“เสี่ยตา” ยันทีมงานไม่ได้จัดฉากจ้าง “น้องปอนด์” มาเปลือยอกวาดภาพเรียกกระแสให้ “ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์” แต่ยอมรับเอเยนต์อาจจะจ่ายเงินชักชวนมา ด้านชาวเน็ตจวกเละ “ช่อง 3-เวิร์คพอยท์” เห็นแก่ได้ ส่วน กสทช.เรียกชี้แจงพรุ่งนี้
ยังคงกลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อกรณีรายการ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์” เทปวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน ได้นำเสนอภาพของหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน “ปอนด์ ดวงใจ จันทร์เสือน้อย” เปลือยอกวาดภาพ กระทั่งหลายฝ่ายต่างออกมาติติงในเรื่องของความเหมาะสมไปยัง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิต รวมถึงสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่ผ่านมา แม้ทางผู้บริหารของเวิร์คพอยท์ “ปัญญา นิรันดร์กุล” จะออกมาขอโทษและยืนยันว่า จะไม่ให้มีเรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้น ทว่า เรื่องนี้ก็ยังคงไม่จบลงแต่อย่างใด หลังมีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของ “ปอนด์ ดวงใจ” ได้ออกมาให้รายละเอียด ว่า จริงๆ แล้วเพื่อนของตนเองนั้น มีอาชีพเป็นนางแบบนู้ด และที่เข้ามาประกวดรายการนี้ ก็เพราะมีคนมาติดต่อโดยให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท ซึ่งที่ตนต้องออกมาแฉเช่นนี้ ก็เพราะรู้สึกสงสารเพื่อนที่ต้องตกเป็นจำเลยสังคมโดยไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
โดยเรื่องดังกล่าวทำเอาผู้บริหารเวิร์คพอยท์ อย่าง “ปัญญา นิรันดร์กุล” เองต้องออกมาชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่าหลังจากได้ซักถามกับทีมงานทั้งหมดแล้ว ขอยืนยันว่า ไม่มีทีมงานของรายการไปทำเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ เจ้าตัวก็ยอมรับว่า อีกฝ่ายอาจจะถูกจ้างมาจริงผ่านทางเอเยนต์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะรายการทีวีรายการอื่นก็ใช้วิธีการเช่นนี้
“คือ ทีมงานของเรามีหน้าที่เปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานทุกรูปแบบ ส่วนจะมีบุคคลหรือว่าเอเยนต์จะไปติดต่อ หรือะไรก็แล้วแต่เขา เราไม่เกี่ยว ซึ่งบางทีทางเอเยนต์เขาก็พามาหลายคน แล้วก็มีหลายๆ คนที่ชักชวนกันมา แนะนำกันมา ยืนยันว่า เรตติ้งเราดีอยู่แล้วทีมงานไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น”
“ส่วนเรื่องที่มีคนไปชักชวนไปทาบทามเขาอาจจะมีค่าตอบแทนอะไร ก็เป็นไปในส่วนของเขา มันน่าจะเป็นในลักษณะนั้นมากกว่า รายการต่างๆ ก็ทำ ก็เชิญมาออกได้เหมือนกันเป็นเรื่องปกติวงเพลงก็มีได้...ส่วนผู้เข้าแข่งขันจริงๆ มันก็ต้องมีการพูดคุยกันก่อนบ้าง เช่น อาจจะต้องมีการเซ็ตเรื่องของเสื้อผ้า หรือว่าอะไรก็ว่าไป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติอะไร”
ผู้บริหารเวิร์คพอยท์ เปิดเผยต่อไปว่า ตอนนี้ทางทีมงานยังไม่สามารถติดต่อกับเอเยนต์คนดังกล่าวได้ ซึ่งตนก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกว่าเป็นคนผิดอะไรหรือเปล่าทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้วก็เป็นอาชีพของเขา ก่อนจะบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นปัญหา ก็เพราะมันมีการโป๊เปลือยที่ตนคิดว่าเซ็นเซอร์พอแล้ว แต่มันไม่พอนั่นเอง
“สมมติว่า เป็นนางแบบนู้ด...เราก็ต้องยอมนะ แต่ผมมองว่าที่เป็นปัญหา เพราะบนเวทีมันเกิดการโป๊เปลือย แล้วคนรับไม่ได้ ก็ต้องขออภัย คุยกับคุณโจ (จิรายุส วรรธนะสิน) เขาก็เสียใจ ที่ตัดสินไปแบบนั้น...ส่วนเรื่องเอเยนต์ไปเจอเด็กให้เงินมา ก็ไม่เป็นไร ก็ให้เงินก็เรื่องของเขา”
“เพียงแต่อย่างที่บอกมันมากเกินไปเพราะมันมีการเปลือย ซึ่งเราก็เซ็นเซอร์แล้ว แต่มันก็ไม่พอ เราคิดว่าพอ แต่มันไม่พอ ก็ถือเป็นบทเรียนแล้วก็ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน”
สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆ นั้น มีรายงานว่า ทางฟากของคณะอนุกรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้เตรียมที่จะเรียกผู้บริหารของช่อง 3 เข้ามาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ทาง กสทช.เองได้เข้ามามีบทบาทต่อเนื้อหาที่นำเสนอผ่านรายการทีวี
ขณะที่ในส่วนของการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านโลกไซเบอร์ ก็เป็นไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมันเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ต่างพากันโพสต์ข้อความต่อว่าไปยังช่อง 3 และ บ.เวิร์คพ้อยท์ โดยมองว่า ทั้งสองบริษัทนั้นไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เห็นแก่เรื่องของกระแสเรตติ้งเป็นหลัก ซึ่งบางส่วนยังได้เรียกร้องให้มีการถอดรายการออก เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า รายการนี้ไม่ได้แข่งประกวดทักษะความสามารถกันอย่างแท้จริง หากแต่มีการเตี้ยมและจัดฉากกันขึ้นมานั่นเอง
เช่นเดียวกับการชี้แจงของผู้บริหารเวิร์คพอยท์ ที่หลายคนมองว่า เป็นการตอบที่ไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะเหตุผลที่ยอมให้มีการเผยแพร่ภาพเทปดังกล่าวออกอากาศ โดยบอกว่า เป็นเพราะทางรายการต้องเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนได้แสดงความสามารถ ซึ่งถ้าไม่ให้ออก ก็จะเป็นการทำลายโอกาส และทำร้ายความรู้สึกของผู้เข้าแข่งขัน แต่เจ้าตัวกลับยอมรับว่า มีผู้เข้าแข่งขันหลายคนที่ทางทีมงานพิจารณาแล้ว และตัดสินใจว่าจะไม่นำมาออกอากาศแต่อย่างใด