“พิ้งกี้” ชักเซ็งหนังอินเดียเลื่อนฉาย ยันไม่ได้โดนไล่หลังไปมัสยิดเพื่อละหมาด

“พิ้งกี้” เผยหนังอินเดียเลื่อนฉายหลายรอบ ล่าสุดเลื่อนไปวันที่ 29 กรกฏาคมนี้ บอกถ้าเลื่อนอีกคงไม่ได้ไปโปรโมทแล้วเพราะมีงานที่เมืองไทยที่รับไว้ ซึ่งกระแสตอบรับของหนังดีมากจนมีนิตยสารTIMEมาขอสัมภาษณ์ เผยยังไม่ท้อกับงานละคร-หนังในเมืองไทย เชื่อยังมีโอกาส ปัดโดนพชาวมุสลิมแอนตี้ไล่ระหว่างที่ไปทำการละหมาดจนเข้ามัสยิดไม่ได้ แจงข่าวมั่วเพราะไม่ได้ไปนานแล้ว

แม้จะโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงในเมืองไทย จนทำให้งานหนัง-ละครหดหายเกลี้ยง แต่หนทางเรื่องงานของนางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ที่อินเดียก็ยังคงไปได้สวยอยู่ แม้หนังที่เธอเล่นนั้นต้องเลื่อนเปิดตัวไปแล้วถึง 2-3 ครั้ง เพราะล่าสุดก็เลื่อนเข้าฉายไปเป็นวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ซึ่งนางเอกสาวก็เผยว่าเริ่มเซ็งเหมือนกัน เพราะถ้าต้องเลื่อนออกไปมากกว่านี้ตนคงไปร่วมงานโปรโมทไม่ได้ เพราะติดงานที่เมืองไทย

“ตอนนี้หนังที่อินเดียเลื่อนฉายไปวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ค่ะ เลื่อนไปนิดนึงจะไปวันที่ 25 กรกฎาคมจากที่ตอนแรกบอกว่าจะไปวันที่ 10 กว่า ตอนนี้ก็เลื่อนไปอีกเลื่อนตลอดเลย(หัวเราะ) ถ้าไปก็ไปโปรโมทหนังค่ะ ก็ลุ้นนะคะเพราะถือว่าเป็นสิ่งที่กี้คาดหวังไว้ว่าหนังเราจะเป็นหนังยังไง แล้วแฟนๆ จะชอบไหม ก็รอให้มันออกมาเต็มที่ แต่คงไม่เลื่อนแล้วค่ะ เพราะเราก็มีงานที่นี่อยู่ และถ้าเกิดเลื่อนอีกก็คงไม่ได้ไปแล้ว ก็เซ็งเหมือนกัน แต่อินเดียบางทีก็ต้องเข้าใจ เพราะมันอาจจะมีการคลาดเคลื่อน เพราะที่อินเดียโรงฉายเขาไม่เหมือนเมืองไทยหนังเขาเยอะมากก็ถ้าได้ฉาย 29 จริงๆ อย่างที่บอกก็ต้องรอดูกันวันนั้น ก็คงจะเข้าไปดูหนังด้วยค่ะ”

“กระแสตอบรับตอนนี้ก็มีหนังสือพิมพ์ นิตยสารมาสัมภาษณ์อย่างนิตยสาร TIME ก็มีมาสัมภาษณ์ ก็ถือว่าเริ่มต้นจากนับหนึ่งเลย เหมือนกับกี้ไปเริ่มต้นที่โน่น ตอนนี้ก็มีงานถ่ายแบบเหมือนเราเริ่มต้นหนังเรื่องใหม่เรื่องแรกที่นู่น เป็นน้องใหม่มีออกรายการเหมือนของช่องบ้านเราคือ 3,5,7,9 เลยค่ะ แฟนๆ ก็มีคนอินเดียที่อยู่เมืองไทยเขาก็ติดตามว่าเมื่อไหร่จะเข้าฉาย เพราะเขาอยากเห็นเหมือนกัน”

เผยงานที่เมืองไทยตอนนี้ตนก็รับแบบสบายๆ ไปก่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่รอระหว่างไปโปรโมทหนังที่อินเดีย แต่ไม่ท้อเพราะเชื่อยังมีงานละครให้เล่นแน่นอน

