โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ด้วยอีโก้ที่ล้นรูกาก ทำให้ป๋า“เจมส์ เฮทฟิลด์”(James Hetfield) กับ“เฮียเบี้ยว : เดฟ มัสเทน”(Dave Mustaine)แห่งเมทัลลิก้าในยุคแรกเริ่ม ทะเลาะกันจนถึงขั้นผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แยกวง แยกตัวออกมาเดินกันคนละทางสร้างดาวกันคนละดวง
แต่นั่นกลับส่งผลดีต่อแฟนๆหูเหล็กแนวหนักกะโหลกทั่วโลก
เพราะเฮียเดฟปากเบี้ยวได้ออกมาเป็นผู้ก่อการก่อตั้งวง “เมกาเดธ” (Megadeth)ขึ้นในปี ค.ศ. 1983 พร้อมกับนำดนตรีเสียงจากนรกแหกทะลวงกึ๋นขึ้นเป็น “Big 4” หนึ่งในสี่เจ้าพ่อของยุทธจักรวงการแทรชเมทัล(สปีดเมทัล)ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
จากอัลบั้มชุดแรก“Killing Is My Business... And Business Is Good!” ที่แจ้งเกิดสร้างชื่อให้กับเมกาเดธ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง และคำชมไป มาวันนี้พี่เบี้ยวควบพาเมกาเดธมาถึงอัลบั้มที่ 13 แล้ว
13 อาจเป็นตัวเลขอาถรรพ์ตามความเชื่อของฝรั่ง แต่กับเฮียเดฟแล้วนี่ดูจะเป็นอัลบั้มที่มีความหมายต่อเขามาก เพราะ 13 เป็นวันคล้ายวันเกิดเขาในวันที่ 13 กันยายน ดังนั้นเฮียเดฟจึงตั้งชื่อชุดผลงานลำดับที่ 13 ของเขาว่า “TH1RT3EN”
TH1RT3EN เป็นอัลบั้มที่ส่งมาถล่มรูหูชาวเมทัลได้พักใหญ่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่เป็นอัลบั้มที่ฟังทีไรผมก็มันทู้กที
งานเพลงชุดนี้เฮียเดฟที่รับเหมาทั้งเล่นกีตาร์และแหกปากเบี้ยวๆร้องนำ ได้ “เดฟ เอเลฟสัน”(Dave Ellefson) มือเบสยุคก่อตั้งวัวเคยขาม้าเคยขี่ที่เคยร่วมงานกับเฮียเดฟ(มัสเทน) มาตั้งแต่ยุคก่อตั้งและยุคไลน์อัพตั้งแต่ปี 1983-2002 มาร่วมขย่มขโยกดึงทึ้งเบส เติมพลังเสียงจากนรกที่ฟังแล้วสะเด็ดสะเด่าเข้าไปถึงไส้ติ่ง
ขณะที่แนวร่วมจากนรกอีก 2 พะหน่อก็ได้แก่ “คริส โบรเดริค”(Chirs Broderick) ขยี้กีตาร์แบบไม่ปราณีปราศรัย และ “ชาวน์ โดรเวอร์”(Shawn Drover) กระหน่ำกลอง หวดสแนร์ กระทืบกระเดื่อง ชนิดสะเตือนไปถึงตับไต
TH1RT3EN เป็นอัลบั้มที่ 13 มีทั้งหมด 13 เพลงด้วยกัน ซึ่งตั้งแต่ชุดแรกมาจนถึงชุดล่าสุด ปกอัลบั้มของเมกาเดธยังคงเป็นคอนเซ็ปต์ว่าด้วยเรื่องของภูตผีปีศาจนรกอเวจีที่น่าดูและน่ากลัวพอๆกัน
