“ฝ้าย” ไม่สนคนมองแต่ง “หนุ่ม อรรถพร” เร็วเกินไป บอกคบกันแล้วมีความสุข และอยากหยุดที่คนนี้จึงไม่อยากรออีกต่อไป เผยงานแต่งเตรียมเสร็จไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ยอมรับแอบกลัวว่าจะเตรียมงานไม่ทันเพราะงานเยอะทั้งคู่
ใกล้ถึงวันวิวาห์ในวันที่ 4 พ.ค. เข้ามาทุกที งานนี้ก็เลยทำให้ว่าที่เจ้าสาวอย่าง “ฝ้าย อริญรดา ปิติมารัชต์” ออกปากรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ โดยเจ้าตัวได้เผยถึงการเตรียมงานให้ฟังว่าเรียบร้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ก็แอบกังวลว่าจะเตรียมงานไม่ทันเพราะทั้งตนและว่าที่เจ้าบ่าว “หนุ่ม อรรถพร ธีมากร” ทำงานเกือบทุกวัน บอกอยากให้งานออกมาดีที่สุดเพราะอยากให้แขกที่มางานประทับใจ
“เรื่องของโรงแรมเรียบร้อยค่ะ คุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อย ชุดแต่งงานเรียบร้อย ของชำร่วยเสร็จแล้ว แต่อยู่ในขั้นตอนของการสั่งค่ะ ของออกมาก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างค่ะ ธีมของงานเป็นแฟชั่นปาร์ตี้สีชมพูเทา ส่วนชุดแต่งงานของฝ้ายกับพี่หนุ่มสวยถูกใจเราสองคนมากค่ะ แต่จะสวยจะหล่อแค่ไหนอยากให้ไปดูในวันงานของเรา ส่วนราคาชุดแต่งงานของเราสองคนรวมกันก็ 5 หมื่น ก็ไม่ได้แพงมากค่ะ เราสองคนชิลล์ๆ กันอยู่แล้ว”
“ตอนนี้ทั้งฝ้ายทั้งพี่หนุ่มเองก็ตื่นเต้น กลัวว่างานจะออกมาไม่สมกับคนที่มาหรือเปล่า แล้วก็กลัวไม่เรียบร้อยพอค่ะ จะกังวลเรื่องนั้นมากกว่าค่ะ แต่สำหรับเราสองคนไม่ได้ห่วงว่าจะไม่สวยจะไม่หล่อค่ะ ส่วนเข้าคอร์สเจ้าสาว ไม่เลยค่ะ อันนั้นไม่ค่อยเน้น แล้วฝ้ายเองก็ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องผิวพรรณเท่าไหร่ แค่เน้นให้ชุดสวยๆ ไว้ก่อน แล้วเน้นให้คนที่มาร่วมงานเกิดความประทับใจกับงานของเราก็พอ น้ำหนักตอนนี้ก็มีลดลงไปแล้วบ้างจากเดิม แต่ว่าก็คงต้องลงอีกนิดนึง แต่คงไม่ลงเยอะกว่านี้แล้วค่ะ เพราะว่าชุดที่ลองไว้ก็เอาไซส์เท่านี้ค่ะ ส่วนพี่หนุ่ม (หัวเราะ) ท่าทางจะหนักกว่าเพราะเป็นคนผิวดำไวมากเลยค่ะ เดี๋ยวต้องออกกองด้วย”
“กลัวเตรียมงานไม่ทันเหมือนกัน เพราะว่าเดี๋ยวฝ้ายต้องมีถ่ายละคร 2 เรื่อง คิว 7 วัน แล้วของพี่หนุ่มก็ปาเข้าไป 4 วันแล้ว ตอนนี้ถ้ามีเวลาว่างตรงกันหรือว่าว่างก็รีบไปจัดการเลยค่ะ เราสองคนต่างก็ช่วยกันตัดสินใจเรื่องงานแต่ง ไม่ได้ตามใจฝ่ายใดฝ่ายนึง ก็คุยกันเริ่มตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ก่อนเลย อย่างของชำร่วยเราจะเอาอะไรดี แล้วก็อยากได้ของที่คนไปงานแล้วได้ใช้ ไม่ใช่พอไปถึงแล้วเอาไปวางทิ้งๆ ค่ะ”
