โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
วิกฤติน้ำท่วมใหญ่เมืองไทยครั้งอภิมหามโหฬารในปีนี้ นอกจากจะมีปัจจัยหลักมาจากฝนฟ้าธรรมชาติที่ตกลงมามากจนเกินพิกัดแล้ว ยังมีปัจจัยผสมโรงมาจากการเมืองและจากการทำงานไม่เป็น บ้อท่า ไร้กึ๋น มึนมั่วของรัฐบาลมาเป็นตัวซ้ำเติมปัญหา แถมพักหลังๆรัฐบาลและศปภ.ที่อับจนในการแก้ปัญหาสอบตกครั้งแล้วครั้งเล่า ยังมามุกใหม่ด้วยการให้ลิ่วล้อโบ้ยความผิด กล่าวโทษ สาดโคลน โยนขี้ให้คนอื่น ทั้งๆที่มันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
งานนี้ประชาชนคนไทยจะต้องทนทุกข์กลับปัญหาน้ำท่วมที่เจือไปด้วยน้ำลายเหม็นบูดของนักการเมืองชั้นเลวบางคน ที่เป็นพวกมือไม่พายแต่ชอบเอาตีนราน้ำไปอีกพักใหญ่ แต่ยังไงๆเราก็อย่าเพิ่งหมดหวังกลับประเทศไทย
อย่างไรก็ดีในวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้(และครั้งที่ผ่านๆมา)ก็ยังมีสิ่งที่สวยงามจากน้ำใจคนไทยส่วนใหญ่ มาเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจรรโลงใจ เรียกว่าใครมีอะไรก็ช่วยเหลือกันไปตามอัตภาพ ตามพื้นฐานจิตใจอันดีงามของคนไทยที่ยามมีวิกฤติ เราไม่เคยทอดทิ้งกัน
ด้วยน้ำใจไทยอันงดงามเหล่านี้ ทำให้เหล่านักร้องนักดนตรีหลายคน จับประเด็นมานำเสนอเป็นบทเพลงน้ำท่วมที่อวลไปด้วยน้ำใจไทย นำโดยน้า“แอ๊ด คาราบาว”(ยืนยง โอภากุล) นักร้อง นักดนตรี ชื่อก้องของเมืองไทย ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเพลงเพื่อชีวิต ได้หยิบเหตุการณ์น้ำท่วมผสมน้ำใจไทยมาเขียนถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลง “น้ำใจไทย” ที่มาในสไตล์โฟล์คดิบๆ ชวนให้นึกถึง “นีล ยัง” ร้องบอกเล่าถึงน้ำใจอันดีงามของคนไทยที่ไม่เคยทอดทิ้งกันจะช่วยฟันฝ่าปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ให้รอดพ้นไปด้วยกัน
ว่ากันว่าเพลงนี้น้าแอ๊ดยังคงเป็นเสือปืนไว้ ใช้เวลาทำเพลงเพียงแป๊บเดียว แต่งตอนเช้า เข้าห้องอัดตอนกลางวันก็แล้วเสร็จได้บทเพลงนี้ออกมา นับเป็นความสามารถเฉพาะตัวอันสูงล้ำของน้าแอ๊ดที่สามารถหยิบยกเหตุการณ์หรือสถานการณ์สำคัญมาแต่งเป็นบทเพลงได้รวดเร็วทันใจ
“...น้ำท่วมยิ่งมากเท่าไร น้ำใจไทยยิ่งมากกว่านั้น
เราคนไทยไม่เคยทิ้งกัน เราคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน
จะฝ่าวิกฤตน้ำไปด้วยกัน จะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน...”(ท่อนแรกของเพลงน้ำใจไทยโดยแอ๊ดคาราบาว)
