“เขตต์ ฐานทัพ” ควงแฟนสาว “แนท เปรมิการ์” ถ่ายรูปเวดดิ้งเตรียมเข้าพิธีวิวาห์ปลายปีนี้ แต่ยังไม่กำหนดวันแต่งที่แน่นอน เผย ชุดเจ้าสาวราคาหลักแสน บอกแต่งแล้วอยากมีทายาทเลย กลัวไม่ทันใช้ ด้านฝ่ายชายให้คำมั่นสัญญาจะทำหน้าที่ผู้นำครอบครัวให้ดีที่สุด
หลังจากคบหาดูใจกันถึง 4 ปี ความรักของพระเอกหน้าเด็ก “เขตต์ ฐานทัพ” และแฟนสาว “แนท เปรมิการ์ ธนโรจน์ประดิษฐ์” ก็สุกงอมเต็มที่ และกำลังจะจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยเมื่อวันก่อน(20 ก.ค.) ทั้งคู่ก็ได้ควงกันไปถ่ายรูปเวดดิ้ง ณ ร้านฟินนาเล่เวดดิ้งสตูดิโอ แยกแหม๋งจ๋าย ในครั้งนี้หนุ่มเขตต์และสาวแนท ก็ได้ให้เล่าถึงบรรยากาศการขอแต่งงานของฝ่ายชาย ที่แอบไปขอแต่งงานกลางงานเลี้ยงลูกค้า ณ ชายหาดชะอำ บอกว่า เป็นการขอที่เรียบง่าย และฝ่ายหญิงไม่ได้ตั้งตัว และยังเผยอีกว่า เรื่องของสินสอดและเรือนหอ ต้องเป็นเรื่องของผู้ใหญ่
เขตต์ : “วันนี้มาลองชุดด้วยครับ และก็มาถ่ายรูปเผื่อไว้ใช้ในงาน และงานเลี้ยงฉลองสมรส น่าจะเป็นเดือนพฤศจิกายนแน่นอน แต่ยังไม่ระบุวันครับ จริงๆ แล้ว เราดูกันหลายฤกษ์ครับ และเราพยายามดูกันหลายๆ หมอครับ เท่าที่แพลนกันไว้ ก็น่าจะเป็นหมั้นเช้าแล้วงานแต่งตอนเย็นเลยครับ แต่ก็น่าจะมีอะไรปรับเปลี่ยนอีก ตอนนี้ก็ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยู่ว่าจะหมั้นก่อนแล้วค่อยแต่งหรือหมั้นเช้าแล้วแต่งเลย”
“เราก็คบกันมา 4 ปีแล้ว และได้วางแผนแต่งงานมาตั้งแต่ต้นปีแล้วนะครับ ตั้งแต่ที่มีข่าวออกไปนั้นแหละครับ ทางเราก็พยายามเตรียมและหาฤกษ์ และก็สรุปกันออกมาว่าปีนี้น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับการแต่งงาน จริงๆ เรามีวันที่จะเข้าไปขอกับผู้ใหญ่แล้ว ภายในเดือนนี้แหละ แต่ยังไม่ถึง แต่เรามาถ่ายเวดดิ้งกันก่อน ผมก็ไปขอเขาแต่งงานที่ชะอำครับ ริมทะเล”
แนท: “ตอนนี้มาขอก็งงคะ อยู่ๆ เขาก็พุ่งเข้ามา แต่จริงๆ วันนั้นก็อยู่กันเยอะคะ เพราะเป็นงานเลี้ยงลูกค้า และเราก็ไปร่วมกับลูกค้าพอดีบรรยากาศก็อยู่ริมทะเล และลูกค้าก็อยู่ประมาณ 20 กว่าท่าน ก็เยอะอยู่เหมือนกัน และจู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน เขาก็พุ่งเข้ามาขอเราแต่งงาน (ยิ้ม)”
เขตต์ : “เราก็อาศัยช่วงชุลมุนครับ ขณะที่คนอื่นกำลังสนุกสนานกันอยู่ เราก็อาศัยมุมๆ หนึ่งของหาดทราย ขอเขาคือเราตกลงว่าจะแต่งงานแต่ก็ยังไม่มีการขอ และก็ไม่มีเวลาที่เหมาะกันการที่จะขอด้วย ผมและแนทต่างก็งานยุ่งมาก ก็ไม่ค่อยมีเวลาที่จะสวีตกันมากเท่าไหร่ และตอนนั้นก็เป็นโอกาสเหมาะที่เราได้ไปต่างจังหวัดด้วยกัน เราก็เลยอาศัยจังหวะนี้แหละ ช่วงที่ชุลมุน แต่ทุกคนก็ไม่รู้ว่าเราขอแต่งงานแต่พอดีมีคนแอบมาเห็นก็เลยมีการล้อกันแซวกัน”
