xs
xsm
sm
md
lg

เพลงวาน : “นกเจ้าโผบิน” โผผินสู่ดนตรีบำบัด...“จำรัส เศวตาภรณ์”/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
จำรัส เศวตาภรณ์
“พ้นขอบฟ้าแสนไกลชายฝั่ง นกน้อยยังโผบิน ท้องฟ้าแสนไกลเจ้าบินไปไกลถิ่น
โผบินสู่อ้อมอกใคร ใจเธอคิด จะบินไปให้แสนไกลห่าง สุดฝั่งขอบฟ้า สุดฝั่งขอบฟ้าห่างไกล เจ้าโบยบินมาจากถิ่นใด...”

เพลง “นกเจ้าโผบิน” : “จำรัส แอนด์ เดอะเรดิโอ”

1…

แกรนด์เอ็กซ์”วงดนตรีแห่งตำนานวงนี้ นอกจากจะสร้างปรากฏการณ์ต่างๆให้กับวงการเพลงไทยในยุคสมัยหนึ่ง ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์บทเพลงชั้นยอดมากมายแล้ว แกรนด์เอ็กซ์ยังเป็นคล้ายสถาบันดนตรีกลายๆ เพราะนักร้องนักดนตรีหลายคนที่มีสายสกุลแกรนด์เอ็กซ์ ล้วนต่างไปได้สวยในวงการเพลงบ้านเรา ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง

สำหรับบุคคลสายสกุลแกรนด์เอ็กซ์คนแรกที่ผมจะพูดถึงก็คือ “จำรัส เศวตาภรณ์” หรือพี่จ๋าย ที่เด็กรุ่นหลังหลายๆคนอาจไม่รู้ว่า พี่แกเคยเป็นนักร้องนำของวงแกรนด์เอ็กซ์มาก่อน

พี่จ๋ายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ของคนมี“พรสวรรค์”และ“พรแสวง”ควบคู่ไปกับการ“ใฝ่เรียน” ซึ่งเด็กสมัยนี้ที่อยากเป็นนักดนตรีควรดูเป็นตัวอย่าง เขาเริ่มเล่นดนตรีตามห้องอาหาร ไนต์คลับ หาเลี้ยงตัวมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งการเรียน โดยสามารถเอ็นทรานซ์ติดคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ในปี พ.ศ. 2517

ปี 2519 “พี่แอ๊ด-ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ”(มือเบส) ชักชวนพี่จ๋ายเข้ามาเป็นสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ในตำแหน่งนักร้องนำและมือกีตาร์คอร์ด

ปี 2520 วงแกรนด์เอ็กซ์เดินทางเข้าสู่ยุทธจักรวงการเพลงไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ด้วยการออกซิงเกิ้ลแรกของวง ชุด“คู่นก” ที่เป็นแผ่นแจก(ไม่ขาย)สำหรับโปรโมทตามสถานีวิทยุ

ซิงเกิ้ลชุดคู่นก มี 4 เพลง พี่ต้อง-นคร เวชสุภาพร ร้อง 2 เพลงคือ เพลง“เพ้อรัก” และ“เธอเท่านั้น” ส่วนอีก 2 เพลงคือ “คู่นก” และ“ช้าหน่อยรัก” ร้องนำโดยพี่จ๋าย-จำรัส เศวตาภรณ์

ซิงเกิ้ลชุดคู่นกแม้ไม่ฮอตฮิต แต่ก็เปิดตัววงแกรนด์เอ็กซ์ให้เป็นที่รู้จักได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกับเพลงเอก“คู่นก”นั้น ถือว่าโดดเด่นที่สุดในซิงเกิ้ล

คู่นก เพลงนี้พี่จ๋ายโชว์เสียงหล่อปานพระเอกหนังไทย สวนทางกับหน้าตาเด็กเรียนของแกเป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมามันได้กลายเป็นหนึ่งในลายเซ็นเพลงคู่กายของพี่จ๋ายมาจนทุกวันนี้

