โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)

หายหน้าไปร่วม 5 ปี วง “เรดฮอต ชิลี เป็ปเปอร์ส”(Red Hot Chili Peppers : RHCP) วงร็อกรุ่นใหญ่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 ไม่ได้หายไปปลูกพริกไท ทำไร่พริกหยวก หรือนั่งตำพริกป่นที่ไหน แต่พวกเขาเลือกพักวงชั่วคราวหลังประสบความสำเร็จอย่างสูงปรี๊ดในอัลบั้มชุดที่แล้ว
นอกจากนี้วงเรดฮอตยังมีปัญหาให้วงสะดุดกึกตรงที่ “จอห์น ฟรูชอนเต้”(John Fruscianete) มือกีตาร์คู่บุญของวงที่ร่วมหัวจมท้ายกันมานาน โบกมือลา ขอแยกตัวเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง ด้วยเหตุผลว่าเขามีแผนทำอัลบั้มของตัวเองในอนาคต
การลาออกของฟรูชอนเต้ แม้จะทำให้แฟนพันธุ์แท้วงพริกเผ็ดช็อคอารมณ์พอสมควร แต่นี่ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ของวงนี้ เพราะเขาเคยลาออกจากเรดฮอตไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังทางวงประกาศศักดาความเป็นเจ้าแห่งแร๊พ ร็อก ให้โลกรับรู้ในอัลบั้มที่ 5 “Blood Sugar Sex Magik”(ปี ค.ศ.1991) ซึ่งฟรูชอนเต้ให้เหตุผลในการลาจากวงครั้งนั้นว่า รู้สึกไม่ชอบใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น(แปลกดีแฮะ) เลยขอลาออกไปฉีดผงดีกว่า ทำให้ทางวงดึง “เดฟ นาวาโร่” (Dave Navarro) มาเล่นแทน พร้อมออกอัลบั้ม “One Hot Minute”(1995) ด้วยกัน
ผลก็คืออัลบั้มนี้แป๊ก ทางกีตาร์ของนาวาร์โร่ไปกับวงไม่ได้จึงจำเป็นต้องออกไป เปิดโอกาสให้ทางวงรับฟรูชอนเต้ที่บำบัดยารักษาตัวแล้วกลับมาอีกครั้งในปี 1998 โดยมีฟลีเป็นหัวหอกหลักในการดึงฟรูชอนเต้กลับมา เพราะทั้งคู่เล่นดนตรีเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี
ดูเหมือนว่าฟรูชอนเต้จะถูกโฉลกกับเรดฮอตเป็นพิเศษ เพราะหลังจากที่เขากลับเข้ามาขยี้สายกีตาร์ให้ทางวงพริกเผ็ดอีกครั้ง ผลงานที่ออกตามๆกันมาล้วนต่างประสบความสำเร็จด้วยดี ไล่ไปตั้งแต่ “Californication”(1999) “By the Way”(2002) และ “Stadium Arcadium”(2006) อัลบั้มคู่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่รับไปทั้งเงิน ทั้งกล่อง ซิวรางวัลแกรมมี่ไป 7 รางวัล มียอดขายกว่า 50 ล้านชุดทั่วโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของวงเรดฮอต ชิลี เป็ปเปอร์ส
แต่ดูเหมือนว่าฟรูชอนเต้จะเป็นคนที่มีรสนิยมไม่ค่อยชอบชื่อเสียง ความสำเร็จสักเท่าไหร่ เขาจึงขอแยกทางจากวงพริกเผ็ดไปเดินตามทางของตัวเอง ทำให้ทางวงต้องควานหามือกีตาร์คนใหม่มาเสียบแทน ซึ่งสุดท้ายก็ได้คนใกล้ตัวอย่าง “จอช คลิงฮอฟเฟอร์”(Josh Klinghoffer) มาเป็นขุนขวานมือกีตาร์เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว
