“อสมท” แถลงโชว์รายได้ไตรมาส 3 หายไป 400 ล้านจากเป้าที่ตั้งไว้ ผลพวงจากปัญหาน้ำท่วม แต่โชคดียังมีกำไร แย้มเร่งผุดโปรเจกต์ฟื้นฟูประเทศไทยผ่านสื่อ อสมท โดยเน้นให้ความรู้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โต้เตรียมถอด “ข่าวข้นคนข่าว” พ้นผังปี’55 แต่รับเรียกเตือนการพูดพาดพิงบุคคลที่ 3 ชี้หากรายการอื่นในสถานีทำตามนโยบายช่องไม่หลุดผังแน่นอน
บมจ.อสมท เปิดแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ประจำปี 2554 ไปแล้ววานนี้(15พ.ย.) โดยมีนาย “สุระ เกนทะนะศิล” รองกรรมการผู้อำนวยการรักษาการ ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งเข้ามารักษาการแทน “นายธนวัฒน์ วันสม” ผอ.อสมท.คนเก่าที่เพิ่งถูกเด้งไป ออกมาสรุปยอดรวมของรายได้และปัจจัยที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ โดยเผยว่าแม้รายได้จะไม่ทะลุเป้าตามที่วางไว้ถึง 400 ล้าน ผลพวงจากปัญหาอุทกภัย แต่ทาง อสมท ก็ยังได้กำไรอยู่
“รายได้รวม 3 ไตรมาสเท่ากับ 1,773 ล้าน แต่หากแยกออกไตรมาสที่ 3 รายได้อยู่ที่ 855 ล้าน รวมรายได้ที่เราได้ส่วนต่างจากช่อง 3 ด้วย อย่างที่ทราบว่าช่วงนี้เป็นหน้าโลว์ซีซั่น แถมเรายังมาเจอมหาอุทกภัยน้ำท่วมอีก รวมไปถึงการชะลอโฆษณาของลูกค้า รายได้ของเราจึงกระทบมาก ลดลงจากเป้า 400 ล้าน แต่ก็ยังได้กำไรอยู่”
“เราเองพยายามเพิ่มรายรับด้วยการหั่นเวลาของรายการออกบางส่วน แล้วเพิ่มรายการข่าว กิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดให้ลูกค้าก็เลื่อนออกไปก่อน คาดว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติเหมือนเดิม หลังจากน้ำในกรุงเทพแห้งหมดทุกพื้นที่ ไตรมาสหน้าก็คงกลับมาเป็นปกติ ไตรมาสนี้เราคงต้องยอมรับ เวลานี้เงินอาจจะเป็นเรื่องรองนะ เราเลือกมองถึงการให้ความรู้ประชาชนเป็นเรื่องหลัก ซึ่งตรงนั้นมันประเมินค่าของเงินยาก แต่รู้ว่ามันมหาศาลกว่าเงินตรงนี้ ตอนนี้เราต้องทำเพื่อประเทศชาติเป็นหลัก”
แย้มชูนโยบายฟื้นฟูประเทศไทยโดยภาคประชาชน เน้นให้ความรู้ ประชาชนพึ่งตนเองได้ เสนอผ่านตามสื่อต่างๆ ของ อสมท โดยจะมีรายการโทรทัศน์เริ่มวันที่ 27 พ.ย.นี้
“โครงการฟื้นฟูเมืองไทยเราร่วมกับทางสำนักนายกรัฐมนตรี ได้วางนโยบายไว้ ของอสมท.เองเราทำงานในภาคประชาชนที่เน้นความสามัคคีของคนในชาติเป็นหลัก เริ่มแรกเราลงกันที่คลื่นข่าว เราอยากนำเสนอการทำงานของหลายๆ หน่วยงานที่ออกมาช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่ได้ออกสื่อ รับสายผู้ที่เดือดร้อนและส่งภาคประชาชนไปช่วยเหลือ แล้วเราก็มองในส่วนของภาคธุรกิจ เราได้เชิญผู้รู้มาชี้แนะ โดยมองระยะยาวเลยว่าเมืองไทย และภาพอุตสาหกรรมเมืองไทยเราจะฟื้นตัวยังไง”