ถ้านึกถึงพี่จ๋ายกับวงแกรนด์เอ็กซ์ เพลงแรกที่ผมนึกถึงก็คือคู่นก
อัลบั้มนกเจ้าโผบิน
2…

หลังไปได้ดีกับ“คู่นก”ซิงเกิ้ลชิมลางคือ แกรนด์เอ็กซ์ส่งอัลบั้มแรกคือ “ลูกทุ่งดิสโก้ 1“ออกมาในปี 2522 สร้างปรากฏการณ์ทำยอดขาย(เทป)ทะลุล้านตลับ จากนั้นต่อกันด้วยอัลบั้ม “บันทึกการแสดงสดที่ แมนฮัตตันคลับ”(2523) โดยมีการนำเพลง“คู่นก”มาบรรจุไว้ ทำให้แฟนเพลงได้ฟังเสียงหล่อของพี่จ๋ายอีกครั้ง แล้วต่อด้วยอัลบั้มชุด“ลูกทุ่งดิสโก้ 2 “(2523)

วงแกรนด์เอ็กซ์ช่วงนี้อยู่ในขาขึ้น กำลังรุ่งพุ่งแรง แต่พี่จ๋ายที่อยู่กับแกรนด์เอ็กซ์มา 4 ปี(2519-23) เพิ่งเรียนจบรับปริญญาหมาดๆ มีความจำเป็นต้องลาออกจากวงไปช่วยกิจการทางบ้าน แกรนด์เอ็กซ์จึงเฟ้นหาสมาชิกใหม่ได้“พี่แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์”มาเป็นนักร้องนำเสียงขยี้ใจ ร่วมกับ“พี่เต๊ะ-โชคดี พักภู่”(ชื่อเดิมบุญยัง ฟักภู่) ที่เข้ามาแทนมือทรอมโบนคนเดิมที่ลาออกไปเช่นเดียวกับพี่จ๋าย

ชื่อของจำรัส เศวตาภรณ์ หลังออกจากแกรนด์เอ็กซ์เงียบหายจากวงการเพลงไทยไปพักหนึ่ง ก่อนเขาจะกลับมาอีกครั้งในนาม “จำรัส แอนด์ เดอะเรดิโอ” กับอัลบั้ม“นกเจ้าโผบิน”ในปี 2525

นกเจ้าโผบิน เป็นงานมาสเตอร์พีชระดับขึ้นหิ้งที่โด่งดังที่สุดชุดเดียวของพี่จ๋าย ซึ่งยังคงเป็นที่ต้องการของแฟนเพลงมาจนถึงทุกวันนี้

อัลบั้มนี้ มีเพลง“นกเจ้าโผบิน”เป็นเพลงเอก ที่โด่งดังพอตัวในยุคนั้น และกลายเป็นเพลงดังคู่บุญของเขามาจนทุกวันนี้

แต่ก่อนที่จะไปพูดถึงเพลงนกเจ้าโผบิน ผมขอพูดถึงเพลงเด่นๆในชุดนี้กันสักหน่อย

เริ่มกันด้วยเพลง“สาวน้อย”(แทรค 2)มาในอารมณ์คันทรีสนุกๆ ฟังคึกคักกระฉับกระเฉง เนื้อเพลงว่าด้วย สาวน้อยที่เฝ้ารอคอยคนรักยังใจจดใจจ่อ

...สาวน้อยคนนี้เธอคงเฝ้าคอยครวญหา ชายในดวงของเธอคืนมา เฝ้าหวนควรคิดคะนึงถึงชายในฝัน นับวันผ่านไป ใจรัญจวน...