คลิงฮอฟเฟอร์ เป็นมือกีตาร์ในระดับไม่ธรรมดาคนหนึ่ง เขาเคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังๆมาหลายคน อาทิ Perry Farrell, Tricky, PJ Harvey, Neon Neon และ Gnarls Barkley อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีทางดนตรีแบบเรดฮอตอยู่พอตัว เพราะคลิงฮอฟเฟอร์เคยเป็นมือกีตาร์ที่ร่วมออกทัวร์กับวงเรดฮอตมาก่อน แถมหมอนี่ยังไฟแรง เข้ามาร่วมเป็นกำลังสร้างสรรค์ แต่งเพลง ร้อง และเล่นคีย์บอร์ด สมทบอีกต่างหาก
หลังได้ตัวคลิงฮอฟเฟอร์ พลพรรควงพริกเผ็ดที่อัดอั้นมานานก็เดินหน้าผลิตผลงานใหม่ ทำคลอดอัลบั้มชุดล่าสุดออกมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ในชื่อชุด “I'm With You” ในสังกัด Warner Music
อัลบั้มนี้มีสมาชิกรุ่นล่าสุดประกอบด้วย “แอนโทนี คีดิส”(Anthony Kiedis) : ร้องนำ, ไมเคิล“ฟลี” บัลซารี(Michael “Flea” Balzary) : กระตุกเบส, “แชด สมิธ”(Chad Smith) : กระหน่ำกลอง และน้องใหม่ “จอช คลิงฮอฟเฟอร์”(Josh Klinghoffer) : ขยี้กีตาร์
“I'm With You” เป็นอัลบั้มชุดที่ 10 ของเรดฮอต มี“ริค รูบิน”(Rick Rubin) โปรดิวเซอร์คู่ใจ มาโปรดิวซ์ดูแลการผลิตเหมือนเดิม

อัลบั้มนี้เบิกฤกษ์เปิดนำกันด้วย “Monarchy Of Roses” ที่ขึ้นต้นมาด้วยซาวนด์กีตาร์ดิบๆหยาบๆเพี้ยนๆ แล้วส่งต่อความมันเข้าตัวเพลงที่ช่วงแรกเต็มไปด้วยซาวนด์คลุมเครือ ก่อนมาถึงท่อนฮุคกับลีลาดิสโก้ฟังค์ที่มันเอาเรื่อง ไลน์เบสของพี่ฟลีในช่วงนี้ควบขโยกลอยเด่นขึ้นมาอย่างฟังได้ชัด ส่วนทางกีตาร์ของคลิงฮอฟเฟอร์ในเพลงนี้ฟังผ่านๆ จะเต็มไปด้วยลูกหยาบ ดิบ เพี้ยน แต่หากฟังลงลึกลงจะพบว่าหมอนี่เก็บรายละเอียดใช่ย่อย ทั้งลูกตีคอร์ด ลูกประสาน ลูกตอดเล็กตอดน้อย
ถัดมาเป็น “Factory Of Faith” ฟังก์ร็อกสนุกๆมันๆ เปิดพื้นที่ให้คีดิสโชว์น้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีภาคดนตรีอุ้มรับอยู่เบื้องหลัง
ส่วน “Brendan's Death Song” เบรกอารมณ์มาฟังเสียงอะคูสติกกีตาร์หวานใสไพเราะกับอารมณ์บัลลาดในช่วงแรกกับบทเพลงที่แต่งยกย่องแบรนดอน มัลเลน นักข่าว-นักเขียน ที่ผูกพันกับวงผู้ล่วงลับ ก่อนที่ช่วงท้ายจะจัดเต็มใส่กันมา
“Ethiopia” เป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นกับจังหวะขัดๆกวนๆ เนื้อร้องแปลกๆ “อิ อา โอะ” ฟังแล้วไม่ทิ้งลายเรดฮอตแต่อย่างใด
ข้ามไปในแทรคที่ 7 กับ “The Adventures Of Rain Dance Maggie” ซิงเกิ้ลแรกของวงที่ใช้เปิดอัลบั้ม ทางดนตรีเป็นดิสโก้ฟังก์สนุกๆมีกลิ่นป็อบเจือปน ไลน์กีตาร์ลูกหยอดประสานของคลิงฮอฟเฟอร์ เท่ และเด่นเป็นบ้า
ส่วน “Did I Let You Know” นี่เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ไลน์กีตาร์ของคลิงฮอฟเฟอร์ เด่น เก๋ และน่าฟังมาก แต่ที่แปลกและสะดุดหูกว่ากับเป็นเสียงโซโลทรัมเป็ตกับเพอร์คัสชั่นติดกลิ่นแจ๊ซในท่อนกลาง ที่เป็นอีกหนึ่งความพยายามผสมทางดนตรีใหม่ๆให้กับวง
