xs
xsm
sm
md
lg

“ก้อ กรู๊ฟไรเดอร์ส” เดี่ยวชุด 2 เพลงดีๆจากคนเสียงไม่ดี กับ MV “พี่มาร์คโง่ที่ดันไม่รักน้องปู” /บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ก้อ –ณฐพล ศรีจอมขวัญ
ในยุทธจักรวงการเพลงบ้านเรา ไม่บ่อยนักที่ “มือเบส” จะออกอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเอง

แต่สำหรับ “ก้อ -ณฐพล ศรีจอมขวัญ” มือเบสมากฝีมือจากวงดัง “กรู๊ฟ ไรเดอร์ส”(Groove Riders)และอดีตมือเบสแบ็คอัพโมเดิร์นด็อก และผู้ร่วมก่อตั้งวง P.O.P. มาวันนี้เขามีอัลบั้มเดี่ยวออกมาเป็นชุดที่สองแล้ว

เรียกว่ามือเบสวงนี้มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวมากกว่านักร้องนำของวงเสียอีก(บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ นักร้องนำของวงกรู๊ฟ ไรเดอร์ส มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวออกมาเพียงชุดเดียวคือ แกรน ทัวริสโม)

ก้อ นอกจากจะเป็นมือเบสและหัวหน้าวงกรู๊ฟ ไรเดอร์สแล้ว เขายังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินอีกหลากหลาย เช่น เจมส์-เรืองศักดิ์ รอยชูศักดิ์,ปาล์มมี่,ละอองฟอง ฯลฯ รวมถึงยังเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานเพลงโฆษณาที่คันหู เอ้ย!?! คุ้นหูอยู่อีกหลายชิ้น

และด้วยประสบการณ์ทางดนตรีที่บ่มเพาะมายาวนานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทำให้ก้อตัดสินใจที่จะทำอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเอง นั่นจึงเป็นที่มาของอัลบั้ม “The working of the soul” ที่ทำออกมาในปี พ.ศ. 2549

ผลงานเดี่ยวชุดแรกของก้อ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรแต่ก็มีเพลงเด่นติดหูอย่าง “เธอจะเชื่อไหม” และ “กรุณา”ที่ร้องคู่กับ “โหน่ง : พิมพ์ลักษณ์ กมลเพชร” อีกทั้งยังสามารถฉีกแนวจากกรุ๊ฟไรเดอร์สออกไปได้เป็นอย่างดี
ปกหน้า The working of the soul Part 02
จากนั้นก้อก็ห่างหายจากการทำอัลบั้มเดี่ยวไปได้ 5 ปีกว่าๆ ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในอัลบั้มเดี่ยวชุด “The working of the soul Part 02” ภายใต้สังกัด “สไปซี่ดิสก์”(Spicydisc)เหมือนเดิม

อัลบั้มชุดนี้เป็นดังภาคต่อของอัลบั้มชุดแรก โดยก้อมีแนวคิดว่า อยากจะนำเสนอแนวเพลงที่ฟังง่าย ท่วงทำนองไพเราะ มีเนื้อหาดี และไม่ต้องการทำให้บทเพลงออกมาฟังซับซ้อนเกินไป

The working of the soul Part 02 มีทั้งหมด 9 เพลงด้วยกัน ซาวนด์ในอัลบั้มนี้ต้องบอกว่าเยี่ยม เหมือนชื่อหนังสือพิมพ์จากย่านค่ายบางนา คือ คม ชัด ลึก เพราะก้อบินไปมิกซ์และทำมาสเตอร์กันถึงที่อเมริกา

The working of the soul Part 02 เปิดตัวกันด้วย “ฉันหวังว่าฉันผิด” (Prove Me Wrong) มาในแนววินเทจ จังหวะโจ๊ะๆชวนขยับแข้งขยับขา ทำนองฟังติดหูได้ไม่ยาก มีภาคของเครื่องสายมาเล่นร้องพื้นแน่นๆอุ้มตัวเพลง โดยเปิดพื้นที่ให้เครื่องเป่าที่ใส่เข้ามาเติมสีสันทำหน้าที่เป็นซาวนด์นำของเพลง
ฉันหวังว่าฉันผิด ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มนี้
ฉันหวังว่าฉันผิด เนื้อหาว่าด้วยความรู้สึกในช่วงเวลาหนึ่ง ที่เราไม่ได้สนใจใครบางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและเขามาสนใจเรา จนเมื่อเขาจากไป เราก็ได้แต่มานึกเสียดายเธอคนนั้นใจภายหลัง