“งานที่เมืองไทยช่วงนี้ก็อาจจะเงียบค่ะ เพราะยังต้องใช้เวลาในการทำงานหลายๆ อย่าง ละครก็อดใจรอ เดี๋ยวคงจะมีเร็วๆ นี้ ก็ถ้ามีเราก็อยากเล่นเหมือนกัน แต่มันก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่มีติดต่อรึเปล่าคงต้องถามคุณแม่ค่ะ แต่อาจจะมีนะคะ ตอนนี้ก็ถือว่าเราพยายามที่จะเอาอินเดียของเราให้ผ่านไปก่อน แต่กับพี่ปิ่น(ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์) ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสกี้ก็อยากจะเข้าไปหาพี่ปิ่นเหมือนกันค่ะ ยังไม่มีติดต่อจากพี่ปิ่น”

“ส่วนงานเพลงยังต้องใช้เวลามากเลยค่ะ บางทีเราทำไปอาจจะคิดว่าดีแล้ว แต่คนอื่นฟังอาจจะไม่ดีก็ต้องใช้เวลา ตอนนี้ก็ทำไปได้ 50% แล้วค่ะ มีเดโมแล้วในระดับนึง แต่มีหนังอินเดียเรื่องอื่นติดต่อมา แต่เขาก็รอให้หนังเรื่องนี้ฉายไปก่อน จะได้เห็นว่าฟีตแบ็คดีหรือเปล่า ถ้าดีก็อาจจะมีติดต่อมาให้เล่นจริงๆ คือก็แค่ติดต่อมาเฉยๆ แต่ยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่าง ยังไม่ทราบเลยว่าแนวไหน เพราะมันมีหลายอย่าง แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้อะไรเลย เราเริ่มต้นจากศูนย์ ก็รอหนังเรื่องนี้ให้ผ่านไปก่อน”

“งานที่นี่ยังไม่ท้อค่ะ เดี๋ยวเราก็ได้เล่นเอง มันต้องใช้เวลา หนังหรือละครแฟนๆ ก็อยากจะเห็นกี้มาเล่นบทหลายๆ อย่างที่เขาอยากเห็น ก็อดใจรอกันก่อนค่ะ กลัวคนลืมไหมเหรอ ไม่หรอกค่ะ เพราะยังมีอีเว้นท์อยู่(หัวเราะ) แต่ถ้าไม่ใช่นางเอกเหรอ เขาคงยังไม่ให้หนูไปเล่นอะไรอย่างอื่นมั้ง อาจจะเป็นบทที่โตขึ้น บทที่มันเฉือดเฉือน เพราะเราก็โตแล้วในระดับนึงงานตอนนี้ก็มีถ่ายแบบ อีเว้นท์ เดินแบบ ก็ถือว่าเป็นงานที่รอระหว่างไปที่นู่นก็ทำงานสบายๆ ไป”

โต้กระแสข่าวโดนขับไล่ให้ออกจากมัสยิดระหว่างที่ไปละหมาด เพราะพี่น้องชาวมุสลิมรับไม่ได้กับภาพลักษณ์เสื่อมเสีย แจงข่าวมั่วมาก พร้อมขอบคุณหมอลักษณ์ช่วยฟันธงว่าจะกลับมารุ่งอีกครั้ง

“เข้ามัสยิดละหมาดไม่ได้เหรอ ไม่มีเลยค่ะ หนูยังไม่ได้ไปมัสยิดเลยข่าวมั่วมาก(หัวเราะ) ไม่มีค่ะ ยังปกติ ส่วนเรื่องหมอลักษณ์ไม่ได้ไปปรึกษาค่ะ แต่ได้มีโอกาสเจอหมอลักษณ์เขาก็เป็นผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำได้ดีเราก็ถามว่าชีวิตทั่วไปจะเป็นยังไงแต่ที่เขาบอกว่าจะกลับมารุ่งอันนี้ก็ดีใจขอบคุณ และรู้สึกว่าเป็นกำลังใจที่ดีให้เราเดินสู้ต่อไป”