ด้าน “Police Station” ในแทรค 11 ที่เนื้อหาว่าด้วยชีวิตและความตายนั้น เป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นที่แม้โทนของเพลงจะออกแนวหม่น เศร้า วังเวง แต่ว่าก็มีเสน่ห์ไปด้วยซาวนด์ดนตรีที่จัดวางอารมณ์ระหว่างความดุดันกับความหวานเศร้าได้อย่างน่าฟัง
นอกจากบทเพลงที่กล่าวมาแล้ว อัลบั้มนี้ยังมีอีกหลายเพลงให้ฟังรวมแล้ว 14 เพลงด้วยกัน แต่งานนี้กลับไม่มีเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มคือ I'm With You ซึ่งนี่ดูเหมือนจะเป็นเจตนาของทางวงที่ต้องการตั้งชื่ออัลบั้มเพื่อสื่อความนัย บอกให้แฟนเพลงรู้ว่า พวกเขายังไม่ไปไหน ยังอยู่กับแฟนเพลงเหมือนเดิม และยังคงทำเพลงในสไตล์เรดฮอตออกมาเหมือนเดิม เพียงแต่รูปแบบและรายละเอียดในแต่ละชุดนั้นอาจมีแตกต่างกันออกไป
สำหรับในอัลบั้มนี้โดยภาพรวมต้องบอกว่าดนตรีของพวกเขายังคงยื้นพื้นกับฟังค์ ร็อกสนุกๆที่เป็นเอกลักษณ์ลายเซ็นเฉพาะของวง แต่ดนตรีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ฟังสุขุมนุ่มลึก และใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น มีการใส่ซาวนด์ทดลองใหม่ๆเข้ามา ที่ให้ความรู้สึกต่างไปจากเรดฮอตในยุคแรกๆได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นซาวด์เปียโนพลิ้ว ซาวนด์ทรัมเป็นออกลูกแจ๊ซ หรือซาวนด์ซินธิไซเซอร์ที่เล่นโอบอุ้ม
ส่วนที่ฟังแล้วหดหายไปพอตัวก็คือ ลูกบ้า ลูกเพี้ยน ลูกหลุดโลก และลูกมันแบบสุดๆที่เคยเป็นจุดขายของวง เพราะครั้งนี้เรดฮอตมาแบบมวยเชิงสูงมากประสบการณ์ มากกว่าการเป็นมวยไฟท์เตอร์เดินหน้าฆ่าลูกเดียว นั่นย่อมเป็นเพราะพวกเขาเติบโตขึ้น แม้พลังทางดนตรีจะยังมีเหลือเฟือ แต่ด้วยการมองโลกและประสบการณ์ที่เพิ่มพูน ทำให้งานดนตรีของเรดฮอตชุดนี้ออกมา แม้จะยังคงไว้ด้วยความเผ็ดร้อน แต่เป็นความลึกผสมเผ็ดร้อนซ่อนอ่อนหวาน ไม่ใช่ความเผ็ดที่จี๊ดจ๊าดเหมือนสมัยหนุ่มๆระห่ำ ห้าวเป้ง
ในขณะที่ซาวนด์กีตาร์ในชุดนี้ที่เป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่แฟนเพลงเฝ้าจับตานั้น เสียงกีตาร์ของฟรูชอนเต้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตรงลูกดุดัน เป็นธรรมชาติ ผสมด้วยลูกบ้าลูกเพี้ยนและมากไปด้วยริฟฟ์มันๆ ที่สำคัญคือการที่เขาเล่นกับเรดฮอตมาอย่างยาวนาน ทำให้ซาวนด์กีตาร์ของเขามันเข้าขากับเบส กลอง และเสียงร้องได้อย่างกลมกลืนลงตัว
ส่วนซาวนด์กีตาร์ของคลิงฮอฟเฟอร์แม้ความดุดัน ความเป็นธรรมชาติรื่นไหล ลูกบ้า และลูกริฟฟ์มันๆ จะฟังดูมีน้อยกว่าของฟรูชอนเต้ แต่สิ่งที่ได้ทดแทนมาก็คือรายละเอียด ลูกเล่น และสำเนียงใหม่ๆ ที่แม้ชุดนี้คลิงฮอฟเฟอร์อาจจะยังเกรงๆและเกร็งๆไม่กล้าใส่เต็มที่ เนื่องจากยังไม่คุ้นและยังไม่เข้าขารู้ใจกับทางวง แต่โดยรวมเขาสามารถสานต่อความเป็นเรด ฮอต ได้ดีทีเดียว
เรียกว่าเอาอยู่ !?!
