White Tiger ที่ “ยุ้ย - จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ที่แท้... หนังเกรดบี ไม่ใช่หนังในกระแสหลักของฮอลลีวูด ขณะที่แคนเรน เคง เคยทำหนังเรื่อง Assassins' Code เมื่อปี 2011 นักวิจารณ์ให้คะแนนเพียง 2.6 จากคะแนนเต็มสิบ ส่วน “แมท มูลลินส์” มาจากพระเอกหนังแผ่นที่เริ่มมีผลงานมาตั้งแต่ปี 2007 และงานส่วนใหญ่เป็นหนังบู๊ และมีแนวโน้มสูงว่า หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังแอ็กชันที่วนเวียนอยู่แค่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มิน่าเล่า … “ยุ้ย - จีรนันท์” จึงอ้ำๆอึ้งๆ ทำเป็นไม่รู้รายละเอียดของหนังฮอลลีวูด ตรงไหน เรื่องนี้
สังคมไทยมีกรณีศึกษาที่ชื่อ “นาธาน โอมาน” ซึ่งกุเรื่องว่าได้ไปแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Red Shoe มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากวันนี้สังคมจะจับตามองเป็นพิเศษเมื่อดาราไทยสักคนลุกขึ้นมาประกาศว่ากำลังจะไปแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูด อย่างล่าสุดที่นางเอกสาว “ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเธอกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ “ฮอลลีวูด” ก็เป็นอีกครั้งที่สังคมไทยสนอกสนใจ
บางฝ่ายเฝ้ารอให้ความจริงปรากฏ บางฝ่ายเริ่มลงมือขุดคุ้ยสืบค้น เพราะลำพังชื่อคนออกทุนและนักแสดงนำชายที่สาวยุ้ยเอ่ยออกมาในวันให้สัมภาษณ์ไม่ติดหูพอที่จะทำให้คนดูหนังชาวไทยร้องอ๋อเหมือนอย่าง “วูฟกัง ปีเตอร์แซน” กับ “บรู๊ซ วิลลิส” ผู้กำกับและนักแสดงที่นาธานเอ่ยอ้างว่าได้ร่วมงานกับเขา
เมื่อสืบค้นให้ลึกลงไป เราพบว่าสองชื่อที่ยุ้ยอ้างถึงซึ่งได้แก่ “แคเรน เคง” ในฐานะนายทุนผู้ออกเงินสร้างภาพยนตร์เรื่อง White Tiger ภาพยนตร์ที่ยุ้ยบอกว่าได้รับบทเป็นนางเอก กับ “แมท มูลลินส์” พระเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบุคคลผู้มีตัวตนอยู่จริง แม้คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่ายุ้ย จีรนันท์น่าจะได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจริง แต่สิ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจก็คือภาพยนตร์ White Tiger เป็นในระดับหนังฮอลลีวูดซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดของวงการบันเทิงสหรัฐอเมริกาจริงหรือไม่
เพราะถ้าเป็นไปตามนั้น ยุ้ย จีรนันท์ นางเอกสาวชาวไทย ที่มีทั้งชื่อ นามสกุล และใบหน้าแบบไทยนิยมแท้ๆ คนนี้จะกลายเป็นดาราชาวไทยที่ได้ก้าวขึ้นไปเป็นนางเอกภาพยนตร์ที่ส่งอิทธิพลต่อคนทั้งโลกเลยทีเดียว
