณแล้ว (ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช กรรมการบริหารสภาทนายความ) ชื่อเขาจะต้องถูกจารึกในประเทศ เขาจะได้ไม่ทำกับคนอื่น และก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขายกเมฆ เขาอวดว่าเขามีแบคดี เป็นนักการเมืองใหญ่ ก็ไม่อยากให้เราเข้าไปยุ่งมาก ซึ่งตอนนี้เขาปิดมือถือไปแล้ว ติดต่อไม่ได้”
“ก็ต้องดำเนินการแจ้งความแน่นอน เพราะวิธีการของเขาเป็นวิธีการคนหลงเชื่อ มีแต่คนเอาเงินมาประเคนให้ โดยเขาหลอกว่าจะให้เงินก้อนโตในภายหลัง ซึ่งมันไม่มี มันมีวิธีแยบยล เอาจากคนนั้นคนนี้มา น้องสะใภ้เราก็โดนไป 2 แสนบาท ยังไงก็ต้องแจ้งความ ให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูก และไม่รู้ว่าเขาจะไปทำกับใครอีกหรือเปล่า ไปหลอกคนอื่นอีกไหม”
“ตอนนี้เราก็เลยต้องมาดูแลรีสอร์ตเอง เขาออกไปตั้งแต่กุมภาพันธ์ ช่วงเมษายนเขาคืนเงินให้ 40,000 บาท ซึ่งมันยังเหลืออีก 1.2 แสนบาท ของเรามันไม่เท่าไรเลย บางคนล้านกว่า 8 แสน 5 แสน ทุกคนรอบตัวเราโดนหมดเพราะเขาใช้สถานที่เราในการหลอกคนอื่น ถามว่าคิดจะเซ้งอีกไหม คือ ก็ถ้ามีคนอยากทำจริง เพราะเราไม่มีเวลาอยากให้คนที่เขาทำงานเป็นมาทำค่ะ”