“เมจิ” เปิดใจแต่งแล้วอยากมีลูกเลย เพราะสามีแก่แล้ว เล็งมีคนเดียว และอยากได้ลูกสาว พร้อมเผยผันตัวเป็นนักธุรกิจอาหารเสริมสำหรับสุนัข บอกว่า ที่สามีวางรากฐานไว้ให้ เพราะไม่อยากเป็นแม่บ้านอย่างเดียว
นอกจาก “เมจิ อโณมา ศรัณย์ศิขริน” จะเปิดใจให้นักธุรกิจชาวออสเตรเลีย นาม “เควิน บรูซ คุค” เข้ามาเป็นหุ้นส่วนชีวิต เพราะมีแผนจะแต่งงานกันปลายปีนี้แล้ว ล่าสุด ทั้งคู่ยังเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกัน ด้วยการเปิดธุรกิจนำเข้าสารสกัด 100% จากธรรมชาติสำหรับสุนัข ภายใต้แบรนด์ VetzPetz® Antinol โดยเมจิได้เปิดเผยว่า เป็นธุรกิจที่แฟนหนุ่มวางรากฐานไว้ให้ ซึ่งตนก็อยากลองทำ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง
“สำหรับธุรกิจตัวนี้เราทำร่วมกัน เมจิเป็นผู้นำเข้า คุณเควินเป็นที่ปรึกษา คอยสอนดูแลเบื้องหลัง ซึ่งจริงๆ เขามีตลาดอยู่ต่างประเทศอยู่แล้ว และเมจิ มองว่า ตลาดในเมืองไทยน่าสนใจ และเราก็มองคนรอบข้างเพื่อนๆ เองก็เลี้ยงสุนัข เลยคิดว่าตลาดเมืองไทยน่าจะดี”
“เราก็รักสัตว์ รู้ว่าความต้องการของเจ้าของคืออะไร เราอยากลองพัฒนาตัวเองด้วย เมจิทำเองทุกอย่าง ทั้งรายรับรายจ่าย การตลาด ทุกอย่างเลยค่ะ เราทำได้ทุกหน้าที่ เมจิคิดว่ามันเป็นความรู้ของเราเอง เพื่อที่เราจะได้เติบโตมากขึ้น ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว เรียกอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
“ก็ยอมรับธุรกิจนี้เหมือนเป็นการสร้างครอบครัวด้วย คุณเควินเขาก็อยากให้เมจิดูแลเองทั้งหมด เขาอยากให้เราดูตลาดเมืองไทย และเขาจะเป็นที่ปรึกษา เขาเองเก่งในเรื่องของการลงทุน เราก็ศึกษาวิชาจากเขา เพื่อมีลูกในอนาคตจะได้ให้ลูกสานต่อ”
“เรากำลังก่อร่างสร้างตัว คุณเควิน อยากให้เราทำธุรกิจนี้เอง แต่ถ้าหากวันนึงมีลูกเขาก็อยากให้เราเลี้ยงลูกก่อน เขาไม่อยากให้เราทิ้งความรู้ เขาไม่อยากให้เมจิเป็นแต่แม่บ้านที่ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งเมจิก็ไม่ได้ชอบเช่นนั้น”
อัปเดตคืบหน้างานแต่งงานที่ภูเก็ตปลายปีนี้ แจงยังไม่เตรียมอะไรมาก ส่วนงานหมั้นจะจัดในเดือนสิงหาคมนี้
“เราจะหมั้นกันที่เมืองไทยและแต่งกันที่ภูเก็ต ประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งประมาณเดือนสิงหาคมนี้ เราก็จะจัดพิธีหมั้นคงเล็กๆ มากๆ และเราจะไปเมืองนอก เขาจะไปขอแต่งงาน ความจริงเขายังไม่ได้ขอแบบโรแมนติก ทุกคนรู้แล้วว่าเขาจะไปขอเมจิแต่งงานที่ไหน แต่เมจิไม่ยังไม่ทราบ สำหรับงานแต่ง เมจิยังไม่ได้เริ่มจัดอะไรเท่าไหร่ เพราะเมจิยังยุ่งๆ กับงานอยู่ งานแต่งก็เรียบๆ ง่ายๆ ไม่มีชุดใหญ่โตหรูหราอะไรเหมือนครั้งก่อน”
“ส่วนคุณแมน (อดีตสามี) จะมาก็ได้ แต่หลังจากคราวนั้นก็ไม่เห็นตอบรับอะไร แขกก็แค่ 61 คน ทั้งฝั่งเขาฝั่งเรา อยากให้ส่วนตัว เรื่องพิธีรีตองอะไรตัดไปเลย เพราะเราแต่งงานครั้งที่ 2 แล้ว เราโตแล้ว เน้นความสนุกมากกว่า เราก็ไม่ได้หวั่นกลัวกับการที่จะแต่งงานรอบสอง เพราะทุกคนก็ฝันว่าอยากแต่งงานอย่างมีความสุข แต่เมจิมั่นใจในตัวเขา”
“คราวที่แล้วเราถือฤกษ์งามยามที่ดีที่สุดของปีเลยนะ แต่ก็ยังเกิดขึ้นได้ ณ วันนี้ไม่ว่าอะไรก็ตาม มันขึ้นอยู่ที่เราสองคนมากกว่า สิ่งภายนอกเป็นแค่สิ่งที่สนุกสนาน”
“แต่งเสร็จแล้วก็คงอยู่เมืองไทย เพราะเขาก็ถามเราว่าอยากอยู่ที่เมืองไทยหรือเมืองนอก เพราะเขาเริ่มติดอาหารไทย มองผู้หญิงไทยน่ารัก แต่ต้องมองเราคนเดียวนะ (หัวเราะ) ส่วนงานแต่งก็อาจจะเป็นแบบฝรั่งๆ เพราะอยากเปลี่ยนแนวเห็นในหนังแล้วโรแมนติก แต่เราก็อยากได้ง่ายๆ ที่สุด ตอนนี้คุณเควินก็สร้างรากฐานให้เมจิ ตอนนี้เขาก็ย้ายมาอยู่เมืองไทย”
“ที่เรามั่นใจในตัวเขาเพราะเมจิสามารถคุยกับเขาในสิ่งที่เรากังวล ข้อบกพร่องของตัวเอง เขารับฟังและแก้ไข คือเราอยู่กับเขา สามารถพูดได้ทุกเรื่องจริงๆ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเมจิ เขาจะมองเรื่องงี่เง่า เป็นเรื่องที่น้อยมาก เพราะบางทีเราเด็กก็จะงอแงบ้าง เขาทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก นี่คือสิ่งที่ทำให้เมจิเกรงใจและเคารพเขามาก และความรับผิดชอบเขาเยอะ สนับสนุนเราในทางที่ดี เขาชอบเราที่เป็นคนสนุกสนาน”
“เรื่องสินสอดทองหมั้นเมจิไม่ได้คิดมาก แค่เขาสัญญาว่าจะดูแลเรา และครอบครัวเราด้วย ไม่ใช่แค่เราสบาย ครอบครัวเราก็ต้องสบาย ก็อาจจะมีน้องเลยปีหน้า เพราะปีนี้งานเรายุ่งมาก อีกอย่างสามีเราแก่แล้ว (หัวเราะ) แต่คิดว่าอยากมีแค่คนเดียว เพราะว่าถ้าสองคนจะวุ่นวายเกินไป เพื่อเราจะได้มีเวลาให้กันและกัน และดูแลธุรกิจได้ ซึ่งอยากได้ลูกสาวมากกว่าค่ะ”