สำหรับอัลบั้มเลขอาถรรพ์นี้ เฮียเบี้ยวเปิดตัวด้วย “Sudden Death” เพลงประกอบเกม Guitar Hero: Warriors Of Rock ขึ้นอินโทรมาด้วยเสียงกีตาร์กระชากคอร์ดสุดเถื่อน ส่วนอีกไลน์ไล่สเกลเร็วปรื๋อ ก่อนส่งเขาต้นเพลงที่ฟังไม่ต่างอะไรจากในสนามรบ เพราะมือกีตาร์ทั้งคู่กระหน่ำรัวกีตาร์รับส่งกันฟังยังกับเสียงปืนกลรัวใส่กัน ก่อนที่เฮียเบี้ยวจะแหกปากนำพาซาวดน์เจ้าพ่อแทรชแบบเมกาเดธออกอาละวาดแบบมันสะเด็ดสะเด่า เสียงกีตาร์คู่ในเพลงนี้เล่นสอดรับประสานกันได้มันมาก
“Public Enemy No. 1” ความหด เอ๊ย!!! ความโหดลดโทนลงมานิดเป็นเฮฟวี่เมทัลหนักๆ ตัวเพลงมีเมโลดี้ชวนฟัง เนื้อเพลงพูดถึงแก๊งอาชญกรรมของเจ้าพ่ออัล คาโปน ส่วน “Whose Life (Is It Anyways?)”ขึ้นต้นจัดหนักมาแบบแทรชสปีดเร็วปรื๋อ กลองฟาดหวดไม่ยั้ง เฮียเดฟแหกปากแบบไม่แคร์สื่อ ท่อนเปลี่ยนพาร์ทดึงอารมร์มาเป็นเฮฟวี่มันๆแต่เร็ว แรงส์
“We The People” เสียงเอ็คโค่โทรโข่งเหมือนการปล่าวประกาศนำมา ซาวดน์แบ็คอัพหนึ่งกีตาร์ฟาดคอร์ดไม่ยั้ง ส่วนอีกหนึ่งไล่โน้ตทางสวยๆมีเมโลดี้ไม่มั่ว ดนตรีเพลงนี้มีการเปลี่ยนพาร์ทดึงอารมณ์หน่วงๆสลับอารมณ์ แต่แม่มก็ยังโหดอยู่ดี
“Guns, Drugs, & Money” ซาวดน์เพลงฟังแล้วให้นึกถึงอัลบั้ม “Countdown to Extinction”(1992) เฮียเบี้ยวตะโกนแหกปากเบี้ยวๆของแกได้สะเด็ดสะเด่า ภาคดนตรีมีการเปลี่ยนพาร์ทไปมาแต่สามารถทำต่ออารมณ์ได้อย่างกลมกลืน กีตาร์ 2 ตัวโซโลรับส่งกันสั้นแต่มันและรื่นไหล
“Never Dead” ขึ้นมาในอารมณ์ล่องลอยยังกับพวกไซคีเดลิก ฟังผิดไปจากซาวดน์หากินของเฮียเบี้ยว แต่ประทานโทษ!?! แกหลอกให้เราตายใจได้แป๊บเดียวจากนั้นเสียงกีตาร์รัวแบบปืนกลค่อยๆรัวเข้ามานี่ถ้าอยู่ในสนามรบพวกยิงศัตรูตายไปเป็นเบือ
เพลงนี้จังหวะเร็วปรื๋อ กีตาร์เล่นริฟฟ์ดุดันคมชัด ส่งต่อไปสู่โลกใหม่ “New World Order”ในแทรคถัดไปที่เปิดด้วยลูกริฟฟ์หนักๆออกไปทางเฮฟวี่เมทัล ไลน์กีตาร์โซโลเล่นแม้ดุแต่เจือไว้ด้วยความหวานอันรื่นไหล
“Fast Lane” ดีกรีความเร่งเร้าขึ้น จัดมันใส่กันมา กลองกระหน่ำรัวเหมือนคนรีบจะไปนรก ท่อนท้ายเปลี่ยนพาร์ทกับลูกโซโลกีตาร์มันๆ อารมณ์เพลงดึงหน่วงลงมา ก่อนกลับไปอัดไม่ยั้งใส่กันอีกครั้ง
“Black Swan” ลดโทนลงมาเป็นเฮฟวี่เมทัลมันๆ เบรกอารมณ์แทรชหนักกะโหลกกันนิดนึง ส่วน “Wrecker” นี่ก็ยังคงมันอย่างต่อเนื่อง
มาถึง “Millennium Of The Blind” โอว...เฮียเบี้ยวแกสลับอารมณ์ขึ้นนำด้วยบัลลาดช้าๆ กีตาร์โซโลเมโลดี้สวยๆ เป็นความหวานที่ฟังเหมือนล่องลอยมาจากนรก เพลงนี้มีทั้งอารมณ์หวานพลิ้ว บาดลึกสลับไปกับความหนักแน่นดุดัน
