“โย ยศวดี” ขนหมา-แมวจรจัด 40 ตัว ที่อุปการะหนีน้ำท่วมที่สายไหม โอดรัฐบาลประกาศอพยพควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเป็นสายไหมเขตไหน เพราะทำให้คนแตกตื่นคนแก่แทบจะหัวใจวายตาย พร้อมรวมกลุ่มนางแบบทำข้าวกล่องมอบให้ทหารวันละ 300 ชุด
อุปการะหมาและแมวจรจัดมาหลายปีแล้ว สำหรับครอบครัวของ “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” นางแบบชื่อดัง โดยเจ้าตัวได้เลี้ยงหมาไว้ทั้งหมด 19 ตัว แมว 21 ตัวไว้ที่บ้านพักย่านสายไหมพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม และล่าสุด ก็ได้ทำการขนย้ายหมาทั้ง 19 ตัวไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงฉะเชิงเทรา ส่วนแมวกำลังอยู่ระหว่างประสานหาที่พัก ส่วนตนเองและครอบครัวก็เตรียมย้ายไปอยู่พัทยาเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม โยได้ฝากไปถึงการประกาศอพยพของรัฐบาล ว่า ควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเป็นสายไหมเขตไหน เพราะสายไหมมันกว้างมาก พอประกาศเหมารวมแบบนั้นเล่นเอาชาวบ้านตกใจคนแก่แทบจะหัวใจวายตาย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ทิ้งของบริจาคให้จมน้ำนั้นในฐานะผู้ที่เคยบริจาคและลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านรู้สึกว่า เราจะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ
“ตอนนี้ระดับน้ำที่หน้าบ้านโยท่วมเกือบถึงเข่าแล้ว ส่วนข้างนอกประมาณ 40 เซนติเมตร รถเล็กวิ่งไม่ได้ คิดว่า อีกไม่นานก็คงจะท่วมเข้าบ้าน โยก็มีการป้องกันโดยการก่ออิฐที่หน้าบ้านและตัวบ้านและก็เอาผ้ายางกันเอาไว้ แต่ท่อระบายน้ำไม่ได้อุดเพราะกลัวว่ามันจะไปดันพื้นบ้าน และก็ยกข้าวของขึ้นชั้นสองบ้านโยมีแต่ผู้หญิงก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ด้วยที่มาช่วยขนของ”
“ที่น่าเป็นห่วงคือหมากับแมวที่เราเลี้ยงไว้เป็นสิบๆ ตัว ตอนนี้ก็เลยขนย้ายหมา 19 ตัวไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงฉะเชิงเทรา คุณแม่เขาก็ร้องไห้เพราะเขารักของเขามากเขาดูแลมาตลอด เขาเป็นห่วงแต่ทางศูนย์เขาดูแลดีไม่คิดค่าดูแลเลย แต่โยก็บริจาคของช่วยเขาไปด้วย”
“หมาทุกตัวของโยมีกรงและมีอาหารไปหมดเลย แต่แมวอีก 21 ตัว ยังมีปัญหา เพราะที่นี่เขารับแต่หมา แต่โยก็ติดต่อไปหลายๆ คลินิกเผื่อที่จะแบ่งแมวไปไว้ที่ละ 5-6 ตัว และเมื่อจัดการเรื่องแมวเรียบร้อยแล้วก็คงจะพาแม่กับยายไปอยู่พัทยาเพราะคุณยายค่อนข้างเครียดมากไม่หลับไม่นอน”
“ส่วนโยเองก็ลำบากเพราะไม่มีรถใช้ และแถวบ้านโยก็ไม่มีการจัดรถรับส่งเลย วันก่อนโยไปบิ๊กซีรอแท็กซี่อยู่ชั่วโมงครึ่งก็ไม่มี ต้องอาศัยโบกรถกะบะถามว่าเขาไปไหนเพื่อที่จะขอติดมาบ้านเรา ตรงนี้มันเป็นปัญหาที่จะต้องมาดูว่าจะช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างไรบ้าง”