ส่วนเพลง“อยากขอรัก”(แทรค 3) กับ “สายน้ำ”(แทรค 8) สองเพลงไพเราะที่มาแบบช้าๆซึ้ง ให้เราได้ฟังเสียงหล่อๆของพี่จ๋ายกันอย่างจุใจ ซึ่งพี่แกก็มีสไตล์ร้องเพลงเสียงหล่อๆต่างไปจากเสียงหล่อของพี่แจ้หรือ“พี่แช่”ของน้องๆ

เสียงหล่อของพี่จ๋าย เป็นหล่อนุ่ม โทนแหลม ติดลูกเศร้า ที่ไม่ออดอ้อนสักเท่าไหร่ ส่วนเสียงของพี่แจ้เป็นหล่อนุ่ม โทนทุ้ม ฟังดูสดใส ร่าเริง และมากไปด้วยลูกกระเส่า ออดอ้อน ขยี้ใจ

เอาล่ะ ทีนี้ถึงคิวของเพลงไฮไลท์ประจำอัลบั้มอย่าง“นกเจ้าโผบิน”(แทรค 1) ที่คงความอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งดูเหมือนพี่จ๋ายจะถูกโฉลกกับนกเพราะร้องแล้วดังถึง 2 เพลงด้วยกัน

นกเจ้าโผบิน เป็นเพลงไพเราะ ช้าเศร้า ขึ้นนำมาด้วยเสียงกีตาร์ติดกลิ่นอายญี่ปุ่น ก่อนส่งเข้าเพลงด้วยเสียงร้องนุ่มๆของพี่จ๋าย เนื้อหาเปรียบเธอกับนกน้อยที่โผบินตามความฝัน โดยมีคนเฝ้าคอยห่วงใยอยู่

“...เธอไม่รู้ เธอคงไม่รู้ว่ามีใครคอยอยู่ กลับสู่รังน้อย กลับสู่รังน้อยเจ้าสักที...”

ครับ เวลาฟังเพลงนี้ทีไร ใจผมมันอดนึกไปถึงท้องฟ้าท้องทะเลในอารมณ์เหงาๆไม่ได้ ยิ่งยามต้องนั่งเครื่องบินเดินทางไกล และคิดถึงคนที่คอยเราอยู่แล้ว ใจมันแป้วทุกที
จำรัส แอนด์ เดอะเรดิโอ
3...

พี่จ๋าย มีงานเพลงในนาม “จำรัส แอนด์ เดอะเรดิโอ” ออกมาอีก 2 ชุด คือ “หยาดฝน”(2526) และ “บทเพลงและความฝัน”(2527) ที่แม้จะมีเพลงดีเพลงเพราะอยู่พอตัว แต่ว่าก็แป้ก ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยแนวนิยมเพลงไทยในยุคสมัยนั้นเริ่มเปลี่ยนไปเป็นยุคทองของเพลงเพื่อชีวิตที่มีวง “คาราบาว” เป็นหัวหอก

นั่นจึงทำให้จำรัส แอนด์ เดอะเรดิโอ ปิดฉากลงเพียง 3 อัลบั้ม แต่ว่าจำรัส เศวตาภรณ์ ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงไทย โดยผันตัวไปทำเพลงประกอบภาพยนตร์และละคร ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นของเขาที่ไปได้สวยเป็นอย่างยิ่ง

พี่จ๋ายทำเพลงประกอบหนังไทยมากมาย นับ 100 เรื่อง(รวมแล้วเกือบ 1,000 เพลง) อาทิ หย่าเพราะมีชู้,กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน,ทวิภพ,ข้างหลังภาพ,น้ำเซาะทราย,กว่าจะรู้เดียงสา,คู่กรรม เป็นต้น ซึ่งสามารถคว้ารางวัลด้านเพลงประกอบภาพยนตร์ไปอย่างมากมายเป็นกุรุส ทั้งในระดับประเทศและในระดับทวีป อาทิ รางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเอเซียแปซิฟิก(ไต้หวัน)จากภาพยนตร์เรื่อง "นางนวล",รางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ชมรมวิจารณ์บันเทิงจากภาพยนตร์เรื่อง "ปุกปุย" ฯลฯ

