xs
xsm
sm
md
lg

ลูกครึ่ง “เกาหลี-อเมริกัน” หวานใจหญิงแม้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หญิงแม้น”  ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล
หนึ่งในเซเลบริตีสาวที่มีเรื่องฉาวไม่หยุดหย่อนคงจะต้องมีชื่อของ “หญิงแม้น ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล” เปิดใจกับ “ซูเปอร์บันเทิง” สุดสัปดาห์ถึง “หนุ่มเกาหลีปริศนา” ที่หญิงแม้นตอบด้วยน้ำเสียงอย่างอายๆว่า เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่มีภาษีดีกว่าเพื่อน จากคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังเข้ามาขายขนมจีบให้เธอ วันนี้ ...หญิงแม้นยอมรับว่า “เคยทำพลาด , เพิ่งคิดได้ และโสดนานที่สุด ถึง7 เดือน” แต่หน้าตาของหนุ่มเกาหลีคนนี้ ยังไม่มีปาปาราซีสำนักไหนบันทึกภาพได้

หญิงแม้นเคลียร์กรณีภาพหลุดนั่งตักโจอี้ บอย ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะในการให้สัมภาษณ์คราวที่แล้วเธอยอมรับว่ายังไม่เห็นว่ารูปที่นักข่าวถามคือรูปอะไร แต่เมื่อรู้แล้วเธอจึงขอชี้แจงดังนี้
“มันไม่ใช่รูปนั่งตักอะไรเลย ตอนแรกที่พี่ๆ นักข่าวถาม แม้นก็งงๆ ว่ามันคือรูปไหน แต่พอได้เห็นก็ อ๋อ เป็นรูปที่เราถ่ายเล่นที่งานปาร์ตี้งานหนึ่ง ไปกับแก๊งพี่โจ้(โจอี้ บอย) ไปกันหลายคน แล้วรูปที่ว่าก็ไม่ใช่การนั่งตักแต่เป็นตอนที่พี่โจ้นั่งร้องเพลงถือไมค์ แล้วมีแม้นยืนอยู่ข้างๆ เท่านั้น”

“พี่โจ้เป็นพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้นจริงๆ เขาไม่เคยมีท่าทีมาจีบเราเลย(เน้นเสียง) ก็รู้จักกันเป็นพี่เป็นน้องกันมานานแล้ว แม้นเป็นคนตรงไปตรงมานะ ถ้าคนไหนที่เข้ามาจีบแม้นก็บอมรับว่าจีบ แต่ถ้าไม่ใช่แม้นก็ต้องบอกตรงๆ ว่าไม่ใช่ สำหรับกรณ๊พี่โจ้นี่ไม่มีท่าทีจีบแม้นเลย(เน้นเสียง) เราเป็นแค่พี่น้องที่รู้จักกันเท่านั้นจริงๆ ค่ะ”

สำหรับชีวิตรักของหญิงแม้นที่หลายคนเห็นว่าหวือหวารุนแรงมาโดยตลอด มิหนำซ้ำแฟนหนุ่มแต่ละคนของเธอยังหล่อเข้าขั้นกันทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหนุ่ม “แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” นักร้องหนุ่ม “พายุ คลาร์ก” หนุ่มนายแบบ “คริสโตเฟอร์ โรเบิร์ต” หรือกระทั่งเคยเป็นข่าวว่ากุ๊กกิ๊กกับนักร้องสไตล์เจ-ป็อบ “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” เมื่อถึงปัจจุบันเมื่อหญิงแม้นไม่ค่อยได้ควงหนุ่มๆ ไปไหนมาไหน และไม่มีภาพสวีทหวานกับหนุ่มคนไหนออกมาให้เห็นกัน หลายคนก็สงสัยว่าปัจจุบันสถานภาพของหัวใจหญิงแม้นเป็นอย่างไร

“โสดค่ะ” หญิงแม้นตอบเต็มปากเต็มคำ
แต่ถึงจะโสดแต่ก็ใช่ว่าจะสนิทเพราะปัจจุบันหญิงแม้นมีหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังคุยอยู่ ถือเป็นหนุ่มที่มีโอกาสพัฒนาเป็นแฟนมากกว่าใคร เพราะไปมาหาสู่กันบ่อย ไปรับไปส่งเธอเสมอ ซึ่งหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง และก็ไม่ใช่หนุ่มไทย แต่เป็นหนุ่มเกาหลีแท้ๆ ที่อายุมากกว่าหญิงแม้นพอสมควร และถ้าคิดว่าหญิงแม้นอินเทรนด์จึงไปคว้าหนุ่มเกาหลีมาเป็นคนข้างกาย หญิงแม้นก็ขอชี้แจงว่าหนุ่มจากแดนกิมจิคนนี้ไม่ใช่พิมพ์นิยม K-pop แบบที่สาวไทยกรี๊ดกร๊าดแต่อย่างใด