นอกจากน้าแอ๊ดแล้ว งานนี้พี่โต้ ชีริก “ติ๊ก ชีโร่”ได้แต่งเพลง “น้ำท่วม ไม่มิดใจ” ขึ้นมา พร้อมระดมผองเพื่อนศิลปิน อาทิ ชรัส เฟื่องอารมณ์,ตุ๊ก วิยะดา,บิลลี่ โอแกน,อู๋ ธรรพณธร,ชมพู ฟรุตตี้, เสก โลโซ, ปู แบล็คเฮด ฯลฯ มาร่วมกันร้องเพลงนี้ ที่นำเรื่องของน้ำใจไทยมากลั่นเป็นบทเพลงความหมายดีๆว่า เป็นความหวังและกำลังใจให้กับสูญเสีย ท้อแท้ หมดหวัง นับเป็นอีกหนึ่งเพลงน้ำท่วม(ในปีนี้)ที่น่าฟังไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ MV เพลงนี้ พี่ติ๊กแกเล่นโผล่หน้ามาเข้าหลายฉากมากมายจนดูเฝือเกินไปหน่อย
“...ธรรมชาติอาจมาแค่เตือน
อย่าลืมเลือน ที่เราเคยเกื้อกูลกัน
ฉันรักเธอ เธอต้องรักฉันเหมือนกัน
รักษ์กันและกัน เพื่อลูกหลานเรา
น้ำท่วม แต่ไม่เคยท่วมมิดน้ำใจ...”(ท่อนสองของเพลง“น้ำท่วม ไม่มิดใจ” โดย ติ๊ก ชีโร่)
ด้านวง“โฟล์คเหน่อ” ก็เคยนำประเด็นอันดีงามของน้ำใจไทยมาแต่งเป็นเพลง“นองน้ำใจ”นำเสนอไว้ในเหตุการณ์น้ำท่วมปีที่แล้ว เป็นเพลงโฟล์คเศร้าๆซื่อๆตามสไตล์ของพวกเขา ที่ยังคงเข้ากับสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ปีนี้ได้เป็นอย่างดี
“...ไม่มีครั้งไหน ที่คนไทยจะทอดทิ้งกัน
เดือดร้อนครั้งไหน ก็ครั้งนั้น ร่วมแรงใจกันทุกคราวทุกครั้ง
กลางสายน้ำเชี่ยว แรงมือกลมเกลียวช่วยกันเหนี่ยวรั้ง
เพื่อนเป็นแรงใจจูงให้ขึ้นฝั่ง ให้มีความหวัง ยังสู้ต่อไป
ลมใหม่โชยมา แสงฟ้าทาบทอยอดกอไผ่ไหว
น้ำที่เจิ่งนองรอพร่องลดไป หากแต่น้ำใจคนไทยยังอยู่
นี่คือคนไทย แน่นเนื้อน้ำใจไปทุกอณู
ปัญหาใดๆ ในทุกฤดู ช่วยเหลือเคียงคู่หมู่พี่น้องไทย” (สองท่อนหลังของเพลง “นองน้ำใจ” โดยโฟล์คเหน่อ)
เช่นเดียวกับวง“แฮมเมอร์” ที่หยิบยกความดีงามของน้ำใจไทยมานำเสนอไว้ในบทเพลง “น้ำฝน น้ำตา น้ำใจ” ในอารมณ์เศร้าเนิบช้ามีสไลด์กีตาร์สวยมาช่วยแต่งเติมสีสัน
“...น้ำที่ไหลหลากมา เหมือนเป็นน้ำตาชาวไทยไหลริน
ธรรมชาติทำลายแทบสิ้น ที่อยู่ที่กินหนี้สินก็เต็มตัว
เราคนบ้านเดียวกัน บ้านเรานั้นมีชื่อว่าไทย
น้ำใจไม่เคยหดหาย เป็นคนไทยเราไม่ทิ้งกัน...” (ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลง “น้ำฝน น้ำตา น้ำใจ” โดย แฮมเมอร์)