ยุ้ยให้สัมภาษณ์ว่าลูกสาวของแคเรนผู้เป็นนายทุนหลงรักเธอมาก ถึงขนาดเอาเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวต่อสู้กับโรคร้าย นั่งดูนอนดูผลงานการแสดงของเธอในขณะที่ป่วยจนกระทั่งยอมทานยาตามที่หมอสั่งก็เพราะยึดถือเธอเป็นกำลังใจ และเอ่ยปากเรียกยุ้ยว่า “นางฟ้า” ตลอด และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แคเรนอยากจะได้ตัวนางเอกสาวชาวไทยคนนี้มาเป็นนางเอกในภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เขาจะออกทุนให้ผลิต
จากฐานข้อมูลของ IMDB (เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลของภาพยนตร์ตั้งแต่อดีตถึงอนาคตที่ใหญ่ที่สุดในโลก) พบว่า “แคเรน เคง” คือผู้อำนวยการสร้างที่มีรายชื่อผลงานอยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่เพียงหนึ่งเรื่องนั่นคือ Assassins' Code ซึ่งเป็นหนังเกรดบีที่ออกฉายในปี 2011 ที่ผ่านมา โดยหนังเรื่องนี้ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ไปเพียง 2.6 จากคะแนนเต็มสิบ
“แมท มูลลินส์” ผู้ที่ยุ้ยบอกว่าเป็นพระเอกของหนังเรื่อง White Tiger เป็นคนที่เดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิดของยุ้ยเมื่อไม่นานมานี้ เป็นพระเอกนักบู๊ที่มีพื้นฐานมาจากการเป็นนักกีฬาประเภทศิลปะการต่อสู้ มีผลงานภาพยนตร์ที่เป็นหนังแผ่นเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเริ่มต้นที่หนังแผ่นเรื่อง Adventures of Johnny Tao เมื่อปี 2007 หลังจากนั้นแมทก็มีหนังแผ่นและหนังที่ฉายทางโทรทัศน์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริการแมทเพราะฝีมือในการเป็นนักกีฬาประเภทต่อสู้ดีกรีแชมป์ 5 สมัยของเขานั่นเอง
ผลงานสร้างชื่ออีกหนึ่งชิ้นของแมทก็คือหนังสั้นจากเกมชื่อดังอย่าง Mortal Kombat: Rebirth ซึ่งเป็นที่ฮือฮาอยู่ในโลกออนไลน์ โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับเชื้อสายไทย “เควิน ตันเจริญ”
นักแสดงและผู้กำกับอื่นๆ ที่มาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่อง White Tiger จำนวนไม่น้อยก็เป็นคนเอเชียหรือคนที่ทำงานในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ซินเธีย รอธร็อค” นักแสดงบู๊ฝ่ายหญิงที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงภาพยนตร์แอ็กชันฮ่องกงยุค 80's เคยร่วมงานกับทั้ง “หงจินเป่า” และ “หยวนเปียว” มาแล้ว
นอกจากนั้นหนังของแคเรน เคงเรื่องนี้ยังได้ผู้กำกับฉากแอ็กชันอย่าง “คาซู” ที่เป็นอดีตนักแสดงบู๊สัญชาติฝรั่งเศส เชื้อสายเวียดนาม - จีน ซึ่งทำงานปักหลักอยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด
ฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรถ้าหากยุ้ย จีรนันท์ นักแสดงหน้าไทยแท้จะได้มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะถ้าหากดูทีมงาน นักแสดง และกลิ่นรสหลายต่อหลายอย่างของ White Tiger ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นหนังแอ็กชันที่วนๆเวียนๆ อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเอง
แล้ว “ฮอลลีวูด” ตรงไหน?
