“ยุ้ย อัฐมาศ” เผยแต่งงานกับ “เต๋า” มา 3 ปี ชีวิตครอบครัวมีความสุขมาก ยกเป็นพ่อและสามีที่ดี ภายนอกเหมือนก้าวร้าวแต่ก็มีมุมอ่อนโยน โดยเฉพาะเวลาอยู่กับลูกๆ อีกทั้งยังเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด แม้กระทั่งตนทาแป้งเกลี่ยไม่ทั่วหน้ายังเช็ดให้แล้วบอกให้ทาใหม่
เดี๋ยวนี้ไปงานไหนๆ ก็จะคอยตามไปอำนวยความสะดวกให้สามีอยู่ตลอด สำหรับ “ยุ้ย อัฐมาศ” ภรรยาสุดที่รักของดาราหนุ่ม “เต๋า สมชาย เข็มกลัด” ที่แม้ว่าจะมีลูกให้ได้ชื่นชมถึง 2 คนแล้วก็ตาม แต่ความหวานก็ยังไม่ลดน้อยลง ทั้งนี้ยุ้ยได้เผยถึงสามีสุดเลิฟในมุมที่น่ารักๆ ว่า…
“กับเต๋าถ้าพฤษภาคมนี้ ก็จะแต่งครบ 3 ปี แล้วค่ะ ชีวิตครอบครัวของเรามีความสุขมากๆ ลูกๆ ก็โตขึ้นทุกวันๆ พูดได้แสดงออกได้ในสิ่งที่เขาคิดเห็น เราก็แฮปปี้มีลูกสองคนก็เลี้ยงกันคนละแบบ อย่างคนโต เขาจะลุยๆนอนดึก แต่คนเล็กจะเป็นระบบระเบียบหน่อย ตอนนี้ก็โตพอที่จะฝากไว้กับญาติๆ ได้ มีคุณน้าของคุณเต๋าก็จะมาคอยช่วยดูแลตลอดเลย ตอนนี้ถ้าเวลาคุณเต๋าออกงานไหนก็จะไปด้วย ต้องมาคอยอำนวยความสะดวก ถ้าช่วงไหนที่เขาออกมาคนเดียวได้ก็ปล่อย”
“ถามว่าเต๋าปกติเป็นคนหวานไหม จริงๆ แล้วเต๋าเป็นคนหวานมากกว่าเราอีกนะ โรแมนติกมาก มากกว่าเรา เขาสนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างบางทีเราทาแป้งออกมา พอขึ้นรถเขาก็จะเอากระดาษมาเช็ด แล้วก็บอกว่ายังเกลี่ยไม่ทั่วเลย เขาเป็นคนละเอียดใส่ใจเรื่องเล็กๆ ถามว่าเต๋าดูแลเอาใจใส่ยากไหม คือเขาเป็นคนที่มีสองมุมจะบอกว่ายากก็เหมือนยาก เพราะต้องเข้าใจเขา แต่ถ้าบอกว่าง่ายก็คือเราถ้าเราเข้าใจมันก็จะง่าย”
“ถึงแม้ว่าภาพลักษณ์เขาจะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็จะมีมุมน่ารัก และในฐานะพ่อเขาจะน่ารักกับลูกๆ มาก เวลาเขาอยู่กับลูกเหมือนเขาจะเป็นได้ทุกอย่าง เขาดีมาก อย่างเวลาจะเล่นเป็นอะไร จะให้ลูกเหยียบกระทืบซ้ำ หรือให้เล่นเป็นม้าให้ขี่ ทุกอย่างเขาก็ยอมทำ อย่างลูกสาวน้องสมใจก็จะอ้อนกว่า จะเรียกปะป๊าๆ ตลอด แต่ลูกชายยังเล็กพูดไม่ได้แต่เริ่มยิ้ม เริ่มอยากเล่นกับพ่อ เวลาเขาทำงานกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่เขาจะไปหาคือลูกสาวก่อน ถามหาแต่สมใจ”
“ตอนนี้น้องสมใจเพิ่งจะ 2 ขวบนิดๆ ก็เล็งๆ โรงเรียนไว้บ้างแล้วเรียบร้อย เราก็ช่วยๆ กันดูด้วยกัน เราก็ใช้ความรู้สึกใช้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็ต้องเข้าไปดูโรงเรียนเอง ว่าบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมถ้าใช่ก็โอเค ไม่จำเป็นต้องเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ให้เรียนโรงเรียนไทยๆ นี่แหละ เราคุยกันแล้วว่าเราจะเลี้ยงลูกแบบโรงเรียนไทยๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่ที่ความคิดของพ่อแม่ไม่มีผิดหรือถูก แต่เราชอบกันแบบนี้”
“เวลาเราเลี้ยงลูกต้องมีคนนึงคอยตามใจกับอีกคนคอยปราม เราเป็นคนดุ อย่างเต๋าเวลาจะดุลูกยังไม่ยอมดุเอง สะกิดให้เราดุลูก ไม่ใช่ว่าเขาจะกลัวว่าลูกไม่รัก แต่เราแบ่งหน้าที่กันแล้วว่าถ้าจะดุลูกให้เราดุ (หัวเราะ) แต่เขาก็ไม่ได้ตามใจอะไรมากตามสมควรมากกว่า”
“เขาไม่ค่อยอยากดุ เขาอยากจะเก็บอารมณ์ดุไว้ประมาณว่าถ้าดุลูกต้องกลัว เราดุก็เหมือนพร่ำเพรื่อไป แต่เมื่อเขาดุขึ้นมาลูกร้องไห้น้ำตาไหลเลยนะ สมใจจะกลัว เราคุยกันไว้แล้วว่าถ้ามีแบบนี้ไว้เขาจัดการขั้นสุดท้าย และเต๋าเองก็ไม่ตีลูกด้วย อย่างเราจะมีบ้างอย่างตีมือเพราะอยากให้เขารู้ว่านี่คือการทำโทษ แต่เต๋าไม่ตีเลย เขาบอกว่าลูกยังเล็กมีวิธีสอนลูก”