แต่ที่ต้องลุ้นกันก็คือว่าคลิงฮอฟเฟอร์จะยืนระยะอยู่กับเรดฮอตได้ยาวนานแค่ไหน รวมถึงเขาจะเป็นมือกีตาร์ที่ถูกโฉลกกับชื่อเสียงความสำเร็จของเรดฮอตหรือไม่ เรื่องนี้แฟนวงพริกเผ็ดคงต้องคอยติดตามกันต่อไป
*****************************************
คลิกฟังเพลง The Adventures Of Rain Dance Maggie
*****************************************
แกะกล่อง

ศิลปิน : Kendra Lou
อัลบั้ม : To The End Of The World
“To The End Of The World” (สังกัด Hitmanjazz) คืออัลบั้มแรกของ “เคนดร้า ลู” นักร้องสาวสวยเสียงทรงเสน่ห์ชาวเดนมาร์ก ที่ถือเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ในวงการแจ๊ซของยุโรป อัลบั้มนี้มีทั้งเพลงของคนอื่นและบทเพลงที่เธอแต่งเองรวม 12 เพลงด้วยกัน ซึ่งลูขับขานถ่ายทอดออกมาในสไตล์แจ๊ซ บลูส์ด้วยเสียงหวานใสเพราะพริ้งชวนฟังแต่ก็มีพลังอยู่ในตัว
สำหรับใครที่ชื่นชอบบทเพลง(ร้อง)แจ๊ซย้อนยุคในสไตล์ Billie Holidays,Peggy Lee และ Ella Fitzgerald ที่เจือไปด้วยซาวน์ร่วมสมัยและไม่เนิบนาบจนน่าเบื่อ นี่คือหนึ่งในอัลบั้มน่าสนใจที่ฟังแล้วคุณอาจจะหลงรักและเคนดร้า ลู ได้อย่างไม่รู้ตัว

ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : The Big Ones
ผลงานรวมเพลงฮิตสุดฮอต จากค่าย Warner Music ที่รวบรวม 18 เพลงดังแห่งยุค มานำเสนอ เน้นหนักไปที่บทเพลงสไตล์ ป็อบ แด๊นซ์ สนุกๆชวนขยับแข้งขยับขา โดยไม่ลืมที่จะเบรกด้วย 2 เพลงไพเพราะช้าๆคั่นอารมณ์ สำหรับบทเพลงน่าสนใจในอัลบั้มนี้ได้แก่ “Just The Way You Are : Bruno Mars”,”Baby : Justin Bieber”,”Firework : Katy Perry”,”Need Your Now : Lady Antebellum”,”Pyramid : Charice” ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี “Every Teardrop Is a Waterfall” ผลงานเพลงใหม่เอี่ยมอ่องจาก “Coldplay” ที่ถูกคัดมานำเสนอก่อนที่พวกเขาจะออกอัลบั้มเต็มเสียอีก
และนี่ก็คือผลงานรวมเพลงแห่งยุคสมัยที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้นิยมอัพเดทเพลงฮิตทั้งหลาย
หายหน้าไปร่วม 5 ปี วง “เรดฮอต ชิลี เป็ปเปอร์ส”(Red Hot Chili Peppers : RHCP) วงร็อกรุ่นใหญ่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 ไม่ได้หายไปปลูกพริกไท ทำไร่พริกหยวก หรือนั่งตำพริกป่นที่ไหน แต่พวกเขาเลือกพักวงชั่วคราวหลังประสบความสำเร็จอย่างสูงปรี๊ดในอัลบั้มชุดที่แล้ว
นอกจากนี้วงเรดฮอตยังมีปัญหาให้วงสะดุดกึกตรงที่ “จอห์น ฟรูชอนเต้”(John Fruscianete) มือกีตาร์คู่บุญของวงที่ร่วมหัวจมท้ายกันมานาน โบกมือลา ขอแยกตัวเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง ด้วยเหตุผลว่าเขามีแผนทำอัลบั้มของตัวเองในอนาคต
