“โต่โน่ เดอะสตาร์” ไม่แคร์คนมองเล่นละครแข็งแต่ได้รับรางวัลดารานำชายโทรทัศน์ทองคำ บอกคนเรามีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ แต่ตนก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว และคณะกรรมการก็ได้เลือกแล้วจะให้ไม่เอารางวัลก็คงทำไม่ได้ ขอยืนยันจะพัฒนาฝีมือตัวเองต่อไปเพื่อมอบความสุขให้กับคนดู
ถูกวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรเลยทีเดียวสำหรับ “โตโน่ เดอะสตาร์” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หลังจากเป็นม้ามืดเบียดพระเอกรุ่นพี่พระเอกรุ่นพี่ซิวรางวัลโทรทัศน์ทองคำดารานำชายดีเด่นจากเรือนแพ เพราะทันทีที่ข่าวถูกนำเสนอออกไปก็มีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็เห็นด้วย บ้างก็บอกว่าโตโน่ฝีมือยังไม่เข้าขั้นที่จะได้รับรางวัลดังกล่าว และยิ่งเมื่อเปรียบกับดาราที่เข้าชิงรางวัลนี้แล้วไม่ว่าจะเป็น “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” จากคู่เดือด , “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” จากทาสรัก, “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” จากเงาพราย และ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” จากเกมร้าย เกมรัก ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนเป็นนักแสดงที่ประสบการณ์สูงเลยทีเดียว
“ทุกคนที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ไม่ว่าจะเป็นพี่ป๋อ ณัฐวุฒิ, พี่ปอ ทฤษฎี, พี่หนุ่ม ศรราม หรือณเดชน์ ล้วนเป็นคนที่เก่งและมีฝีมือ แล้วผมก็ภูมิใจมากที่มีโอกาสได้เข้าร่วมและได้รับรางวัลในครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่หลายคนมองว่าผมไม่เหมาะกับรางวัลนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาว่าจะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่ก็เข้าใจว่าคนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดต่าง มีสิทธิ์จะเลือกรักหรือไม่รัก เลือกชอบหรือไม่ชอบ เลือกเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เราไม่สามารถไปบังคับจิตใจใครได้”
“ผมคิดว่าเป็นเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากเลยมันมีอยู่ทุกวงการ แต่เรามีหน้าที่ที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป สำหรับผมไม่ซีเรียสเลย ไม่ว่าเราจะพูดหรือทำอะไร แน่นอนว่าต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว อย่าว่าแต่งานใหญ่อย่างนี้เลย แม้กระทั่งทำงานเล็กส่งงานคุณครู ครูก็อาจจะชอบหรือไม่ชอบ เป็นเรื่องธรรมดาครับ”
“ผมกลับไม่นอยด์เลยนะ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจด้วย แต่ผมกลับดีใจมากกว่าที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะเป็นรางวัลที่มีเกียรติมาก ผมรู้ว่าคณะกรรมการแต่ละท่านเป็นคนทรงคุณวุฒิ และเราก็รู้สึกภูมิใจและมีความสุขในสิ่งที่ได้รับมา แล้วผมก็เข้าใจที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบมันเป็นเรื่องธรรมดาจะให้คนมารักเราทั้งหมดก็ไม่ได้”
“จริงๆ อย่าว่าแต่เรื่องรับรางวัลเลย ตั้งแต่ผมอยู่ในบ้านเดอะสตาร์มามันก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้อยู่เสมอคือว่าเราคิดอะไรอยู่ เรากำลังทำอะไรเพื่อใคร การที่เราทำงานตรงนี้ หรือการที่เราได้มาเล่นละครเราก็ไม่เคยคิดว่าเราทำละครไปแล้วจะได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล คิดแค่ว่าผมจะทำอย่างไรให้คนที่เขาให้โอกาสผมมาเขารู้สึกไม่ผิดหวัง จะทำอย่างไรให้คนเขามีความสุขกับคนอย่างผม คิดแค่ตรงนั้นเอง”
“ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่บอกว่าผมเล่นละครแข็ง แน่นอนผมเข้าวงการมาได้ไม่ถึง 2 ปี ก็ต้องมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ แต่ว่าสิ่งที่ผมทำได้คือพยายามทำให้ดีที่สุดในแต่ละวันที่ได้รับ งานที่เราได้ทำมาผมรู้สึกภูมิใจ แล้วทุกอย่างก็มีคุณค่ากับผมมากที่มีโอกาสมาเล่นละคร มาร้องเพลง ทำให้ทุกคนมีความสุข แต่ว่าแน่นอนคนเรามีสิทธิ์ที่จะมองว่าแข็งหรือไม่แข็ง ส่วนตัวผมเองยังไงผมก็ต้องพัฒนาต่อไป”
“แต่ก็ยอมรับว่าการที่มาถึงจุดนี้มันรวดเร็วมากๆ ที่จะได้รับรางวัล อย่างเรื่องเรือนแพก็เป็นแค่เรื่องที่สองที่ผมเล่น แล้วก็เป็นเรื่องแรกที่เราได้เล่นเป็นดารานำ แต่ว่าเราก็เหนื่อยกับมันมากจริงๆ ก็ดีใจมากและก็ภูมิใจมากที่มีโอกาสได้เล่นเรื่องนี้ ในเมื่อมีคนมองเห็นคณะกรรมการมองเห็นผมจะต้องทำอย่างไร ในเมื่อผมทำดีที่สุด เมื่อผมได้รับมาแล้วจะให้ปฏิเสธคงทำไม่ได้”
“ผมดีใจและมีความสุขสิ่งที่เรายอมเหนื่อยมา เราพยายามทำให้คนมีความสุข เรามีความสุขที่คนมองเห็นตรงนั้น และผมก็เข้าใจที่จะมีคนที่ไม่เห็นด้วย เพราะว่าอีก 4 คนที่เข้ามาชิงก็มีฝีมือแล้วก็เก่งๆ ทั้งนั้น ผมคงไม่กล้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ อย่าว่าแต่ 4 คนนี้เลย ผมไม่กล้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครหรอกว่า ผมดีหรือด้อยกว่าใคร ผมมีหน้าที่ทำในสิ่งที่ได้รับในแต่ละวันให้มันดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”