แนท : “และระหว่างนั้นก็จะมีเสียงแซวว่า อะไรอะ ทำอะไรอะ อยู่ตลอดเวลา (หัวเราะ) ตอนแรกเราก็ตกใจค่ะ เพราะนึกว่าการขอแต่งงานจะเป็นการขอแบบสองคน โรแมนติกกว่านี้ วันนั้นตกใจไม่คิดว่าจะขอเพราะคนอยู่เยอะมากค่ะ แต่วันนั้นพี่เขตต์ก็พูดเยอะ เขาก็พูดถึงเรื่องอนาคตด้วย พี่เขตต์เขาก็บอกว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี สามีที่ดีและเป็นพ่อของลูกที่ดีในอนาคต แต่ก็ยังไม่ได้ให้แหวนตอนนั้นนะ เหตุการณ์นี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้เอง”
เขตต์ :“งานของเราจะแตกต่างไปจากคู่อื่นหน่อยตรงที่วางแพลนว่าจะแต่งปีนี้ และผมก็เป็นคนนิสัยเสียอย่างหนึ่งคือ ผมไม่ชอบให้คนมาบิ้วผมคือผมจะทำอะไรเดี๋ยวผมทำเองและเขาก็แหย่กันไปแหย่กันมา แต่คือ แพลนที่จะแต่งก็เป็นภายในปีนี้อยู่แล้ว และก็ยังมีเสียงแซวว่าเมื่อไหร่จะขอๆ ก็เลยขอซะเลย”
บอกเรื่องรายละเอียดวันงานและเรื่องสินสอดต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
เขตต์ :“ช่วงนี้ก็มีเตรียมอยู่บ้าง ยังคิดอยู่ว่าจะหมั้นจะแต่งภายในวันเดียวกันไหม หรือจะแยกไปหมั้นต่างหาก ส่วนเรื่องของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายที่จะคุยกันก็จะมีการคุยกันในปลายเดือนนี้”
แนท : “ส่วนเรื่องของสินสอดก็ต้องให้ผู้ใหญ่คุยกันค่ะ เดี๋ยวต้องรอให้คุณพ่อคุณแม่คุยกัน”
เขตต์ : “แต่ทางด้านครอบครับของแนทก็ค่อนข้างที่จะโอเคนะครับ เราก็เคยถามเล่นๆว่าจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ดี แม่ก็บอกว่าตามความเหมาะสม ส่วนสถานที่จัดงานกำลังดูโรงแรมอยู่นะครับ น่าจะเป็นแถวสุรวงศ์ครับ”
แย้มราคาชุดเจ้าสาวสนนราคาหลักแสน ธีมงานสีชุดเป็นสีชมพูทอง
แนท : “ตอนนี้เรื่องแรกที่เสร็จ คือ ชุด ซึ่งชุดที่ดูมีเค้าโครงว่าใกล้ความจริงมากที่สุด ส่วนอย่างอื่นก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากมาย ก็รู้สึกว่าก็ไม่น่าจะเป็นอะไรที่เรียบจนเกินไป ก็ต้องมีสีสันบ้างเล็กๆ น้อยๆ”
เขตต์ : “เรื่องชุดวันนี้ก็เป็นชุดถ่ายเวดดิ้งเฉยๆ ไม่ได้เป็นชุดในงาน ตอนนี้ก็กำลังเตรียมการอยู่ แต่เรื่องสีชุดในงานแต่งเป็นสีชมพูทอง เพราะผมชอบสีชมพูนะส่วนราคาชุดนั้นก็เป็นหลักแสนครับ”
แนท : “ก็ตองบอกว่าเรื่องชุดทางทีมงานก็ทำสวยอยู่แล้ว เริ่มเป็นรูปร่างแล้วว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง เจ้าสาวหน้าไม่ค่อยสาวก็เลยต้องทุ่มหน่อย (หัวเราะ)”