ถูกหลายคนทั้งท้วงว่าสละโสดเร็วเกินไปหรือเปล่า แต่สาวฝ้ายกลับคิดในทางกลับกันว่า การที่คบกันหลายๆ ปี ก็ไม่ได้ช่วยให้ได้แต่งงานหรืออยู่คู่กัน
“ก็มีหลายคนที่เราส่งข้อความเชิญไปก่อนว่าเราจะแต่งวันนี้ บางคนก็ถามว่าเร็วเกินไปหรือเปล่า คิดดีแล้วเหรอ แต่ฝ้ายเห็นว่าถ้าเรารู้สึกดีแล้ว ก็พอแล้วก็ได้ เพราะเราก็ไม่ได้คิดที่จะหาใครต่อๆ ไปแล้วค่ะ หยุดแค่นี้แล้วใช้ชีวิตคู่เริ่มต้นใหม่ให้มีความสุขดีกว่า”
“คนรอบข้างส่วนใหญ่จะตกใจ เพราะเหมือนฝ้ายอายุน้อยมั้งคะ แล้วตัดสินใจแต่งงานไว ส่วนว่าอะไรทำให้เรามั่นใจในตัวพี่หนุ่มว่าคนๆ นี้เราจะอยู่ด้วยตลอดชีวิต เพราะเวลาคุยกัน เราเข้าใจกันมากเกือบทุกเรื่อง ก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเราใช้ชีวิต อยู่ด้วยกัน ค่อยๆ ประคองกันไปปรับเปลี่ยนกันไปดีกว่า เหมือนที่พี่หนุ่มพูดว่าไม่อยากจะทิ้งความสุขไปไหน เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จริงๆ กับการที่คบกันหลายๆ ปี มันก็ไม่ได้ช่วยให้เราจะได้แต่งงานหรืออยู่คู่กัน แค่ปีเดียวที่ผ่านมาเรามีความสุข เรารู้สึกว่าอะไรที่สะดุด เราก็ปรับให้เข้ากัน แล้วพอใช้ชีวิตคู่จะได้ปรับไปพร้อมกันด้วย ก็จะได้มีความสุขไปนานๆ ไม่คิดเสียดายชีวิตโสดค่ะ”
พร้อมเล่าให้ฟังถึงนาทีที่หนุ่มขอแต่งงานว่า เป็นการขอแบบเรียบง่าย ไม่ได้หวานซึ้งโรแมนติกเหมือนกับคู่รักคู่อื่น
“ไม่มีการคุกเข่าขอค่ะ วินาทีที่ขอ พี่หนุ่มพูดคุยปกติค่ะ ก็แค่บอกว่าแต่งงานกันนะเท่านั้นเอง เราก็อืม... (หัวเราะ) ไม่มีโรแมนติกเลย จริงๆ ค่ะ แบบว่าเราเห็นเพื่อนๆ พี่หนุ่มเวลาครบรอบก็เอาดอกไม้ไปให้แฟนเขา แต่พี่หนุ่มไม่มีเลย ก็เคยบอกพี่หนุ่มว่าเวลาขอฝ้ายแต่งงานเอาแบบเซอร์ไพร์สมากๆ เลยนะ สรุปแล้วเซอร์ไพร์สมากเลย (หัวเราะ) คือนั่งทานข้าวกันอยู่ พี่หนุ่มก็บอกว่า เราแต่งงานกันนะ จริงๆ ก็รู้อยู่แล้ว เพราะเราคุยกันอยู่แล้วว่าเราจะแต่งงานกัน”
“ตั้งแต่คบกันมามันก็มีทะเลาะกันบ้าง มันก็ธรรมดาค่ะ คนเราใช้ชีวิตต่างกันก็มีต้องเข้ากันไม่ได้บ้าง แต่ว่าสิ่งไหนที่เราไม่ชอบก็จะบอกเขา พี่หนุ่มก็จะปรับตัว และอันไหนที่ฝ้ายเป็นแล้วเขาไม่ชอบก็จะบอกฝ้ายค่ะ ก็เลยไม่มีปัญหา”