กลับมาโหดอีกครั้งกับ “Deadly Nightshade” ไลน์กีตาร์บางช่วงฟังแล้วชวนให้นึกถึงเมทัลลิก้าซะงั้น อ้าว...พูดยังงี้ไม่รู้ว่าเฮียเบี้ยวแกจะเคืองหรือเปล่า
จากนั้นมาปิดท้ายกันด้วย “13” เลขอาถรรพ์ของฝรั่งที่เป็นทั้งวันเกิดและลำดับอัลบั้ม 13 มาเปิดแนวหวาน เสียงปิ๊กกิ้งใสๆเล่นลอยนำมา ตามด้วยไลน์โซโลกีตาร์หวานๆก่อนที่บทเพลงจะเพิ่มดีกรีความหนักขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีไม่ว่าตัวเพลงจะหวานหยดย้อยแค่ไหน แต่เฮียเบี้ยวก็ยังคงเอกลักษณ์ในการร้องด้วยการตะโกนสำรอกปานประหนึ่งเสียงชักโครกกระปานนั้น
แต่นี่แหละถือเป็นเสน่ห์ของเมกาเดธที่ครองใจสาวกหูเหล็กทั่วโลก ซึ่งแม้ยุคสมัยรสนิยมทางดนตรีจะเปลี่ยนไป อายุอานามจะมากขึ้น แต่เฮียเบี้ยวและสมาชิกของเขายังคงเส้นคงวาอยู่กับการทำเพลงที่มีซาวดน์และสไตล์ในแบบของเขา ที่ยังคงความหนักแน่น ดนตรีมันสะใจ โครงสร้างของเพลงมีความซับซ้อน แต่ไม่มั่ว เสียงร้องแหกปากตะโกนสำรอกกันอย่างถึงแก่น เบสกลองใส่กันแบบไม่ยั้ง ส่วนกีตาร์คู่ที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเน้นการเล่นกลมกลืนเข้าขามากกว่าการโชว์เดี่ยวแบบพวกกีตาร์ฮีโร่
นับเป็นลายเซ็นทางดนตรีในแบบเมกาเดธทียากต่อการเลียนแบบ
หรือถึงแม้ใครคิดเลียนแบบก็ยากที่จะทำได้เจ๋งเท่า
ด้วยอีโก้ที่ล้นรูกาก ทำให้ป๋า“เจมส์ เฮทฟิลด์”(James Hetfield) กับ“เฮียเบี้ยว : เดฟ มัสเทน”(Dave Mustaine)แห่งเมทัลลิก้าในยุคแรกเริ่ม ทะเลาะกันจนถึงขั้นผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แยกวง แยกตัวออกมาเดินกันคนละทางสร้างดาวกันคนละดวง
แต่นั่นกลับส่งผลดีต่อแฟนๆหูเหล็กแนวหนักกะโหลกทั่วโลก
เพราะเฮียเดฟปากเบี้ยวได้ออกมาเป็นผู้ก่อการก่อตั้งวง “เมกาเดธ” (Megadeth)ขึ้นในปี ค.ศ. 1983 พร้อมกับนำดนตรีเสียงจากนรกแหกทะลวงกึ๋นขึ้นเป็น “Big 4” หนึ่งในสี่เจ้าพ่อของยุทธจักรวงการแทรชเมทัล(สปีดเมทัล)ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
จากอัลบั้มชุดแรก“Killing Is My Business... And Business Is Good!” ที่แจ้งเกิดสร้างชื่อให้กับเมกาเดธ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง และคำชมไป มาวันนี้พี่เบี้ยวควบพาเมกาเดธมาถึงอัลบั้มที่ 13 แล้ว
13 อาจเป็นตัวเลขอาถรรพ์ตามความเชื่อของฝรั่ง แต่กับเฮียเดฟแล้วนี่ดูจะเป็นอัลบั้มที่มีความหมายต่อเขามาก เพราะ 13 เป็นวันคล้ายวันเกิดเขาในวันที่ 13 กันยายน ดังนั้นเฮียเดฟจึงตั้งชื่อชุดผลงานลำดับที่ 13 ของเขาว่า “TH1RT3EN”