การลาออกของฟรูชอนเต้ แม้จะทำให้แฟนพันธุ์แท้วงพริกเผ็ดช็อคอารมณ์พอสมควร แต่นี่ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ของวงนี้ เพราะเขาเคยลาออกจากเรดฮอตไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังทางวงประกาศศักดาความเป็นเจ้าแห่งแร๊พ ร็อก ให้โลกรับรู้ในอัลบั้มที่ 5 “Blood Sugar Sex Magik”(ปี ค.ศ.1991) ซึ่งฟรูชอนเต้ให้เหตุผลในการลาจากวงครั้งนั้นว่า รู้สึกไม่ชอบใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น(แปลกดีแฮะ) เลยขอลาออกไปฉีดผงดีกว่า ทำให้ทางวงดึง “เดฟ นาวาโร่” (Dave Navarro) มาเล่นแทน พร้อมออกอัลบั้ม “One Hot Minute”(1995) ด้วยกัน
ผลก็คืออัลบั้มนี้แป๊ก ทางกีตาร์ของนาวาร์โร่ไปกับวงไม่ได้จึงจำเป็นต้องออกไป เปิดโอกาสให้ทางวงรับฟรูชอนเต้ที่บำบัดยารักษาตัวแล้วกลับมาอีกครั้งในปี 1998 โดยมีฟลีเป็นหัวหอกหลักในการดึงฟรูชอนเต้กลับมา เพราะทั้งคู่เล่นดนตรีเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี
ดูเหมือนว่าฟรูชอนเต้จะถูกโฉลกกับเรดฮอตเป็นพิเศษ เพราะหลังจากที่เขากลับเข้ามาขยี้สายกีตาร์ให้ทางวงพริกเผ็ดอีกครั้ง ผลงานที่ออกตามๆกันมาล้วนต่างประสบความสำเร็จด้วยดี ไล่ไปตั้งแต่ “Californication”(1999) “By the Way”(2002) และ “Stadium Arcadium”(2006) อัลบั้มคู่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่รับไปทั้งเงิน ทั้งกล่อง ซิวรางวัลแกรมมี่ไป 7 รางวัล มียอดขายกว่า 50 ล้านชุดทั่วโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของวงเรดฮอต ชิลี เป็ปเปอร์ส
แต่ดูเหมือนว่าฟรูชอนเต้จะเป็นคนที่มีรสนิยมไม่ค่อยชอบชื่อเสียง ความสำเร็จสักเท่าไหร่ เขาจึงขอแยกทางจากวงพริกเผ็ดไปเดินตามทางของตัวเอง ทำให้ทางวงต้องควานหามือกีตาร์คนใหม่มาเสียบแทน ซึ่งสุดท้ายก็ได้คนใกล้ตัวอย่าง “จอช คลิงฮอฟเฟอร์”(Josh Klinghoffer) มาเป็นขุนขวานมือกีตาร์เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว
คลิงฮอฟเฟอร์ เป็นมือกีตาร์ในระดับไม่ธรรมดาคนหนึ่ง เขาเคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังๆมาหลายคน อาทิ Perry Farrell, Tricky, PJ Harvey, Neon Neon และ Gnarls Barkley อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีทางดนตรีแบบเรดฮอตอยู่พอตัว เพราะคลิงฮอฟเฟอร์เคยเป็นมือกีตาร์ที่ร่วมออกทัวร์กับวงเรดฮอตมาก่อน แถมหมอนี่ยังไฟแรง เข้ามาร่วมเป็นกำลังสร้างสรรค์ แต่งเพลง ร้อง และเล่นคีย์บอร์ด สมทบอีกต่างหาก