“ตอนนี้ที่บ้านโยน้ำยังไม่เข้าแต่ของไม่มีทานข้าวสารไม่มีน้ำแพ็คละ 150 บาท แม่กับยายก็ดูข่าวน้ำท่วมตลอดเวลา พอเขาประกาศให้สายไหมอพยพคนก็แตกตื่นว่าจะต้องหนีแล้ว ทำไมเขาไม่ระบุว่าเป็นสายไหมเขตไหนตรงไหนเพราะมันกว้างมาก คนแก่ฟังแล้วแทบจะหัวใจวายตาย โยต้องออกไปดูเองว่ามันท่วมถึงตรงไหนของสายไหม และก็พบว่าน้ำมันยังน้อยมากกว่าจะมาถึงบ้านโย เขาประกาศให้อพยพมาแล้วหนึ่งอาทิตย์ แต่น้ำที่บ้านโยมันก็ยังไม่ถึงเข่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต”
“เขาควรที่จะพูดให้ชัดเจนว่าอพยพสายไหมเขตไหน และตรงไหนมันท่วมกี่เซนติเมตรแล้ว และจริงๆ สายไหมบางส่วนมันก็ไม่ท่วมสูง การรายงานข่าวก็เหมือนกันเขาชอบไปรายงานอยู่ตรงจุดที่น้ำลึกแต่ต้องน้ำตื้นๆ ไม่ไปทำขายข่าวเกินไป โยว่าตรงนี้มันทำให้ตื่นตระหนก โยต้องไปดูด้วยตาตัวเองต้องไปถึงวัดสายไหม ไปดูที่ศูนย์อพยพซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ดีมากให้ความช่วยเหลือดีและให้เบอร์โทรติดต่อไว้”
“ณ เวลานี้คนติดตามข่าวน้ำท่วมกันมากโยก็อยากจะให้ทุกคนมีสติ ดูข่าวแล้วต้องมีสติก็เข้าใจนะว่ามันต้องกันไว้ก่อน แต่ชาวบ้านบางคนเขาไมได้มีแค่กระแป๋งใบเดียวแล้วออกจากบ้านได้เลย ควรที่จะระบุรายละเอียดให้ชัดเจนให้มากกว่านี้”
ส่วนที่กำลังตกเป็นข่าวฮือฮากรณีย้าย ศปภ.ไปอยู่ปตท.แต่ทิ้งของบริจาคไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหารกล่อง ส้วมลอยน้ำ ทิ้งให้จบน้ำที่สนามบินดอนเมืองนั้น ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เป็นทั้งผู้บริจาคและออกไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมโยให้ความเห็นว่า.....
“ที่ผ่านมาโยก็มีโอกาสได้ไปที่บ้านหมี่ลพบุรีเอาของใส่คอนเทนเนอร์ 1000 ชุดไปช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนๆ นางแบบและก็มีการลงเรือเอาของไปแจกไม่ใช่เอาไปทิ้งที่ อบต.เฉยๆ ล่องเรือไปชั่วโมงๆ กับข่าวเรื่องของบริจาคที่ถูกปล่อยทิ้งในน้ำแล้ว เห็นเขาให้เหตุผลว่าเป็นภาพเก่าตั้งแต่เดือนตุลาคม โยอยากจะบอกว่า เราต้องดูแลตัวเองมากๆ การที่โยได้ไปลพบุรีมันทำให้เราได้เห็นจริงๆ ว่ามีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วไม่ได้รับการดูแลมันมีเยอะนะ บางที่ได้รับถุงยังชีพได้อาทิตย์ละ 1 ครั้งบางที่ไม่ได้รับเลย และมันทำให้เราคิดว่า กทม.กำลังจะเป็นแบบนี้”
“อย่างไรก็ตาม โย เชื่อว่า คนไทยจะไม่ทิ้งกัน ตอนนี้กลุ่มนางแบบก็มีการรวมตัวเพื่อนำเอาอาหารไปให้ทหาวันละ 300 ชุด เพราะเขาต้องขนทรายวันละ 60,000 กระสอบ และก็จะเดินทางไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมในจังหวัดอื่นๆ อีกครั้ง”