สำหรับสิ่งดีงามของน้ำใจไทยที่มาพร้อมกับบทเพลงน้ำท่วมนั้น ยังมีอีกหลายเพลงที่เหล่านักร้องนักดนตรีแต่งขึ้นมาใหม่สดๆร้อนๆ เพื่อร่วมสะท้อนต่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น เพลง“น้ำใจไทย”(น้ำท่วม)จากกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน นำโดยวงคีตาญชลี เพลง “หลากน้ำตาหลายน้ำใจ” จากเหล่าศิลปินลูกทุ่ง, เพลง “น้ำท่วม น้ำตา น้ำใจ” ของ หนึ่ง-วีรชน สุเมธี และ ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีบทเพลงเกี่ยวกับน้ำท่วมในมุมมองอื่นๆ รวมไปถึงบทเพลงน้ำท่วมใหม่ๆที่ผมเชื่อว่าจะมีทยอยตามออกมาอีกไม่นาน ซึ่งใครสนใจสามารถติดตามหาฟังกันได้ง่ายๆในยูทูบ
อย่างไรก็ดีหากพูดถึงบทเพลงแห่งน้ำท่วมที่มีการแต่งออกมาเป็นจำนวนมากนับจากอดีตถึงปัจจุบัน บทเพลงที่คลาสสิคที่สุด ได้รับการนำกลับมาเปิดมากที่สุด และมีคนนำมาคัฟเวอร์ใหม่มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น บทเพลง“น้ำท่วม” ที่ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ
“น้ำท่วมน้องว่าดีกว่า ฝนแล้ง
พี่ว่าน้ำแห้ง ให้ฝนแล้งเสียยังดีกว่า
น้ำท่วมปีนี้ทุกบ้านล้วนมี แต่คราบน้ำตา
พี่หนีน้ำขึ้นบนหลังคา น้ำตาหลั่งคลอสายชล
น้ำท่วมใต้ฝุ่นกระหน่ำ ซ้ำสอง
เสียงพายุก้อง เหมือนเสียงของมัจจุราชบ่น
น้ำท่วมที่ไหน ก็ต้องเสียใจด้วยกันทุกคน
เพราะต้องพบกับความยากจน เหมือนคน หมดเนื้อ สิ้นตัว
บ้านพี่ ก็ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน
ที่ประจวบคีรีขันธ์ เหมือนกันไปทุกครอบครัว
พื้นนาก็ล่ม ไร่แตงก็จมเสียหายไปทั่ว
พี่จึงเหมือนคนหมดตัว หมดตัวแล้วนะแก้วตา
น้ำท่วม พี่ต้องผิดหวังชอกช้ำ
พี่คิดเช้าค่ำ ปล่อยให้น้ำท่วมตายดีกว่า
น้องอยู่บ้านดอน ช่างไม่อาทรถึงพี่สักครา
ไม่มาช่วยพี่ซับน้ำตา ไม่มามองพี่บ้างเลย”
เพลงน้ำท่วมเพลงนี้ ประพันธ์เนื้อร้องทำนองโดย “ครูไพบูลย์ บุตรขัน” แล้วให้ ศรคีรี นักร้องลูกทุ่งชื่อดังผู้ล่วงลับ ที่มีประสบการณ์ตรงถูกน้ำท่วมไร่สับปะรดที่ประจวบคีรีขันธ์เสียหายยับเยิน ขับร้องถ่ายทอดออกมาอย่างได้อารมณ์จับใจ และเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้
เนื้อเพลงนี้นอกจากจะบรรยายสภาพความเดือดร้อนจากน้ำท่วมได้อย่างเห็นภาพแล้ว ยังมีการแอบตัดพ้อคนรักในท่อนท้ายได้อย่างสะทกสะท้อนอารมณ์