หลังได้ตัวคลิงฮอฟเฟอร์ พลพรรควงพริกเผ็ดที่อัดอั้นมานานก็เดินหน้าผลิตผลงานใหม่ ทำคลอดอัลบั้มชุดล่าสุดออกมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ในชื่อชุด “I'm With You” ในสังกัด Warner Music
อัลบั้มนี้มีสมาชิกรุ่นล่าสุดประกอบด้วย “แอนโทนี คีดิส”(Anthony Kiedis) : ร้องนำ, ไมเคิล“ฟลี” บัลซารี(Michael “Flea” Balzary) : กระตุกเบส, “แชด สมิธ”(Chad Smith) : กระหน่ำกลอง และน้องใหม่ “จอช คลิงฮอฟเฟอร์”(Josh Klinghoffer) : ขยี้กีตาร์
“I'm With You” เป็นอัลบั้มชุดที่ 10 ของเรดฮอต มี“ริค รูบิน”(Rick Rubin) โปรดิวเซอร์คู่ใจ มาโปรดิวซ์ดูแลการผลิตเหมือนเดิม
อัลบั้มนี้เบิกฤกษ์เปิดนำกันด้วย “Monarchy Of Roses” ที่ขึ้นต้นมาด้วยซาวนด์กีตาร์ดิบๆหยาบๆเพี้ยนๆ แล้วส่งต่อความมันเข้าตัวเพลงที่ช่วงแรกเต็มไปด้วยซาวนด์คลุมเครือ ก่อนมาถึงท่อนฮุคกับลีลาดิสโก้ฟังค์ที่มันเอาเรื่อง ไลน์เบสของพี่ฟลีในช่วงนี้ควบขโยกลอยเด่นขึ้นมาอย่างฟังได้ชัด ส่วนทางกีตาร์ของคลิงฮอฟเฟอร์ในเพลงนี้ฟังผ่านๆ จะเต็มไปด้วยลูกหยาบ ดิบ เพี้ยน แต่หากฟังลงลึกลงจะพบว่าหมอนี่เก็บรายละเอียดใช่ย่อย ทั้งลูกตีคอร์ด ลูกประสาน ลูกตอดเล็กตอดน้อย
ถัดมาเป็น “Factory Of Faith” ฟังก์ร็อกสนุกๆมันๆ เปิดพื้นที่ให้คีดิสโชว์น้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีภาคดนตรีอุ้มรับอยู่เบื้องหลัง
ส่วน “Brendan's Death Song” เบรกอารมณ์มาฟังเสียงอะคูสติกกีตาร์หวานใสไพเราะกับอารมณ์บัลลาดในช่วงแรกกับบทเพลงที่แต่งยกย่องแบรนดอน มัลเลน นักข่าว-นักเขียน ที่ผูกพันกับวงผู้ล่วงลับ ก่อนที่ช่วงท้ายจะจัดเต็มใส่กันมา
“Ethiopia” เป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นกับจังหวะขัดๆกวนๆ เนื้อร้องแปลกๆ “อิ อา โอะ” ฟังแล้วไม่ทิ้งลายเรดฮอตแต่อย่างใด
ข้ามไปในแทรคที่ 7 กับ “The Adventures Of Rain Dance Maggie” ซิงเกิ้ลแรกของวงที่ใช้เปิดอัลบั้ม ทางดนตรีเป็นดิสโก้ฟังก์สนุกๆมีกลิ่นป็อบเจือปน ไลน์กีตาร์ลูกหยอดประสานของคลิงฮอฟเฟอร์ เท่ และเด่นเป็นบ้า
ส่วน “Did I Let You Know” นี่เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ไลน์กีตาร์ของคลิงฮอฟเฟอร์ เด่น เก๋ และน่าฟังมาก แต่ที่แปลกและสะดุดหูกว่ากับเป็นเสียงโซโลทรัมเป็ตกับเพอร์คัสชั่นติดกลิ่นแจ๊ซในท่อนกลาง ที่เป็นอีกหนึ่งความพยายามผสมทางดนตรีใหม่ๆให้กับวง
ด้าน “Police Station” ในแทรค 11 ที่เนื้อหาว่าด้วยชีวิตและความตายนั้น เป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นที่แม้โทนของเพลงจะออกแนวหม่น เศร้า วังเวง แต่ว่าก็มีเสน่ห์ไปด้วยซาวนด์ดนตรีที่จัดวางอารมณ์ระหว่างความดุดันกับความหวานเศร้าได้อย่างน่าฟัง