เพลงนี้ถือเป็นเพลงเอกของอัลบั้ม เป็นซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมา ซึ่งก้อทำ MV ออกมาได้น่ารักมาก เป็นเรื่องของกลุ่มเด็กๆนำโดยพระเอก “หนุ่มมาร์ค”และนางเอก “น้องปู” ซึ่งน้องปูนั้นแอบรักพี่มาร์คอยู่ แต่พี่มาร์คไม่รู้ จนเมื่อน้องปูมาจากไปนั่นแหละพี่มาร์คของเราถึงรู้ว่า ตัวฉันนั้นโง่เพียงใดที่ปล่อยให้คนแสนดีอย่างเธอจากไป

ครับเพลงนี้แม้ทั้งชื่อและหน้าตาของพี่มาร์คและน้องปูใน MV จะเหมือนใครยังกับในสภาโจ๊ก แต่ตัว MV กับเนื้อหาของเพลงนั้น ดูแล้วเป็นการหยิบยกสถานการณ์มานำเสนอแบบขำๆ สนุกๆ มากกว่าที่จะมุ่งล้อการเมืองเป็นหลัก
เหล่านักแสดงตัวน้อยใน MV เพลง ฉันหวังว่าฉันผิด
เพลงถัดมาในแทรคที่สองกับ “อาจจะสายเกินไป” (Before It's Too Late) เนื้อหาเพลงนี้ดีทีเดียว แม้จะออกแนวอุดมคติไปหน่อย ว่าด้วยวิกฤติของโลกทั้งภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว โลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนโลกอาจแตกสลายภายในพริบตาได้ เพราะฉะนั้นเรา(มนุษย์โลก)จึงควรรักกัน เรียนรู้กัน เพราะถ้าหากเรายังไม่รักกันบางทีมันอาจจะสายเกินไปดังชื่อเพลง

อาจจะสายเกินไป แม้เนื้อหาของเพลงจะว่าด้วยเรื่องหนัก แต่ดนตรีของเพลงนี้เป็นอะคูสติก นำด้วยเสียงกีตาร์ใสๆ ทางสวยๆ ฟังสบาย เข้ากับเสียงร้องบางๆเนิบๆของก้อดีทีเดียว

ส่วน“เฝ้ารอเฝ้าคอย Part 02”(Await) กับ “เมื่อฉันได้พบเธอ”(Because of You) สองเพลงถัดมามีอารมณ์เพลงคล้ายกัน ว่าด้วยการเฝ้ารอคอยคนรัก เพลงแรกมาแนวฟังกี้จังหวะปานกลาง ฟังสบาย มีเครื่องสาย เครื่องเป่า เล่นอุ้มเป็นแถวสอง เพลงหลังเป็นอะคูสติกช้าๆ

ตามต่อกันที่ “หาก…” (Soul Searching) จังหวะเร่งขึ้นมาอีกนิด เพลงนี้เขียนเนื้อโดยก้อกับ “บอย โกสิยพงษ์” ใช้ภาษาได้สวย สื่อความหมายของตัวเพลงได้ดี ดนตรีค่อยทวีดีกรีความเข้มข้นขึ้น ฟังแล้วชวนให้นึกถึงลูกถนัดของเพลงสไตล์พี่บอยไม่น้อยเลย
ปกหลัง The working of the soul Part 02
อยากบอกให้เธอรู้” (I Want to Tell You) เป็นซิงเกิ้ลที่สองของอัลบั้ม ออกแนวเพลงเต้นรำผสมป็อบร็อคโจ๊ะๆ เพลงนี้พี่ก้ออยากบอกใครให้รู้ว่า ตั้งแต่วันที่เราได้พบกัน รักกัน เธอได้เปลี่ยนทึกสิ่งในชีวิตของฉันไปให้เป็นดังฝัน

พูดถึงเพลงนี้ในความคิดผมแล้ว เป็นเพลงที่พี่ก้อตั้งใจทำเป็นพิเศษและต้องพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด เพราะเพลงนี้พี่ก้อแกแต่งให้ภรรยานั่นเอง(ฮา)