เพลงนี้แม้ผมจะเกิดไม่ทันยุคคุณลุงศรคีรีขับร้อง แต่ก็มาทันฟังในยุคคาราบาวที่น้าแอ๊ดแกนำมาร้องใหม่เพื่อร่วมไว้อาลับในเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งในเวอร์ชั่นของคาราบาวนั้น(มีการแปลงเนื้อเพลงนิดหน่อย)มันก็มีความไพเราะไปอีกแบบ โดยเฉพาะเสียงขลุ่ยโหยเศร้าของ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี มันฟังบาดหัวใจดีแท้ หลังจากนั้นเพลงนี้ก็มีคนนำมาขับน้องใหม่อยู่บ่อยครั้ง ทั้งน้าอ๊อด โอภาส, พี่อี๊ด วงฟลาย รวมไปถึงล่าสุดที่มีการนำเพลงน้ำท่วมมาดัดแปลงเป็นเพลง “เปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจ”
เปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจ ดูแลการผลิต โดย อรุณศักดิ์ อ่องลออ ขับร้องโดย นักร้อง นักดนตรี และกลุ่มชาวบ้านผู้ประสบภัย โดยมีการนำแง่งามของน้ำใจไทยเติมใส่เข้าไปเป็นเนื้อร้องท่อนใหม่ในช่วงตอนท้ายของเพลง ดังที่ร้องว่า “...เปลี่ยนน้ำท่วมให้เป็นน้ำใจ จับมือไทยให้จับมือกัน ไม่มีเธอก็ไม่มีฉัน เรามีกัน เรามีใจ...”
นี่เป็นท่อนที่ฟังเหมือนกับว่าทีมงานพยายามที่จะดันท่อนเนื้อร้องท่อนนี้ให้เป็นท่อนฮุคของเพลงนี้ ซึ่งนอกจากจะฟังไม่กลมกล่อมเข้ากันกับเนื้อร้องเพลงน้ำท่วมของครูไพบูลย์แล้ว การเลือกทำเพลงนี้ออกมาในจังหวะเร็กเก้ที่ฟังแล้วมันให้อารมณ์สนุกสนานคึกคักมากกว่าอารมณ์เศร้าสร้อย ความคลาสสิคจับใจมันช่างห่างไกลกับเวอร์ชั่นหรือแม้กระทั่งเวอร์ชั่นของคาราบาวก็ตามที (ล่าสุดเพลงเปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเนื้อร้องใหม่อีกครั้ง)
อย่างไรก็ตามนี่อาจจะเป็นเป้าประสงค์ของคนทำเพลงก็เป็นได้ ที่ไม่อยากให้คนไทยเศร้าใจเกิดไปกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่สำหรับผมนั้นกลับเห็นว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ใครที่เพลงน้ำท่วมต่างๆในช่วงนี้แล้วจะหลั่งน้ำตาตามให้กับความสูญเสียของตัวเอง ให้กับความทุกข์ตรมของพี่น้องร่วมชาติผู้เดือดร้อน ให้กับความโศกเศร้าของผู้เสียหาย หรือจะหลั่งน้ำตาให้กับความอัปยศของนักการเมืองไทยที่เป็นตัวช่วยซ้ำเติมให้เกิดวิกฤติครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าอายแต่อย่างใด
แต่หลังจากที่สูญเสียน้ำตาแล้ว เราต้องมาตั้งสติ รวบรวมพลัง สร้างกำลังใจ เพื่อต่อสู้กับชีวิตหลังน้ำท่วมต่อไป
*****************************************
คลิกฟังเพลง "น้ำท่วม"(ศรคีรี)
คลิกฟังเพลง "น้ำใจไทย"(แอ๊ด คาราบาว)
คลิกฟังเพลง "น้ำท่วม ไม่มิดใจ"(ติ๊ก ชีโร่)
คลิกฟังเพลง "นองน้ำใจ"(โฟล์คเหน่อ)
คลิกฟังเพลง "น้ำฝน น้ำตา น้ำใจ"(แฮมเมอร์)