นอกจากบทเพลงที่กล่าวมาแล้ว อัลบั้มนี้ยังมีอีกหลายเพลงให้ฟังรวมแล้ว 14 เพลงด้วยกัน แต่งานนี้กลับไม่มีเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มคือ I'm With You ซึ่งนี่ดูเหมือนจะเป็นเจตนาของทางวงที่ต้องการตั้งชื่ออัลบั้มเพื่อสื่อความนัย บอกให้แฟนเพลงรู้ว่า พวกเขายังไม่ไปไหน ยังอยู่กับแฟนเพลงเหมือนเดิม และยังคงทำเพลงในสไตล์เรดฮอตออกมาเหมือนเดิม เพียงแต่รูปแบบและรายละเอียดในแต่ละชุดนั้นอาจมีแตกต่างกันออกไป
สำหรับในอัลบั้มนี้โดยภาพรวมต้องบอกว่าดนตรีของพวกเขายังคงยื้นพื้นกับฟังค์ ร็อกสนุกๆที่เป็นเอกลักษณ์ลายเซ็นเฉพาะของวง แต่ดนตรีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ฟังสุขุมนุ่มลึก และใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น มีการใส่ซาวนด์ทดลองใหม่ๆเข้ามา ที่ให้ความรู้สึกต่างไปจากเรดฮอตในยุคแรกๆได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นซาวด์เปียโนพลิ้ว ซาวนด์ทรัมเป็นออกลูกแจ๊ซ หรือซาวนด์ซินธิไซเซอร์ที่เล่นโอบอุ้ม
ส่วนที่ฟังแล้วหดหายไปพอตัวก็คือ ลูกบ้า ลูกเพี้ยน ลูกหลุดโลก และลูกมันแบบสุดๆที่เคยเป็นจุดขายของวง เพราะครั้งนี้เรดฮอตมาแบบมวยเชิงสูงมากประสบการณ์ มากกว่าการเป็นมวยไฟท์เตอร์เดินหน้าฆ่าลูกเดียว นั่นย่อมเป็นเพราะพวกเขาเติบโตขึ้น แม้พลังทางดนตรีจะยังมีเหลือเฟือ แต่ด้วยการมองโลกและประสบการณ์ที่เพิ่มพูน ทำให้งานดนตรีของเรดฮอตชุดนี้ออกมา แม้จะยังคงไว้ด้วยความเผ็ดร้อน แต่เป็นความลึกผสมเผ็ดร้อนซ่อนอ่อนหวาน ไม่ใช่ความเผ็ดที่จี๊ดจ๊าดเหมือนสมัยหนุ่มๆระห่ำ ห้าวเป้ง
ในขณะที่ซาวนด์กีตาร์ในชุดนี้ที่เป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่แฟนเพลงเฝ้าจับตานั้น เสียงกีตาร์ของฟรูชอนเต้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตรงลูกดุดัน เป็นธรรมชาติ ผสมด้วยลูกบ้าลูกเพี้ยนและมากไปด้วยริฟฟ์มันๆ ที่สำคัญคือการที่เขาเล่นกับเรดฮอตมาอย่างยาวนาน ทำให้ซาวนด์กีตาร์ของเขามันเข้าขากับเบส กลอง และเสียงร้องได้อย่างกลมกลืนลงตัว
ส่วนซาวนด์กีตาร์ของคลิงฮอฟเฟอร์แม้ความดุดัน ความเป็นธรรมชาติรื่นไหล ลูกบ้า และลูกริฟฟ์มันๆ จะฟังดูมีน้อยกว่าของฟรูชอนเต้ แต่สิ่งที่ได้ทดแทนมาก็คือรายละเอียด ลูกเล่น และสำเนียงใหม่ๆ ที่แม้ชุดนี้คลิงฮอฟเฟอร์อาจจะยังเกรงๆและเกร็งๆไม่กล้าใส่เต็มที่ เนื่องจากยังไม่คุ้นและยังไม่เข้าขารู้ใจกับทางวง แต่โดยรวมเขาสามารถสานต่อความเป็นเรด ฮอต ได้ดีทีเดียว
เรียกว่าเอาอยู่ !?!