เพลงต่อมาคือ “อีกครั้ง” (Once More) เป็นบอสซาโนว่าฟังสบาย แต่ให้น้ำหนักกับเสียงกลอง(สแนร์)ต่างไปจากบอสซ่าทั่วๆไป มีเสียงเปียโนกรุ๋งกริ๋งฟังน่ารักคอยหยอดไปตลอด

ได้โปรด” (Mercy) บทเพลงเฝ้าคอยคนที่รักแบบแอบมีหวัง มาในจังหวะสนุก มีแซกโซโฟนมาโซโลดุๆสร้างสีสันอีกทาง

มาจบกันที่เพลง “ถ้า…” (If...) เป็นการตั้งคำถามถึงความไม่แน่ใจอนาคต โดยเฉพาะเรื่องความรัก ถ้า...วันแบบนั้นมาถึง หัวใจของเราจะเหลือความเชื่อกันอยู่แค่ไหน

ถ้า มีเปียโนเล่นนำส่งเข้ามา ก่อนเปิดพื้นที่ให้ไลน์เครื่องสายสวยๆแน่นๆเล่นเป็นพระเอกดำเนินเรื่องปิดท้ายอัลบั้มชุดนี้กันแบบเศร้าๆ ซึ่งสำหรับบทเพลงทั้ง 9 ในอัลบั้มชุดนี้ ก้อเขียนออกมาได้ดีทีเดียว บางเพลงแม้เนื้อหาหลักจะมุ่งไปในด้านความรัก แต่ลึกๆแล้วมีความหมายนัยยะที่ลึกซึ้งแฝงซ่อนอยู่

ขณะที่อีกสิ่งสำคัญก็คือ หลายเพลงในอัลบั้มชุดนี้มีภาคดนตรีฟังเด่นภาคเสียงร้อง เพราะด้วยความที่ก้อไม่ใช่นักร้องอาชีพ ไม่ใช่นักร้องประเภทเสียงสวรรค์ประทานพร ทำให้เสียงร้องของเขาที่ออกมาไม่แข็งแรง ขาดพลังในบางเพลง โดยเฉพาะในยามที่โหนสูงจะมีแกว่งบ้าง แต่กระนั้นเสียงของก้อก็ฟังมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์แบบของเขา และที่สำคัญคือจากชุดแรกมาถึงชุดนี้เขามีพัฒนาการทางการร้องเพลงที่ดีขึ้นมากพอดู

ในขณะที่เนื้อหาของส่วนใหญ่นั้น ก้อเขียนออกมาได้ดีทีเดียว บางเพลงแม้เนื้อหาหลักจะมุ่งไปในด้านความรัก แต่ลึกๆแล้วมีความหมายนัยยะที่ลึกซึ้งแฝงซ่อนอยู่

อย่างไรก็ตามเรื่องของเสียงร้องดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับอัลบั้มชุดนี้ เพราะก้อที่รับเหมาทำเองเกือบทั้งหมด ทั้งแต่งเนื้อร้อง ทำนอง และโปรดิวซ์ ได้ใช้ภาคดนตรีที่หนาแน่น การเรียบเรียงที่ดี มาคอยช่วยสร้างสีสันมาอุดช่องว่างของเพลง อีกทั้งช่วยโอบอุ้มเสียงร้องและอารมณ์เพลงให้ออกมาได้อย่างกลมกล่อมน่าฟัง ซึ่งแม้ภาคดนตรีโดยรวมจะออกมาโทนเดียวกัน คือส่วนใหญ่ให้อารมณ์ไพเราะ ฟังสบาย แต่ในแต่ละเพลงจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เมื่อฟังติดต่อกันทั้งอัลบั้ม ไม่รู้สึกน่าเบื่อ และสามารถฉีกความเป็นกรู๊ฟ ไรเดอร์สได้ดีทีเดียว นับเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ชวนฟังอีกชุดหนึ่งของปีนี้

นอกจากนี้ The working of the soul Part 02 ยังเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า คนที่ไม่ได้เป็นนักร้องอาชีพ ไม่ได้มีน้ำเสียงที่ดีเยี่ยมนั้น สามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ดี ไพเราะ น่าฟังได้
***********************************************************

คลิกดู MV "ฉันหวังว่าฉันผิด" ที่นำแสดงโดยพีมาร์คและน้องปู
กำลังโหลดความคิดเห็น