“ไม่เหมือนเลยค่ะ คนนี้เขาจะเป็นเกาหลี - อเมริกันน่ะค่ะ หัวเกรียนๆ ลุยๆ ไม่สำอางก์เลย”

หญิงแม้นเริ่มรู้จักหนุ่มเกาหลีคนนี้ครั้งแรกจากการแนะนำของเพื่อน เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนจึงรู้จักผ่านกันเป็นทอดๆ ซึ่งนายกิมจิรายนี้ไม่รู้ว่าหญิงแม้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่รู้ว่าที่เมืองไทยเธอมีงานอีเวนท์ที่ต้องไปร่วม ไม่รู้ว่าเธอมีชื่อพ่วงเกี่ยวอยู่ในวงการบันเทิงพอสมควร และเพราะความ “ไม่รู้อะไร” เกี่ยวกับตัวหญิงแม้นเลยนี่แหละที่ทำให้เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนเด็กผู้หญิง 21 ปีคนหนึ่งเท่านั้น
และนี่ก็ทำให้หญิงแม้นประทับใจในตัวหนุ่มเกาหลีรายนี้เป็นอย่างมากถึงขั้นยกให้เป็นคนที่มีภาษีเหนือกว่าคนอื่นๆ ที่เข้ามาจีบเธออยู่ในขณะนี้

“คนอื่นๆ ก็มีเข้ามาคุยบ้างเหมือนกัน เพราะว่าเรายังโสด แม้นก็จะให้โอกาสทุกๆ คนนะ ไม่อยากปิดโอกาสใคร ซึ่งถ้าเขา(หนุ่มเกาหลี) จะไปคุยกับใครก็เป็นสิทธิของเขาเหมือนกัน เพราะเรายังไม่ใช่แฟนกัน เราก็ต้องให้โอกาสเขาได้ศึกษาคนอื่นๆ ด้วย”

หลังจากสนทนากันได้ระยะหนึ่ง ประโยคหนึ่งก็หลุดออกจากปากของหญิงแม้น “นี่แม้นโสดนานที่สุดในชีวิตแล้วนะ”

7 เดือนเป็นระยะเวลาที่หญิงแม้นบอกว่าครองความโสดมานานที่สุด เพราะตั้งแต่แตกเนื้อสาวเข้าสู่วัยที่มีคู่ครองได้ หญิงแม้นก็มีคนเข้ามาคบหาดูใจไม่เคยขาด

“ตอนนี้ความรักไม่ใช่เรื่องที่แม้นจะโฟกัสค่ะ แม้นอยากจะโฟกัสไปที่เรื่องเรียนมากกว่า พอตอบแบบนี้หลายคนก็จะบอกว่าเพิ่งคิดได้เหรอ ซึ่งแม้นก็คงต้องบอกว่า ใช่ค่ะ เพิ่งคิดได้จริงๆ ที่ผ่านมาเราหลงระเริงทำตัวไม่ดีจนการเรียนตกต่ำ ทำให้ท่านพ่อท่านแม่ผิดหวัง พอถึงตอนนี้แม้นเริ่มคิดได้ ซึ่งแม้นเชื่อมาตลอดว่าไม่มีอะไรที่สายเกินไป”
แม้นบอกว่าพออายุเริ่มมากขึ้นเธอก็นิ่งขึ้นและมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างรู้สึกได้ นั่นเป็นสาเหตุที่เธอลดความสำคัญของเรื่องรัก แล้วหันมาเทหัวใจให้การเรียนแฟชั่นดีไซน์ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้เธอต้องเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างสหรัฐอเมริกากับเมืองไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอไม่สามารถปลูกต้นรักกับใครได้อย่างจริงจัง

และความเป็นผู้ใหญ่ที่หญิงแม้นรู้สึกว่าเพิ่มมากขึ้นนี้เองทำให้เธอบอกกับตัวเองว่าจะไม่ผลิตรูปถ่ายแนวหวือหวาปาร์ตี้อย่างที่เคยทำในอดีตอีกต่อไปแล้ว