คลิกฟังเพลง "เปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจ"
วิกฤติน้ำท่วมใหญ่เมืองไทยครั้งอภิมหามโหฬารในปีนี้ นอกจากจะมีปัจจัยหลักมาจากฝนฟ้าธรรมชาติที่ตกลงมามากจนเกินพิกัดแล้ว ยังมีปัจจัยผสมโรงมาจากการเมืองและจากการทำงานไม่เป็น บ้อท่า ไร้กึ๋น มึนมั่วของรัฐบาลมาเป็นตัวซ้ำเติมปัญหา แถมพักหลังๆรัฐบาลและศปภ.ที่อับจนในการแก้ปัญหาสอบตกครั้งแล้วครั้งเล่า ยังมามุกใหม่ด้วยการให้ลิ่วล้อโบ้ยความผิด กล่าวโทษ สาดโคลน โยนขี้ให้คนอื่น ทั้งๆที่มันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
งานนี้ประชาชนคนไทยจะต้องทนทุกข์กลับปัญหาน้ำท่วมที่เจือไปด้วยน้ำลายเหม็นบูดของนักการเมืองชั้นเลวบางคน ที่เป็นพวกมือไม่พายแต่ชอบเอาตีนราน้ำไปอีกพักใหญ่ แต่ยังไงๆเราก็อย่าเพิ่งหมดหวังกลับประเทศไทย
อย่างไรก็ดีในวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้(และครั้งที่ผ่านๆมา)ก็ยังมีสิ่งที่สวยงามจากน้ำใจคนไทยส่วนใหญ่ มาเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจรรโลงใจ เรียกว่าใครมีอะไรก็ช่วยเหลือกันไปตามอัตภาพ ตามพื้นฐานจิตใจอันดีงามของคนไทยที่ยามมีวิกฤติ เราไม่เคยทอดทิ้งกัน
ด้วยน้ำใจไทยอันงดงามเหล่านี้ ทำให้เหล่านักร้องนักดนตรีหลายคน จับประเด็นมานำเสนอเป็นบทเพลงน้ำท่วมที่อวลไปด้วยน้ำใจไทย นำโดยน้า“แอ๊ด คาราบาว”(ยืนยง โอภากุล) นักร้อง นักดนตรี ชื่อก้องของเมืองไทย ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเพลงเพื่อชีวิต ได้หยิบเหตุการณ์น้ำท่วมผสมน้ำใจไทยมาเขียนถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลง “น้ำใจไทย” ที่มาในสไตล์โฟล์คดิบๆ ชวนให้นึกถึง “นีล ยัง” ร้องบอกเล่าถึงน้ำใจอันดีงามของคนไทยที่ไม่เคยทอดทิ้งกันจะช่วยฟันฝ่าปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ให้รอดพ้นไปด้วยกัน
ว่ากันว่าเพลงนี้น้าแอ๊ดยังคงเป็นเสือปืนไว้ ใช้เวลาทำเพลงเพียงแป๊บเดียว แต่งตอนเช้า เข้าห้องอัดตอนกลางวันก็แล้วเสร็จได้บทเพลงนี้ออกมา นับเป็นความสามารถเฉพาะตัวอันสูงล้ำของน้าแอ๊ดที่สามารถหยิบยกเหตุการณ์หรือสถานการณ์สำคัญมาแต่งเป็นบทเพลงได้รวดเร็วทันใจ
“...น้ำท่วมยิ่งมากเท่าไร น้ำใจไทยยิ่งมากกว่านั้น
เราคนไทยไม่เคยทิ้งกัน เราคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน
จะฝ่าวิกฤตน้ำไปด้วยกัน จะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน...”(ท่อนแรกของเพลงน้ำใจไทยโดยแอ๊ดคาราบาว)