“แล้วเราก็ยังร่วมมือกับมูลนิธิชัยพัฒนา และมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา หน่วยงานเอกชนต่างๆ ที่พร้อมใจกันร่วมฟื้นฟูประเทศไทยโดยภาคประชาชนช่วยประชาชน โดยเราวางไว้ 5 ธีมหลักๆ ที่ผ่านทางสื่อวิทยุ อินเตอร์เน็ต รายการทีวี คือ คุณช่วยตัวเองก่อน ก็จะมีรายการต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ อาทิ หลังน้ำท่วมจะซ่อมบ้านด้วยตัวเองยังไงได้บ้าง สองเพื่อนพาช่วยเหลือกันเอง สามเราจะจัดวิทยากรไปสอนตามชุมชนหมู่บ้านในเรื่องของหารซ่อมแซมต่างๆ สี่เราก็ขอความช่วยเหลือจากทางอาชีวะให้เขาเข้ามาช่วยซ่อมบ้าน รถหรือเครื่องใช้ต่างๆ ตามชุมชน ห้าเราพยายามขอความร่วมมือจากบริษัทก่อสร้างหรืออะไรก็ตามถ้าท่านพอจะสามารถพอจะบริจาคสิ่งของให้เราได้ ก็อยากให้ช่วยเหลือกัน เพื่อช่วยให้ประเทศไทยได้ฟื้นตัวเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะมาลงทุนในบ้านเราให้กลับมาเหมือนเดิม”
“โดยเราจะมีสถานีเอเชียนทีวีที่เป็นภาคภาษาอังกฤษเข้ามาช่วยอีก นอกจากนี้เรายังมองในเรื่องของการฟื้นฟูเรื่องของเกษตรกร และทางด้านจิตใจด้วย รายการวิทยุต่างๆ ตอนนี้เริ่มไปแล้ว ส่วนรายการทีวีก็จะเป็นช่วยสั้นๆ ในเดิน 27พฤศจิกายนนี้ และอาจจะเลยไปถึงมกราคมปีหน้า โดยเลือกตัดเวลาบางส่วนในช่วงข่าวออก เรามานั่งทบทวนแล้วว่าการนำเสนอข่าวต่างๆ ในวันนี้ง่ายที่สุดคือเข้าพื้นที่ แล้วไปถามชาวบ้านถึงความเดือดร้อนเพราะเขาต้องการความช่วยเหลือ แต่สิ่งนั้นเรามาวิเคราะห์กันว่า มันทำให้คนที่บ้านน้ำยังไม่ท่วมมีความกังวล เครียด ประสาทมากกว่า ด้วยความที่สื่อเองก็เกิดความตระหนกเหมือนกัน ตอนนี้เราจึงปรับเปลี่ยนการทำงานข่าวใหม่ในสถานีของเรา”
ส่วนที่มีข่าวออกมาหนาหูว่า อสมท เตรียมถอดรายการ “ข่าวข้นคนข่าว” ที่ดำเนินรายการโดย 3 คนข่าวตัวเก๋าอย่าง กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญไพบูลย์ และ กำภู ภูริภูวดล เหตุวิจารณ์รัฐบาลโจ่งแจ้งเกินไปนั้นไม่เป็นความจริง แต่รับมีเตือนเรื่องพูดพาดพิงบุคคลที่3 ลั่นผังรายการใหม่ปี2555 โปร่งใสชัวร์ ตรวจสอบได้ชัดเจน ชี้หากรายการอื่นทำตามนโยบายช่องไม่มีหลุดผังแน่นอน
