ยังต้องทำงานหาเงิน "แอปเปิ้ล" สาวสวยจากลาวลั่นไม่ใช่ไฮโซ เจ้าตัวรับไม่เคยคิดเข้าวงการฯ เพราะรู้ตัวสู้คนไทยไม่ได้ ก่อนออกปากสุดตื่นเต้นหลังรับงานถ่ายแนวเซ็กซี่ครั้งแรก
เริ่มที่จะเป็นที่คุ้นชื่อ-คุ้นหน้าของคนในวงการบันเทิงบ้านเราขึ้นทุกทีๆ สำหรับสาวจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว “แอปเปิ้ล สีสะเหงียน สีหาราช” ทั้งในฐานะแฟนสาวของหนุ่ม “ฟลุค จิระ ด่านบวรเกียรติ” จากวงซีควิ้นท์ งานถ่ายแบบ รวมถึงล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง "407เที่ยวบินผี"
ด้วยความที่ครอบครัวซึ่งอยู่ที่เวียงจันน์ค่อนข้างจะมีฐานะนั่นเอง ทำให้นักข่าวมักจะนำหน้าสาวคนนี้ด้วยคำว่า "ไฮโซ" เวลาที่เขียนถึง ซึ่งเรื่องนี้สาวแอปเปิ้ลเผยว่าแม้อาชีพของคุณพ่อที่ทำเกสต์เฮ้าท์ ขณะที่คุณแม่เป็นดิสทริบิวเตอร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนึงจะทำให้ครอบครัวตนมีรายได้ที่ค่อนข้างสูงแต่ตนก็ไม่ใช่ไฮโซแต่อย่างใด
“ที่เขาบอกว่าหนูเป็นไฮโซ ที่จริงแล้วไม่ใช่ (เสียงสูง) เป็นคนธรรมดา ถ้าได้สัมผัสตัวเปิ้ลจริงๆ นะก็จะง่ายๆ กินง่ายอยู่ง่าย เปิ้ลไม่ได้เป็นไฮโซ ครอบครัวเปิ้ลก็ทำมาหากิน ไม่ได้อยู่เฉยๆ รอแต่เงิน เปิ้ลมาอยู่เมืองไทยเราก็ทำมาหากิน ทำงาน ได้เงินมาเราก็ดีใจ ซื้อของให้พ่อให้แม่ จริงๆ นะเปิ้ลไม่ใช่ไฮโซอะไรเลย"
"หลายคนเรียกเราว่าเป็นไฮโซ เราก็บอกว่าเราไม่ใช่นะ(หัวเราะ) อาจเป็นเพราะที่พี่ฟลุคเคยบอกว่าอยู่ที่ลาวเปิ้ลไม่เคยอะไรเองเลยก็คงเป็นได้ แต่เปิ้ลเชื่อว่าถ้าบ้านไหนมีแม่บ้านก็คงไม่ได้ทำอะไรเอง ซึ่งเราก็ยอมรับว่าเปิ้ลไม่ได้ทำอะไรเอง เพราะว่าเรามีแม่บ้านไง ก็เลยมีคนดูแลมาตลอด แต่เราก็ยังทำเป็นอยู่ (หัวเราะ) อย่างเปิ้ลมาอยู่เมืองไทยเราก็ทำเองหมดทุกอย่างอยู่แล้ว”
เผยก่อนมาเรียนต่อเมืองไทยตนเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปมาก่อน ส่วนสาเหตุที่เลือกมาที่เมืองไทยก็เพราะวัฒนธรรมหลายอย่างที่คล้ายกันนั่นเอง..."เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปน่ารักๆ แต่ไม่บอกชื่อหรอกเดี๋ยวไปเสิร์ชหา(หัวเราะ) เขิน วงมี 6 คน อายุประมาณ12 ที่แยกวงเพราะว่าพวกเราก็ยังเด็ก ต้องเรียนด้วยอะไรด้วย เลยแยกย้ายกันไป แล้วก็มาอยู่เมืองไทย มา4 - 5 ปีแล้ว ก็มีเพื่อนด้วย มาเรียนต่อปริญญาตรี ตอนนี้ก็ใกล้จบแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียนต่อไหม"
"ที่มาเลือกเรียนต่อที่ไทยเพราะเปิ้ลชอบวัฒนธรรม เพราะคล้ายๆ ที่ลาว ถึงเรามาต่างบ้านแต่เราก็รู้สึกอบอุ่นได้ เหมือนบ้านพี่เมืองน้อง ความจริงเปิ้ลเรียนที่ลาวก็ได้ แต่เราอยากได้ประสบการณ์มากกว่า อีกอย่างที่เลือกเมืองไทยเพราะผู้คนนิสัยคล้ายกัน ภาษาคล้ายกัน อากาศ อาหาร ยังไงเราก็อยู่รอดแน่ เราก็ชอบเมืองไทย(หัวเราะ)”
“พอมาถึงก็มีโอกาสได้เข้าวงการเพราะมีพี่ชวนมาถ่ายแบบ ถ้านับจริงๆ เปิ้ลเพิ่งเข้าสู่วงการบันเทิงไทยเต็มตัวก็แค่ 1 ปีเอง ช่วงแรกเราไม่กล้าสู้กับคนไทยหรอก เราไม่มั่นใจในภาษา การวางตัว จนอยู่นานๆ มันก็ค่อยซึมซับมันก็โอเค แล้วก็มีพี่ๆ ชวนให้มาทำงานตลอด เราก็เลยโอเค ความจริงพี่บก.ของหนังสือชีสเขาชวนเปิ้ลมาหลายปีแล้ว แต่ตอนนั้นเราไม่มั่นใจเลย ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเวลาถ่าย"
"แล้วก็ติดเรื่องสัญชาติที่เปิ้ลเป็นคนลาวเราเองก็เป็นห่วงภาพลักษณ์ของประเทศมาก คนลาวส่วนน้อยที่จะได้มายืนตรงนี้ เราก็กลัวว่าเราจะทำอะไรผิดพลั้งไป ก็พยายามเตือนตัวเองว่าให้ทำอะไรอย่างมีสติ”
สาวสวยจากลาวยอมรับว่าคนหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ตนเข้ามาสู่แวดวงบันเทิงก็คือแฟนหนุ่มนั่นเอง พร้อมกันนี้เจ้าตัวก็ได้เล่าให้ฟังถึงความแตกต่างของวงการบันเทิงไทยกับที่โน่นให้ฟังด้วยว่า...