นอกจากน้าแอ๊ดแล้ว งานนี้พี่โต้ ชีริก “ติ๊ก ชีโร่”ได้แต่งเพลง “น้ำท่วม ไม่มิดใจ” ขึ้นมา พร้อมระดมผองเพื่อนศิลปิน อาทิ ชรัส เฟื่องอารมณ์,ตุ๊ก วิยะดา,บิลลี่ โอแกน,อู๋ ธรรพณธร,ชมพู ฟรุตตี้, เสก โลโซ, ปู แบล็คเฮด ฯลฯ มาร่วมกันร้องเพลงนี้ ที่นำเรื่องของน้ำใจไทยมากลั่นเป็นบทเพลงความหมายดีๆว่า เป็นความหวังและกำลังใจให้กับสูญเสีย ท้อแท้ หมดหวัง นับเป็นอีกหนึ่งเพลงน้ำท่วม(ในปีนี้)ที่น่าฟังไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ MV เพลงนี้ พี่ติ๊กแกเล่นโผล่หน้ามาเข้าหลายฉากมากมายจนดูเฝือเกินไปหน่อย
“...ธรรมชาติอาจมาแค่เตือน
อย่าลืมเลือน ที่เราเคยเกื้อกูลกัน
ฉันรักเธอ เธอต้องรักฉันเหมือนกัน
รักษ์กันและกัน เพื่อลูกหลานเรา
น้ำท่วม แต่ไม่เคยท่วมมิดน้ำใจ...”(ท่อนสองของเพลง“น้ำท่วม ไม่มิดใจ” โดย ติ๊ก ชีโร่)
ด้านวง“โฟล์คเหน่อ” ก็เคยนำประเด็นอันดีงามของน้ำใจไทยมาแต่งเป็นเพลง“นองน้ำใจ”นำเสนอไว้ในเหตุการณ์น้ำท่วมปีที่แล้ว เป็นเพลงโฟล์คเศร้าๆซื่อๆตามสไตล์ของพวกเขา ที่ยังคงเข้ากับสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ปีนี้ได้เป็นอย่างดี
“...ไม่มีครั้งไหน ที่คนไทยจะทอดทิ้งกัน
เดือดร้อนครั้งไหน ก็ครั้งนั้น ร่วมแรงใจกันทุกคราวทุกครั้ง
กลางสายน้ำเชี่ยว แรงมือกลมเกลียวช่วยกันเหนี่ยวรั้ง
เพื่อนเป็นแรงใจจูงให้ขึ้นฝั่ง ให้มีความหวัง ยังสู้ต่อไป
ลมใหม่โชยมา แสงฟ้าทาบทอยอดกอไผ่ไหว
น้ำที่เจิ่งนองรอพร่องลดไป หากแต่น้ำใจคนไทยยังอยู่
นี่คือคนไทย แน่นเนื้อน้ำใจไปทุกอณู
ปัญหาใดๆ ในทุกฤดู ช่วยเหลือเคียงคู่หมู่พี่น้องไทย” (สองท่อนหลังของเพลง “นองน้ำใจ” โดยโฟล์คเหน่อ)
เช่นเดียวกับวง“แฮมเมอร์” ที่หยิบยกความดีงามของน้ำใจไทยมานำเสนอไว้ในบทเพลง “น้ำฝน น้ำตา น้ำใจ” ในอารมณ์เศร้าเนิบช้ามีสไลด์กีตาร์สวยมาช่วยแต่งเติมสีสัน
“...น้ำที่ไหลหลากมา เหมือนเป็นน้ำตาชาวไทยไหลริน
ธรรมชาติทำลายแทบสิ้น ที่อยู่ที่กินหนี้สินก็เต็มตัว
เราคนบ้านเดียวกัน บ้านเรานั้นมีชื่อว่าไทย
น้ำใจไม่เคยหดหาย เป็นคนไทยเราไม่ทิ้งกัน...” (ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลง “น้ำฝน น้ำตา น้ำใจ” โดย แฮมเมอร์)