“แม้นคงไม่ไปกอดจูบแนบชิดถ่ายรูปกับใครอีกแล้วล่ะค่ะ เราเองก็โตแล้ว ต้องระวังตัวมากขึ้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าไม่ว่าเราจะทำอะไรเราต้องยอมรับในผลที่จะตามเสมอ อย่างสมัยก่อนตอนที่แม้นเด็กๆ แม้นอยู่ที่เมืองนอกเรามีเพื่อนผู้ชายเยอะ เราก็จะเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัว กระโดดขี่คอเพื่อนผู้ชาย แต่พอมาอยู่ที่เมืองไทยเราถึงรู้ว่าเรื่องพวกนี้ไม่เหมาะไม่ควรในวัฒนธรรมไทย แม้นก็ค่อยๆ ปรับตัวมาเรื่อยๆ ที่ผ่านมาเวลาแม้นมีเพื่อนชายหรือมีแฟนก็ไม่เคยปิดบัง ก็จะบอกท่านพ่อท่านแม่เสมอ พวกท่านก็ทราบ อย่างกับหนุ่มเกาหลีนี่ท่านก็ทราบนะคะ”
"ถ้าเลือกได้ แม้นก็อยากกลับไปแก้ไขอดีตนะ อยากทําอะไรที่มันดีกว่านี้ ไม่อยากทําอะไรให้มันผิดพลาดอีกเเล้ว ซึ่งจากเรื่องที่เกิดขึ้น ทําให้หนูได้เรียนรู้ ไม่ว่าเราจะมีเงินเท่าไหร่ รวยเเค่ไหน เป็นลูกใคร เราก็ไม่สามารถซื้อเวลาที่เสียไปได้ เพราะฉะนั้น ทําอะไร เราก็ต้องทําให้เต็มที่ เพราะเราอาจไม่ได้โอกาสเป็นครั้งที่ 2 อีก”

สำหรับความรักกับหนุ่มเกาหลีคนนี้นั้น หญิงแม้นยอมรับว่าเธอไม่ได้ตั้งความหวังอะไรเอาไว้เลย ปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไป และย้ำอีกครั้งว่าตอนนี้ขอโฟกัสที่เรื่องเรียนมากกว่าจริงๆ

ฟังคำพูดของหญิงแม้นวันนี้แล้วต้องยอมรับว่าหญิงแม้นเวอร์ชั่นนี้ไม่เหมือนหญิงแม้นเมื่อสามปีก่อนจริงๆ ในวันวานหญิงแม้นเล่าว่าเธอเคยอกหักอย่างรุนแรงถึงขั้นร้องไห้เป็นสายเลือดและกินไมได้นอนไม่หลับมาแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปหญิงแม้นก็ยอมรับว่าสิ่งที่เธอเคยทำในอดีตเป็นหนึ่งในเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระที่สุด

“ที่ผ่านทุกอย่างตอนนั้นมาได้ เพราะมีกำลังใจดีๆ จากครอบครัวและเพื่อนสนิทเชื่อว่าไม่มีรักใดที่ยิ่งใหญ่เท่ารักที่พ่อแม่ให้เรา ตอนนั้นเราเป็นเด็กดื้อมากไม่เคยเชื่อฟัง แต่พอหลังจากเหตุการณ์นั้นแล้วกอดตัวเองร้องไห้ว่าไม่เหลือใครคนที่ร้องไห้ตามเราคือพ่อแม่ยอมรับว่าบาปมาก แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกตัวเองรู้สึกทุกอย่างรู้ว่าพ่อแม่รักเรามากแค่ไหนทำให้เราเข้มแข็งขึ้นมาก”

ตลอดเวลาของการปรากฏตัวหรือปรากฏข่าวคราวของหญิงแม้น ม.ร.ว. หญิงรายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์และก่นด่าอย่างหนักจากคนในสังคม และช่วงเวลานับจากนี้ไปจะเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งกล้าออกมายอมรับว่าเคยทำผิดพลาด และ “เพิ่งคิดได้” กับช่วงชีวิตที่เจ้าตัวยอมรับจากปากตัวเองว่า “โสดนานที่สุด” ครั้งนี้
.............................................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 106 วันที่ 15 -21 ตุลาคม 2554
บรรดาอดีตคนรักของหญิงแม้น วันนี้ยังไม่มีใครแชะรูปหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี - อเมริกันได้



กำลังโหลดความคิดเห็น