แต่ที่ต้องลุ้นกันก็คือว่าคลิงฮอฟเฟอร์จะยืนระยะอยู่กับเรดฮอตได้ยาวนานแค่ไหน รวมถึงเขาจะเป็นมือกีตาร์ที่ถูกโฉลกกับชื่อเสียงความสำเร็จของเรดฮอตหรือไม่ เรื่องนี้แฟนวงพริกเผ็ดคงต้องคอยติดตามกันต่อไป
*****************************************
คลิกฟังเพลง The Adventures Of Rain Dance Maggie
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : Kendra Lou
อัลบั้ม : To The End Of The World
“To The End Of The World” (สังกัด Hitmanjazz) คืออัลบั้มแรกของ “เคนดร้า ลู” นักร้องสาวสวยเสียงทรงเสน่ห์ชาวเดนมาร์ก ที่ถือเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ในวงการแจ๊ซของยุโรป อัลบั้มนี้มีทั้งเพลงของคนอื่นและบทเพลงที่เธอแต่งเองรวม 12 เพลงด้วยกัน ซึ่งลูขับขานถ่ายทอดออกมาในสไตล์แจ๊ซ บลูส์ด้วยเสียงหวานใสเพราะพริ้งชวนฟังแต่ก็มีพลังอยู่ในตัว
สำหรับใครที่ชื่นชอบบทเพลง(ร้อง)แจ๊ซย้อนยุคในสไตล์ Billie Holidays,Peggy Lee และ Ella Fitzgerald ที่เจือไปด้วยซาวน์ร่วมสมัยและไม่เนิบนาบจนน่าเบื่อ นี่คือหนึ่งในอัลบั้มน่าสนใจที่ฟังแล้วคุณอาจจะหลงรักและเคนดร้า ลู ได้อย่างไม่รู้ตัว
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : The Big Ones
ผลงานรวมเพลงฮิตสุดฮอต จากค่าย Warner Music ที่รวบรวม 18 เพลงดังแห่งยุค มานำเสนอ เน้นหนักไปที่บทเพลงสไตล์ ป็อบ แด๊นซ์ สนุกๆชวนขยับแข้งขยับขา โดยไม่ลืมที่จะเบรกด้วย 2 เพลงไพเพราะช้าๆคั่นอารมณ์ สำหรับบทเพลงน่าสนใจในอัลบั้มนี้ได้แก่ “Just The Way You Are : Bruno Mars”,”Baby : Justin Bieber”,”Firework : Katy Perry”,”Need Your Now : Lady Antebellum”,”Pyramid : Charice” ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี “Every Teardrop Is a Waterfall” ผลงานเพลงใหม่เอี่ยมอ่องจาก “Coldplay” ที่ถูกคัดมานำเสนอก่อนที่พวกเขาจะออกอัลบั้มเต็มเสียอีก
และนี่ก็คือผลงานรวมเพลงแห่งยุคสมัยที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้นิยมอัพเดทเพลงฮิตทั้งหลาย