Madea Goes to Jail: งานที่ "เพอร์รี" เขียนบท, กำกับ, อำนวยการสร้าง และแสดงเป็นถึง 3 ตัวละคร
"ไทเลอร์ เพอร์รี" ผู้กำกับ/นักแสดงหนุ่ม ผู้โด่งดังกับบทแต่งหญิง และเป็นขวัญใจของเหล่ากลุ่มคนดูผิวสี กลายเป็นคนบันเทิงฝ่ายชายที่ทำรายได้มาเป็นอันดับ 1 ในปี 2011 แซงหน้าคนดังระดับโลกรายอื่นอย่างพลิกความคาดหมาย
ในการจัดอันดับคนดังแห่งแวดวงบันเทิง ทั้งวงการภาพยนตร์, ดนตรี, โทรทัศน์ และกีฬา ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี โดยนิตยสาร Forbes ปรากฏว่าอันดับ 1 กลายเป็นของหนุ่มมากความสามารถ ไทเลอร์ เพอร์รี ที่ทำรายได้ระหว่างเดือน พ.ค. 2010 - พ.ค. 2011 ของการเก็บข้อมูลไปมโหฬารถึง 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นแชมป์ประจำปี 2011 แบบที่ใครก็คงคาดไม่ถึงจริง ๆ
หนุ่มนิวออร์ลีนวัย 42 ปีคนนี้เป็นทั้ง นักแสดง, นักเขียนนิยาย, นักเขียนบทภาพยนตร์, ผู้กำกับ, ผู้อำนวยการสร้าง ที่ผลิตผลงานทั้ง ภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ และละครเวที นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการเขียนเพลงด้วย
เขาโด่งดังมากับบท มาเบล “มาเดีย” ซิมมอนส์ หญิงชราร่างท้วมปากจัด ชอบใช้ปืนฝาหน้าไม้ ที่ปรากฏตัวอยู่ในหนังหลาย ๆ เรื่อง โดยถือว่า เพอร์รี เป็นคนบันเทิงขวัญใจลำดับต้น ๆ ในตลาดหนังของคนผิวดำ จนสามารถทำเงินมากมายชนิดที่ไม่ต้องพึ่งพิงตลาดต่างประเทศ หรือเหล่าคนดูผิวขาวเลย
“เขามีกลุ่มแฟนพันธ์แท้ที่จงรักภักดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา แค่เปิดฉายหนังกลุ่มแฟน ๆ ก็ไปดูกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังดราม่า หรือตลก เพอร์รี่ รู้วิธีที่จะพูดกับคนดูจริง ๆ” นักวิจารณ์รายหนึ่งกล่าวถึงหนังของ เพอร์รี ที่สร้างออกมาปีละหลายเรื่อง และทำเงินแทบจะทุกเรื่อง นอกจากนั้นยังไปได้ดีในตลาดโฮมวิดีโอด้วย
ซึ่งรายได้ 130 ล้านเหรียญฯ ในรอบปีที่ผ่านมาของเขา มาจากผลงาน 5 เรื่อง ที่ เพอร์รี ทั้งเขียน, กำกับ, อำนวยการสร้าง และแสดงนำเอง ส่วนใหญ่ใช้ทุนสร้างประมาณ 20 ล้านเหรียญฯ แต่สามารถทำรายได้ระดับ 40 - 60 ล้านได้ทุกเรื่อง นอกจากนั้นเขายังมีรายการโทรทัศน์อีก 2 รายการคือ Tyler Perry's House of Payne และ Meet the Browns ด้วย
โดยผลงานลำดับต่อไปของ เพอร์รี คือ I, Alex Cross หนังนักสืบที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ เจมส์ แพตเตอร์สัน ซึ่งครั้งนี้เขาจะเพียงร่วมแสดงเท่านั้น ไม่ได้สร้าง, เขียน และกำกับเองแต่อย่างใด
มาที่อันดับ 2 ซึ่งตกเป็นของผู้อำนวยการสร้างคนดัง เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ ที่ตามมาห่าง ๆ กับรายได้ 113 ล้านเหรียญฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนแบ่งจากหนัง On Stranger Tides ที่ทำเงินทั่วโลกเกิน 1 พันล้านเหรียญฯ ไปแล้ว นอกจากนั้นรายการโทรทัศน์ที่เขาดูแลอยู่อย่าง CSI หลาย ๆ ภาค และ The Amazing Race ก็ทำเงินทำทองต่อเนื่องให้เรื่อย ๆ ทุกปีอยู่แล้ว
ฝ่ายผู้กำกับเบอร์ 1 แห่งฮอลลีวูด สตีเว่น สปีลเบิร์ก ฟันรายได้ในช่วงปีนี้ไป 107 ล้านเหรียญฯ ซึ่งต้องบอกว่านี่เป็นรายได้แบบที่เขาไม่ได้มีผลงานกำกับอะไรออกมาเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปลายปีนี้ สปีลเบิร์ก ยังจะปล่อยหนังออกมาสองเรื่อง ได้แก่ The Adventures of Tintin และหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 War Horse ซึ่งน่าจะทำเงินได้สูงทั้งคู่ และคงจะทำให้รายได้เขาสูงขึ้นกว่านี้ในปีหน้า
ด้านศิลปินเพลงเป็น เอลตัน จอห์น ที่ทำรายได้สูงถึง 100 ล้านเหรียญฯ ติดอยู่ในอันดับ 4 ของรายชื่อทั้งหมด โดยเป็นรายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกของเขานั่นเอง
ขณะที่คนดังจากแวดวงโทรทัศน์ ไซมอน คาวล์ ตามมาในอันดับ 5 กับรายได้ 90 ล้านเหรียญฯ หลังจากเขาตัดสินใจตบเท้าออกจากรายการ American Idol เพื่อปั้นรายการประกวดร้องเพลง The X Factor ฉบับสหรัฐฯ แทน
นักแสดงอีกคนที่ติดอันดับเข้ามา ก็คือซูเปอร์สตาร์หนุ่ม ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ที่รับทรัพย์ก้อนโต ภายหลังหนังดังเมื่อปี 2010 สองเรื่องได้แก่ Shutter Island และ Inception ที่เขารับบทนำทำรายได้ทั่วโลกรวมกันถึง 1,100 ล้านเหรียญฯ จนหนุ่มลีโอได้ส่วนแบ่งมาถึง 77 ล้านเหรียญฯ เลยทีเดียว
สำหรับลำดับอื่น ๆ ยังประกอบไปด้วยรายชื่อคนดังอย่าง ยอดนักเขียน เจมส์ แพตเตอร์สัน ที่มีผลงานขายดีในปี 2010 ถึง 20 เล่ม, ดร.ฟิล แม็กกรอว์ จิตแพทย์คนดังในแวดวงโทรทัศน์ อดีตเด็กปั้นของ โอปราห์ วินฟรีย์ ที่ตอนนี้กำลังค่อย ๆ สร้างอาณาจักรสื่อของตัวเองขึ้นมา และ ฮาเวิร์ด สเติร์น ที่ทำเงินได้ไม่น้อย หลังเพิ่งเซ็นสัญญาใหม่กับสถานีวิทยุ SiriusXM
ส่วนยอดนักกอล์ฟ ไทเกอร์ วูดส์ ที่แม้ชีวิตส่วนตัวและผลการแข่งขันยังย่ำแย่ แต่ก็ยังทำรายได้ไปถึง 75 ล้านเหรียญฯ เป็นนักกีฬาผู้รวยที่สุดในโลกต่อไป
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