สำหรับสิ่งดีงามของน้ำใจไทยที่มาพร้อมกับบทเพลงน้ำท่วมนั้น ยังมีอีกหลายเพลงที่เหล่านักร้องนักดนตรีแต่งขึ้นมาใหม่สดๆร้อนๆ เพื่อร่วมสะท้อนต่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น เพลง“น้ำใจไทย”(น้ำท่วม)จากกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน นำโดยวงคีตาญชลี เพลง “หลากน้ำตาหลายน้ำใจ” จากเหล่าศิลปินลูกทุ่ง, เพลง “น้ำท่วม น้ำตา น้ำใจ” ของ หนึ่ง-วีรชน สุเมธี และ ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีบทเพลงเกี่ยวกับน้ำท่วมในมุมมองอื่นๆ รวมไปถึงบทเพลงน้ำท่วมใหม่ๆที่ผมเชื่อว่าจะมีทยอยตามออกมาอีกไม่นาน ซึ่งใครสนใจสามารถติดตามหาฟังกันได้ง่ายๆในยูทูบ
อย่างไรก็ดีหากพูดถึงบทเพลงแห่งน้ำท่วมที่มีการแต่งออกมาเป็นจำนวนมากนับจากอดีตถึงปัจจุบัน บทเพลงที่คลาสสิคที่สุด ได้รับการนำกลับมาเปิดมากที่สุด และมีคนนำมาคัฟเวอร์ใหม่มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น บทเพลง“น้ำท่วม” ที่ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ
“น้ำท่วมน้องว่าดีกว่า ฝนแล้ง
พี่ว่าน้ำแห้ง ให้ฝนแล้งเสียยังดีกว่า
น้ำท่วมปีนี้ทุกบ้านล้วนมี แต่คราบน้ำตา
พี่หนีน้ำขึ้นบนหลังคา น้ำตาหลั่งคลอสายชล
น้ำท่วมใต้ฝุ่นกระหน่ำ ซ้ำสอง
เสียงพายุก้อง เหมือนเสียงของมัจจุราชบ่น
น้ำท่วมที่ไหน ก็ต้องเสียใจด้วยกันทุกคน
เพราะต้องพบกับความยากจน เหมือนคน หมดเนื้อ สิ้นตัว
บ้านพี่ ก็ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน
ที่ประจวบคีรีขันธ์ เหมือนกันไปทุกครอบครัว
พื้นนาก็ล่ม ไร่แตงก็จมเสียหายไปทั่ว
พี่จึงเหมือนคนหมดตัว หมดตัวแล้วนะแก้วตา
น้ำท่วม พี่ต้องผิดหวังชอกช้ำ
พี่คิดเช้าค่ำ ปล่อยให้น้ำท่วมตายดีกว่า
น้องอยู่บ้านดอน ช่างไม่อาทรถึงพี่สักครา
ไม่มาช่วยพี่ซับน้ำตา ไม่มามองพี่บ้างเลย”
เพลงน้ำท่วมเพลงนี้ ประพันธ์เนื้อร้องทำนองโดย “ครูไพบูลย์ บุตรขัน” แล้วให้ ศรคีรี นักร้องลูกทุ่งชื่อดังผู้ล่วงลับ ที่มีประสบการณ์ตรงถูกน้ำท่วมไร่สับปะรดที่ประจวบคีรีขันธ์เสียหายยับเยิน ขับร้องถ่ายทอดออกมาอย่างได้อารมณ์จับใจ และเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้
เนื้อเพลงนี้นอกจากจะบรรยายสภาพความเดือดร้อนจากน้ำท่วมได้อย่างเห็นภาพแล้ว ยังมีการแอบตัดพ้อคนรักในท่อนท้ายได้อย่างสะทกสะท้อนอารมณ์