และโดยเฉพาะรางวัลพระราชทานดนตรีและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมพระสุรัสวดีจากภาพยนตร์เรื่อง "น้ำเซาะทราย" ที่ถือว่าสร้างชื่อเป็นอย่างมากให้กับพี่จ๋ายในแนวทางสายนี้ ซึ่งวันนี้เพลง“น้ำเซาะทราย”(เนื้อร้องโดย : ครูชาลี อินทรวิจิตร) จากฝีมือของพี่จ๋ายนั้น ถือเป็นหนึ่งในเพลงหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา ฟังทีไร มันให้อารมณ์เศร้าหงอยทุกที โดยเฉพาะลีลาเปียโนอันพลิ้วไหวจับใจในเพลงนี้ ถือว่าสุดยอดมากๆ

“วิ่งหารักมาอ่อนใจ เอื่อยไหลซบทรายกระเซ็น ชื่นฉ่ำเย็น อยากเป็นน้ำ เซาะทราย...”

สำหรับใครที่อยากฟังเพลงประกอบหนัง ประกอบละคร เพราะๆ พี่จ๋ายมีงานรวมเพลงหนัง-ละคร ออกมา 3 ชุดด้วยกัน คือ “ละครฝัน-น้ำเซาะทราย”(2529),”แล้วแต่จะนึก...บันทึกด้วยใจ”(2531) และ “บันทึกหลังฉาก”(2537) ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบันงานเพลงพวกนี้จะยังคงมีขายอยู่หรือเปล่า
นิพพาน 1 ในอัลบั้มดนตรีบำบัดของจำรัส เศวตาภรณ์
4...

เส้นทางสายดนตรีของพี่จ๋าย ยังไม่หยุดเพียงแค่เพลงซาวน์แทรคประกอบหนัง ประกอบละคร เขาเดินหน้าต่อไปกับ “Spa Music” หรือ “ดนตรีบำบัด” งานเพลงบรรเลงเนิบนาบฟังสบายที่หลายคนเรียกขานแตกต่างกันออกไป บ้างยกให้เป็นนิวเอจเมืองไทย บ้างเรียกเป็นเพลงสปา เรียกเป็นกรีนมิวสิค เพลงจากธรรมชาติ หรือไม่ก็เป็นเพลงแห่งการพักผ่อน ส่วนผมนิยมเรียกงานเพลงบรรเลงของพี่จ๋ายว่าเป็น “บทเพลงกล่อมนิทรา” เพราะมันใช้ฟังกล่อมนอนให้หลับปุ๋ยได้ชะงัดนัก

พี่จ๋ายเริ่มหันมาทำดนตรีบำบัดในราวปี พ.ศ. 2536 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการชอบฟังเพลงบรรเลงตั้งแต่เด็ก และเป็นคนที่สนใจในเรื่องการทำสมาธิ การฝึกจิต โดยได้นำประสบการณ์จากการทำซาวน์แทรคมาผสมผสาน

สำหรับงานเพลงบรรเลงดนตรีบำบัด ที่พี่จ๋ายทำออกมานั้นก็มี อาทิ อัลบั้ม”เช้าวันใหม่”,”ฤดูกาลแห่งชีวิต”,”เพลงใบไม้”,”เนรัญชรา” และ ”นิพพาน” เป็นต้น ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมีถึงมากกว่า 10 กว่าชุด

งานเพลงเหล่านี้ทุกวันนี้ก็ยังมีคนซื้อไปฟังกันอยู่ขายได้แบบซึมลึก แสดงให้เห็นว่าคนไทยเราเครียดกันไม่น้อยเลย

และนั่นก็เป็นเรื่องราวชีพจรดนตรีของ จำรัส เศวตาภรณ์ หรือพี่จ๋ายแห่งสายสกุลแกรนด์เอ็กซ์ ที่อาจจะไม่ใช่นักร้องนกดนตรีที่โด่งดังถล่มทลาย แต่ว่านี่เป็นอีกหนึ่งคนคุณภาพแห่งวงการเพลงไทยที่ได้ฝากผลงานดีๆเอาไว้มากมาย
*****************************************

หมายเหตุ : บทความแนะนำเพลงน่าสนใจย้อนยุค ภายในชื่อคอลัมน์ “เพลงวาน” จะนำเสนอสัปดาห์เว้นสัปดาห์ สลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม
- ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น