เป็นโปรแกรมประจำปีแบบเดียวกับหนังของ Pixar หรือ Disney กันไปแล้ว สำหรับฉบับภาพยนตร์ของการ์ตูน "โดราเอมอน" ที่ภาคล่าสุดไม่ต้องปล่อยให้รอกันนาน เพราะเข้าฉายในประเทศไทยปีเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นเลย และยังเป็นเรื่องราวที่แฟน ๆ ของแมวจอมกวนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมาแล้วด้วย
Doraemon: Nobita and the New Steel Troops: ~Angel Wings~ ฉบับภาพยนตร์ตอนล่าสุดของตัวการ์ตูนที่เรียกได้ว่าโด่งดังเป็นที่นิยม เป็นขวัญใจของเด็กไทยมาอย่างยาวนาน ที่ถ้าใครเป็นแฟนของ โดราเอมอน ก็คงพอจะทราบได้ว่า หนังเรื่องนี้เป็นการนำเอาการ์ตูนตอนยาวเรื่องที่ 7 หรือ "ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก" กลับมาสร้างใหม่นั่นเอง ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่มีการนำหนังตอนยาวในอดีตผลงานของ "ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ" กลับมาทำใหม่แบบนี้ หลังเคยมีการนำ 3 ตอนคลาสสิกอย่าง "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ", "ท่องแดนเวทมนตร์ " และ "โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ" กลับมาปรับปรุงรูปโฉมเพื่อฉายใหม่มาแล้ว
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ โนบิตะ เก็บชิ้นส่วนของหุ่นยนต์ยักษ์จากชั้วโลกเหนือได้โดยบังเอิญ ก่อนที่จะพบว่าหุ่นยนต์ของเล่นใหม่ตัวนี้ คือหนึ่งในทัพหน้าของกองทัพหุ่นเหล็กจากต่างดาว ที่เดินทางมาเพื่อยึดครองโลกจับคนไปเป็นทาส ซึ่งแผนการดังกล่าวก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นเต็มตัว เมื่อหุ่นสปายสายสวยผู้มีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ “ลิลูลุ” ได้เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อตามหาหุ่นยนต์ยักษ์ ที่ตอนนี้อยู่ในการครอบครองของโนบิตะไปแล้ว เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงอาวุธสุดอันตราย แต่มันยังเป็นเพื่อนคนพิเศษของเธอด้วย
จะบอกว่า ผจญกองทัพหุ่นยนต์ เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ที่มีความตึงเครียดมากที่สุดก็คงไม่ผิดนัก กับเนื้อหาที่ว่าด้วยสงครามต่างเผ่าพันธุ์ มีฉากรบราฆ่าฟันที่ดูจริงจังกว่าที่ผ่านมา นอกจากนั้นก็ยังเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่างานของ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ นั้นไม่ได้เป็นแค่ “การ์ตูนหลอกเด็ก” อย่างที่ในบางยุคบางสมัยผู้ใหญ่มักจะกล่าวหากัน แต่เป็นงานที่ให้บรรยากาศของนิยายวิทยาศาสตร์เอาไว้ด้วย ทั้งประเด็นการเดินทางย้อนอดีตเพื่อเปลี่ยนปัจจุบัน หรือการกล่าวถึงจิตใจของจักรกลแบบนิยายของ “ไอแซค อาซิมอฟ”
โดราเอมอน ยังคงเป็นการ์ตูนที่ส่งเสริมคุณธรรม และคติสอนใจให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณค่าของมิตรภาพ ที่สื่อสารมาอย่างแยบยลน่าเชื่อถือ และซาบซึ้ง ไม่ได้เป็นการเทศนาอันตื้นเขินอย่างที่สื่อเด็กชอบเป็นกัน
สำหรับความแตกต่างระหว่างหนักฉบับปี 1986 กับฉบับ 2011 นั้นมีอยู่นิดหน่อยครับ นอกจากลายเส้นของการ์ตูนที่ผู้สร้างเปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยอ้างอิงเลียนแบบลายเส้นของ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ให้ได้มากที่สุดแล้วก็ยังมีการดัดแปลงเนื้อเรื่อง และลายละเอียดตัวละครในบางจุด ที่สำคัญก็คือสมองกลรูปร่างกลมเหมือนโบลิ่งของหุ่นยักษ์ ถูกเปลี่ยนแปลงให้มีรูปร่างเป็นลูกเจี๊ยบน้อยน่ารัก และเพิ่มบทยกระดับให้เป็นตัวละครสำคัญของเรื่องไปเลย
โดยรวมแล้ว “ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก” ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก ยังคงเป็นโดราเอมอน ฉบับภาพยนตร์ที่สนุกและประทับใจเหมือนเดิมครับ