“คงไม่หรอกครับ ยืนยันว่ายังมีอยู่ เพราะเป็นรายการข่าวแบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ข่าว เป็นการวิเคราะห์ข่าว เล่าข่าวเราจะไม่ไปแตะอะไรเขา แต่เราก็คุยกันว่าคงจะต้องหันมามองภาพรวมกันนิดนึง เป็นนโยบายกว้างๆ อย่างเรื่องน้ำท่วมก็คิดว่าทุกส่วนได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว ฉะนั้นอย่าไปกระแนะกระแหนอะไรมากนัก อย่าไปแบ่งกลุ่มแบ่งสีกัน เราควรช่วยกัน”
“ผมว่าเขาก็ทำกันได้ดีแล้ว แต่ก็มีเตือนไปบ้างในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล อันนี้ต้องลดน้อยลง อยากให้คุยกันแบบสบายๆ ชาวบ้านเข้าใจง่าย นึกภาพออก ก็บอกเขาว่าเวลาพูดอะไรก็ให้นึกถึงตัวเองกันบ้างว่ากำลังทำหน้าที่อะไรกันอยู่ ตอนนี้ที่ผมดูก็ดีขึ้นแล้ว”
“ส่วนรายการอื่นๆ ของทางสถานีเราได้ให้นโยบายไปว่า เราจะมองเรื่องของความสามัคคีเป็นหลัก และอยากให้นำเสนอเรื่องราวของคนที่ปิดทองหลังพระ ให้ประชาชนได้มีโอกาสได้เห็นพวกเขาบ้าง คนที่ปิดทองหลังพระเขาไม่ได้ต้องการเอาหน้าอะไรหรอกนะ แต่อยากให้ประชาชนรู้ว่าเขาช่วยอยู่ แต่เขาไม่อยากจะออกข้างหน้าเท่านั้นเอง ไม่ได้ละเลยไปไหน รายการไหนที่อยู่ในคอนเซ็ปต์ของเราไม่ต้องกลัว ต่อไปผังรายการของเราจะโปร่งใสขึ้น จะต้องเป็นไปตามกระบวนการของเราที่กำลังสร้างคอนเซ็ปต์กันอยู่ ทุกอย่างจะต้องชัดเจน
กลับมายึดคอนเซ็ปต์เดิมเริ่มต้นสังคมอุดมปัญญา หวังประชาชนสามารถรู้เท่าทันสื่อ ส่วนตำแหน่งผอ.ช่อง9 คนใหม่แทน “นายธนวัฒน์ วันสม” ที่เพิ่งถูกเด้งไปก่อนหน้านี้ ตนคงไม่รับ ลั่นหากโครงสร้างชัดเจนแล้วตนก็จะหาคนมารับช่วงต่อทันที
“ผมเสียดายนิดนึงที่เมื่อก่อนเราทำให้คำๆ นี้ สังคมอุดมปัญญาติดตลาดแล้ว รายได้พูดตรงๆ เลย วันนั้นอีกนิดนึงเราชนกับช่อง 3 ได้ แต่ก็นะ วันนี้เราจะเอากลับมาทำใหม่อีกครั้ง ถ้าจุดยืนเราชัด รายได้มันจะตามมาเอง อีกส่วนลึกๆ เลย คือเราอยากให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อให้ได้ ผมมองแล้วตอนนี้ประชาชนมองสื่อข้างเดียว ไม่เท่าทันสื่อ เราต้องฟังสื่อรอบด้าน แล้วเอามาประมวลกัน มันเลยเป็นกันอย่างทุกวันนี้ องค์กรสื่อเองก็ต้องมองประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว”
“เรื่องผอ.คนใหม่ผมคงไม่รับตำแหน่งหรอกครับ มาอยู่ช่วยแค่รักษาการดีกว่า ก็เดี๋ยวต้องดูๆ กันไป พอเราปรับอะไรให้มันชัดแล้ว ก็คงจะจ้างคนที่เขาสามารถทำในสิ่งที่เราวางไว้ได้ ผมก็จะกลับไปทำงานของผมเหมือนเดิม”