พูดอย่างนี้หลายคนก็อาจจะเกาหัวด้วยความสงสัยว่า แล้วที่เล่ามามันจะฮอลลีวูดตรงไหน ฮอลลีวูดต้องคลินส์ อีสต์วูด ต้องสตีเฟน สปีลเบิร์ก ต้องทอม แฮงส์ อะไรอย่างนั้นสิ สำหรับข้อนี้เราก็คงจะตอบได้ว่าการที่ยุ้ยพูดว่าหนัง White Tiger ที่เธอแสดงเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดนั้น มันมีทั้งถูกและผิด
ที่บอกว่าผิดก็เพราะ หากนิยามความเป็นฮอลลีวูดตามแบบที่เข้าใจกันในย่อหน้าก่อน หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่ใช่ เพราะ White Tiger ไม่ใช่หนังที่อยู่ในอุตสาหกรรมฮอลลีวูดที่เป็นคำเรียกชื่ออุตสาหกรรมบันเทิงเบอร์หนึ่งของสหรัฐอเมริกา
แต่ด้วยความที่เขตฮอลลีวูด มลรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นรุ่งโรจน์ไปด้วยธุรกิจบันเทิง จึงไม่แปลกอะไรที่จะมีธุรกิจยิบย่อยเล็กๆ แตกไลน์ออกมาไม่รู้จักจบจักสิ้น ความเป็นฮอลลีวูดตามที่หลายคนตีกรอบจึงอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะค่ายหนังเล็กๆ หลายค่ายก็ยึดเขตฮอลลีวูดเป็นที่ผลิตผลงานของตัวเอง แม้ผลงานเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกออกฉายในจอภาพยนตร์ตามโรงใหญ่ๆ เลยก็ตาม
สรุปง่ายๆ ว่าฮอลลีวูดในความเข้าใจของคนไทยคือหนังที่ถูกผลิตจากเมเจอร์ สตูดิโอหรือสตูดิโอใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นพาราเมาท์ พิกเจอร์ , ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ, วอเนอร์ บราเธอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จและวางรากฐานของคำว่าฮอลลีวูดมาตั้งแต่ยุค 30's - 50's นั่นเอง
ดังนั้นคำว่า “ฮอลลีวูด” จึงกลายเป็นคำเรียกวงการบันเทิงอเมริกันไปโดยปริยาย แต่คงจะใจแคบเกินไปถ้าหากจะบอกว่าผลงานของวงการบันเทิงสหรัฐฯจำกัดอยู่แค่ค่ายหนังใหญ่ๆ เหล่านั้น เพราะในทะเลกว้างยังมีปลาตัวเล็กตัวน้อยซึ่งเป็นค่ายหนังอินดี้ ค่ายหนังอาร์ต ค่ายหนังที่ทำหนังแผ่นอย่างเดียว ค่ายหนังผลิตป้อนโทรทัศน์ซึ่งมีนับร้อยช่องอีกด้วย
สรุปว่า White Tiger ภาพยนตร์ที่ยุ้ยบอกว่าได้แสดงเป็นนางเอกเรื่องนี้เป็นหนังประเภทแอ็กชัน ศิลปะป้องกันตัว ในแนวถนัดของแมท มูลลินส์ และนักแสดงร่วมอีกหลายคน รวมถึงคาซูผู้กำกับคิวบู๊ ที่เมื่อดูจากชื่อผู้อำนวยการสร้าง และทีมนักแสดงแล้วต้องจัดว่าอยู่ในระดับเกรดบี ซึ่งถือว่าอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมฮอลลีวูดกระแสหลักอยู่พอสมควร
ซึ่งก็สอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ของยุ้ยที่ยืนยันว่าหนังที่เธอไปเล่นเป็นหนังฮอลลีวูดจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าฮอลลีวูดระดับไหน ก่อนที่ยุ้ยจะยอมรับออกมาเองว่า จริงๆ เธอก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดอะไรเท่าไหร่ เรียกว่าเขาเรียกให้ไปเล่นก็ไปเล่น แม้ว่านอกจากคำว่า yes กับ no แล้วจะพูดภาษาอังกฤษคำอื่นไม่ได้เลย แต่ยุ้ยก็ไปร่วมแสดงในฐานะนางเอกของเรื่องมาจนได้
ส่วนคนไทยจะมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้หรือเปล่า อันนี้ไม่รับรองเพราะว่าผู้อำนวยการสร้างจะต้องนำหนังเรื่องนี้ไปตระเวนขายที่ยุโรปกับสหรัฐอเมริกาก่อน ถ้าเข้าเป้าแฟนละครชาวไทยของยุ้ยก็คงจะได้เห็นนางเอกขวัญใจมาโลดแล่นในหน้าจอร่วมกับนักแสดงชาวต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ายุ้ยมีโอกาสได้ร่วมแสดงบทบู๊มากน้อยขนาดไหน เพราะเราอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าหากเล่นบู๊มากจนกระทบกระแทกอะไรแรงๆ ใบหน้าของยุ้ยจะเปลี่ยนแปรไปมากกว่านี้หรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาแค่ “ดัดฟัน และโตขึ้น(?)” สาวยุ้ยก็หน้าเปลี่ยนไปจนแทบจะจำเค้าเดิมไม่ได้อยู่แล้ว(ฮา)
....................................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 125 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2555