“อย่างวงการบันเทิงในประเทศลาวก็ต่างกับไทยเยอะ เพราะศิลปิน-ดาราที่ลาวน้อยมาก แทบจะนับคนได้เลย การแข่งขันเลยน้อยมาก มันก็ยังไม่เติบโต ไม่เหมือนที่ไทยดาราศิลปินเยอะ มันก็ต้องมีการพัฒนาแข่งขัน เราก็จะทำยังไงที่จะยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และภาคภูมิใจ"
"ถามว่าแต่ก่อนเคยฝันไหมว่าอยากมาเป็นดาราเมืองไทย ไม่เคยเลยค่ะ เพราะเรารู้ว่าตัวเองไม่สวย ตัวก็เล็ก ดาราไทยแต่ละคนที่เราได้ดูอยู่ที่ลาวก็สวยมาก ทุกคนเริ่ด แต่เราก็ไม่คิดจะเข้ามาสู่เราเองเหมือนฝุ่น แต่พอได้เข้ามาก็เห็นว่าทุกๆ คนก็ช่วยๆ กันไป อย่างพี่มาช่าที่เราได้แสดงภาพยนตร์ด้วยกัน พี่เขาก็ช่วยดูแลคอยสอน เลยรู้สึกดีเราได้สัมผัสมาแล้วก็โอเค ดีใจ”
“ถามว่าพี่ฟลุคมีส่วนช่วยดันไหม เปิ้ลว่ามีส่วนนะเพราะพี่เขาก็คอยมาดูแลเราเทรนเราตลอด อย่างเวลาจะให้สัมภาษณ์เธอต้องทำยังไง เธอคิดยังไงก็ต้องพูดนะ อย่าไปโกหก ความลับไม่มีในโลก เวลานักข่าวถามมาก็ตอบไปตามความจริง เขาก็สอนทุกอย่าง และเราเองก็เป็นข่าวกับเขาด้วยแหละ ลงหนังสือพิมพ์บ่อยเชียว ก็คือเราคิดว่าถ้าเรามาด้วยตัวเองป่านนี้จะได้ขนาดนี้ไหม เพราะเราเองก็รู้ตัวเองอยู่เหมือนกัน”
เจ้าตัวออกปากตื่นเต้นหลังได้ลองถ่ายแบบที่ค่อนข้างจะออกแนวเซ็กซี่เป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องความรักกับแฟนหนุ่มนั้นนักแสดงสาวบอกตอนนี้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกรักของพ่อแม่ตนไปแล้ว
"ถ่ายหนังสือมิกซ์แมกกาซีนเดือนพฤษภาคม ก็ตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่โชว์หวิว เซ็กซี่นิดนึง แต่เราเองก็มีลิมิตอยู่แล้ว อย่างพี่ฟลุคเองก็ช่วยสกรีนงานด้วย เขาไปเฝ้า ไปนั่งดู เขาก็ถามเลยว่าชุดไหนถ่ายเสร็จขอดูกล้องด้วย แล้วเราก็บอกคุณแม่แล้ว ว่าเราจะถ่ายเซ็กซี่นิดนึงนะ แม่ก็ให้ลองดูแต่ก็เน้นมาว่าอย่ามากนะลูก เราก็บอกทางหนังสือเขาแล้วว่าอย่ามากไปนะ เราก็คุยกับเข้าได้ทางหนังสือก็เข้าใจเรา ก็เลยโอเค”
“ส่วนพี่ฟลุคเขาก็ได้เจอกับครอบครัวเปิ้ลหลายครั้งแล้ว ที่บ้านก็โอเคไฟเขียว รักมาก พ่อกับแม่เปิ้ลรักเขามากกว่าเปิ้ลอีก โอ๋เขามาก พี่ฟลุคเขาชอบประจบประแจง ชอบซื้อขนมไทยไปฝากคุณแม่ คุณแม่รักเลย (หัวเราะ)”