TH1RT3EN เป็นอัลบั้มที่ส่งมาถล่มรูหูชาวเมทัลได้พักใหญ่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่เป็นอัลบั้มที่ฟังทีไรผมก็มันทู้กที
งานเพลงชุดนี้เฮียเดฟที่รับเหมาทั้งเล่นกีตาร์และแหกปากเบี้ยวๆร้องนำ ได้ “เดฟ เอเลฟสัน”(Dave Ellefson) มือเบสยุคก่อตั้งวัวเคยขาม้าเคยขี่ที่เคยร่วมงานกับเฮียเดฟ(มัสเทน) มาตั้งแต่ยุคก่อตั้งและยุคไลน์อัพตั้งแต่ปี 1983-2002 มาร่วมขย่มขโยกดึงทึ้งเบส เติมพลังเสียงจากนรกที่ฟังแล้วสะเด็ดสะเด่าเข้าไปถึงไส้ติ่ง
ขณะที่แนวร่วมจากนรกอีก 2 พะหน่อก็ได้แก่ “คริส โบรเดริค”(Chirs Broderick) ขยี้กีตาร์แบบไม่ปราณีปราศรัย และ “ชาวน์ โดรเวอร์”(Shawn Drover) กระหน่ำกลอง หวดสแนร์ กระทืบกระเดื่อง ชนิดสะเตือนไปถึงตับไต
TH1RT3EN เป็นอัลบั้มที่ 13 มีทั้งหมด 13 เพลงด้วยกัน ซึ่งตั้งแต่ชุดแรกมาจนถึงชุดล่าสุด ปกอัลบั้มของเมกาเดธยังคงเป็นคอนเซ็ปต์ว่าด้วยเรื่องของภูตผีปีศาจนรกอเวจีที่น่าดูและน่ากลัวพอๆกัน
สำหรับอัลบั้มเลขอาถรรพ์นี้ เฮียเบี้ยวเปิดตัวด้วย “Sudden Death” เพลงประกอบเกม Guitar Hero: Warriors Of Rock ขึ้นอินโทรมาด้วยเสียงกีตาร์กระชากคอร์ดสุดเถื่อน ส่วนอีกไลน์ไล่สเกลเร็วปรื๋อ ก่อนส่งเขาต้นเพลงที่ฟังไม่ต่างอะไรจากในสนามรบ เพราะมือกีตาร์ทั้งคู่กระหน่ำรัวกีตาร์รับส่งกันฟังยังกับเสียงปืนกลรัวใส่กัน ก่อนที่เฮียเบี้ยวจะแหกปากนำพาซาวดน์เจ้าพ่อแทรชแบบเมกาเดธออกอาละวาดแบบมันสะเด็ดสะเด่า เสียงกีตาร์คู่ในเพลงนี้เล่นสอดรับประสานกันได้มันมาก
“Public Enemy No. 1” ความหด เอ๊ย!!! ความโหดลดโทนลงมานิดเป็นเฮฟวี่เมทัลหนักๆ ตัวเพลงมีเมโลดี้ชวนฟัง เนื้อเพลงพูดถึงแก๊งอาชญกรรมของเจ้าพ่ออัล คาโปน ส่วน “Whose Life (Is It Anyways?)”ขึ้นต้นจัดหนักมาแบบแทรชสปีดเร็วปรื๋อ กลองฟาดหวดไม่ยั้ง เฮียเดฟแหกปากแบบไม่แคร์สื่อ ท่อนเปลี่ยนพาร์ทดึงอารมร์มาเป็นเฮฟวี่มันๆแต่เร็ว แรงส์
“We The People” เสียงเอ็คโค่โทรโข่งเหมือนการปล่าวประกาศนำมา ซาวดน์แบ็คอัพหนึ่งกีตาร์ฟาดคอร์ดไม่ยั้ง ส่วนอีกหนึ่งไล่โน้ตทางสวยๆมีเมโลดี้ไม่มั่ว ดนตรีเพลงนี้มีการเปลี่ยนพาร์ทดึงอารมณ์หน่วงๆสลับอารมณ์ แต่แม่มก็ยังโหดอยู่ดี
“Guns, Drugs, & Money” ซาวดน์เพลงฟังแล้วให้นึกถึงอัลบั้ม “Countdown to Extinction”(1992) เฮียเบี้ยวตะโกนแหกปากเบี้ยวๆของแกได้สะเด็ดสะเด่า ภาคดนตรีมีการเปลี่ยนพาร์ทไปมาแต่สามารถทำต่ออารมณ์ได้อย่างกลมกลืน กีตาร์ 2 ตัวโซโลรับส่งกันสั้นแต่มันและรื่นไหล