เพลงนี้แม้ผมจะเกิดไม่ทันยุคคุณลุงศรคีรีขับร้อง แต่ก็มาทันฟังในยุคคาราบาวที่น้าแอ๊ดแกนำมาร้องใหม่เพื่อร่วมไว้อาลับในเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งในเวอร์ชั่นของคาราบาวนั้น(มีการแปลงเนื้อเพลงนิดหน่อย)มันก็มีความไพเราะไปอีกแบบ โดยเฉพาะเสียงขลุ่ยโหยเศร้าของ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี มันฟังบาดหัวใจดีแท้ หลังจากนั้นเพลงนี้ก็มีคนนำมาขับน้องใหม่อยู่บ่อยครั้ง ทั้งน้าอ๊อด โอภาส, พี่อี๊ด วงฟลาย รวมไปถึงล่าสุดที่มีการนำเพลงน้ำท่วมมาดัดแปลงเป็นเพลง “เปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจ”
เปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจ ดูแลการผลิต โดย อรุณศักดิ์ อ่องลออ ขับร้องโดย นักร้อง นักดนตรี และกลุ่มชาวบ้านผู้ประสบภัย โดยมีการนำแง่งามของน้ำใจไทยเติมใส่เข้าไปเป็นเนื้อร้องท่อนใหม่ในช่วงตอนท้ายของเพลง ดังที่ร้องว่า “...เปลี่ยนน้ำท่วมให้เป็นน้ำใจ จับมือไทยให้จับมือกัน ไม่มีเธอก็ไม่มีฉัน เรามีกัน เรามีใจ...”
นี่เป็นท่อนที่ฟังเหมือนกับว่าทีมงานพยายามที่จะดันท่อนเนื้อร้องท่อนนี้ให้เป็นท่อนฮุคของเพลงนี้ ซึ่งนอกจากจะฟังไม่กลมกล่อมเข้ากันกับเนื้อร้องเพลงน้ำท่วมของครูไพบูลย์แล้ว การเลือกทำเพลงนี้ออกมาในจังหวะเร็กเก้ที่ฟังแล้วมันให้อารมณ์สนุกสนานคึกคักมากกว่าอารมณ์เศร้าสร้อย ความคลาสสิคจับใจมันช่างห่างไกลกับเวอร์ชั่นหรือแม้กระทั่งเวอร์ชั่นของคาราบาวก็ตามที (ล่าสุดเพลงเปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเนื้อร้องใหม่อีกครั้ง)
อย่างไรก็ตามนี่อาจจะเป็นเป้าประสงค์ของคนทำเพลงก็เป็นได้ ที่ไม่อยากให้คนไทยเศร้าใจเกิดไปกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่สำหรับผมนั้นกลับเห็นว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ใครที่เพลงน้ำท่วมต่างๆในช่วงนี้แล้วจะหลั่งน้ำตาตามให้กับความสูญเสียของตัวเอง ให้กับความทุกข์ตรมของพี่น้องร่วมชาติผู้เดือดร้อน ให้กับความโศกเศร้าของผู้เสียหาย หรือจะหลั่งน้ำตาให้กับความอัปยศของนักการเมืองไทยที่เป็นตัวช่วยซ้ำเติมให้เกิดวิกฤติครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าอายแต่อย่างใด
แต่หลังจากที่สูญเสียน้ำตาแล้ว เราต้องมาตั้งสติ รวบรวมพลัง สร้างกำลังใจ เพื่อต่อสู้กับชีวิตหลังน้ำท่วมต่อไป
*****************************************
คลิกฟังเพลง "น้ำท่วม"(ศรคีรี)
คลิกฟังเพลง "น้ำใจไทย"(แอ๊ด คาราบาว)
คลิกฟังเพลง "น้ำท่วม ไม่มิดใจ"(ติ๊ก ชีโร่)
คลิกฟังเพลง "นองน้ำใจ"(โฟล์คเหน่อ)
คลิกฟังเพลง "น้ำฝน น้ำตา น้ำใจ"(แฮมเมอร์)
คลิกฟังเพลง "เปลี่ยนน้ำท่วมเป็นน้ำใจ"