“Never Dead” ขึ้นมาในอารมณ์ล่องลอยยังกับพวกไซคีเดลิก ฟังผิดไปจากซาวดน์หากินของเฮียเบี้ยว แต่ประทานโทษ!?! แกหลอกให้เราตายใจได้แป๊บเดียวจากนั้นเสียงกีตาร์รัวแบบปืนกลค่อยๆรัวเข้ามานี่ถ้าอยู่ในสนามรบพวกยิงศัตรูตายไปเป็นเบือ
เพลงนี้จังหวะเร็วปรื๋อ กีตาร์เล่นริฟฟ์ดุดันคมชัด ส่งต่อไปสู่โลกใหม่ “New World Order”ในแทรคถัดไปที่เปิดด้วยลูกริฟฟ์หนักๆออกไปทางเฮฟวี่เมทัล ไลน์กีตาร์โซโลเล่นแม้ดุแต่เจือไว้ด้วยความหวานอันรื่นไหล
“Fast Lane” ดีกรีความเร่งเร้าขึ้น จัดมันใส่กันมา กลองกระหน่ำรัวเหมือนคนรีบจะไปนรก ท่อนท้ายเปลี่ยนพาร์ทกับลูกโซโลกีตาร์มันๆ อารมณ์เพลงดึงหน่วงลงมา ก่อนกลับไปอัดไม่ยั้งใส่กันอีกครั้ง
“Black Swan” ลดโทนลงมาเป็นเฮฟวี่เมทัลมันๆ เบรกอารมณ์แทรชหนักกะโหลกกันนิดนึง ส่วน “Wrecker” นี่ก็ยังคงมันอย่างต่อเนื่อง
มาถึง “Millennium Of The Blind” โอว...เฮียเบี้ยวแกสลับอารมณ์ขึ้นนำด้วยบัลลาดช้าๆ กีตาร์โซโลเมโลดี้สวยๆ เป็นความหวานที่ฟังเหมือนล่องลอยมาจากนรก เพลงนี้มีทั้งอารมณ์หวานพลิ้ว บาดลึกสลับไปกับความหนักแน่นดุดัน
กลับมาโหดอีกครั้งกับ “Deadly Nightshade” ไลน์กีตาร์บางช่วงฟังแล้วชวนให้นึกถึงเมทัลลิก้าซะงั้น อ้าว...พูดยังงี้ไม่รู้ว่าเฮียเบี้ยวแกจะเคืองหรือเปล่า
จากนั้นมาปิดท้ายกันด้วย “13” เลขอาถรรพ์ของฝรั่งที่เป็นทั้งวันเกิดและลำดับอัลบั้ม 13 มาเปิดแนวหวาน เสียงปิ๊กกิ้งใสๆเล่นลอยนำมา ตามด้วยไลน์โซโลกีตาร์หวานๆก่อนที่บทเพลงจะเพิ่มดีกรีความหนักขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีไม่ว่าตัวเพลงจะหวานหยดย้อยแค่ไหน แต่เฮียเบี้ยวก็ยังคงเอกลักษณ์ในการร้องด้วยการตะโกนสำรอกปานประหนึ่งเสียงชักโครกกระปานนั้น
แต่นี่แหละถือเป็นเสน่ห์ของเมกาเดธที่ครองใจสาวกหูเหล็กทั่วโลก ซึ่งแม้ยุคสมัยรสนิยมทางดนตรีจะเปลี่ยนไป อายุอานามจะมากขึ้น แต่เฮียเบี้ยวและสมาชิกของเขายังคงเส้นคงวาอยู่กับการทำเพลงที่มีซาวดน์และสไตล์ในแบบของเขา ที่ยังคงความหนักแน่น ดนตรีมันสะใจ โครงสร้างของเพลงมีความซับซ้อน แต่ไม่มั่ว เสียงร้องแหกปากตะโกนสำรอกกันอย่างถึงแก่น เบสกลองใส่กันแบบไม่ยั้ง ส่วนกีตาร์คู่ที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเน้นการเล่นกลมกลืนเข้าขามากกว่าการโชว์เดี่ยวแบบพวกกีตาร์ฮีโร่
นับเป็นลายเซ็นทางดนตรีในแบบเมกาเดธทียากต่อการเลียนแบบ
หรือถึงแม้ใครคิดเลียนแบบก็ยากที่จะทำได้เจ๋งเท่า