xs
xsm
sm
md
lg

ลูกสาว “ดารณี” เผยแม่ยังไม่กลับไทย แต่ถ้าจะกลับก็กลับได้เพราะที่ผ่านมาแค่เรียกร้องประชาธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฝน วิรุฬกานต์” ลูกสาว “ดารณี กฤตบุญญาลัย” หนึ่งในผู้มีหมายจับคดีก่อการร้าย เผยแม่ยังไม่มีแผนจะกลับเมืองไทย ถึงเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง บอกตอนนี้แม่เดินทางไปท่องเที่ยวเยี่ยมเพื่อนฝูงตามสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าจะกลับก็กลับได้เพราะไม่ได้ติดขัดอะไร แค่เรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งทำมานานแล้วตั้งแต่สมัย 14 ตุลา , 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ

หายหน้าไปนานเลยทีเดียวสำหรับ “ดารณี กฤตบุญญาลัย” หลังจากเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงจนเกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองไปเมื่อปีที่แล้ว จนโดนข้อหาผู้ก่อการร้ายและหลบหนีคดี ล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้ชนะการเลือกตั้ง ทำให้มีกระแสข่าวว่า “อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง” แกนนำเสื้อแดงและผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ที่ได้หลบหนีคดีเช่นเดียวกันนั้นจะเข้ามอบตัว อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้ออกมาปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ข่าวคราวทางด้านดารณีไฮโซคนดังยังเงียบฉี่ ล่าสุด “น้ำฝน วิรุฬกานต์ กฤตบุญญาลัย” ลูกสาวของดารณีได้ไปร่วมงานเปิดตัวโรงภายนตร์ 4D ก็เลยเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า แม่ตนไม่ได้ติดขัดอะไรแค่เรียกร้องประชาธิปไตย ถ้าจะกลับก็กลับได้แต่ตอนนี้ไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงตามที่ต่างๆ

“คุณแม่ท่านก็สบายดีค่ะ เราก็คุยกันอยู่บ่อยค่ะในเวลาที่มีโอกาส ท่านก็เดินทางท่องเที่ยว แกก็ไปหลายที่ไม่อยู่ที่ใดที่หนึ่งเดินทางไปเจอไปเยี่ยมเพื่อนฝูง เรื่องของการกลับมาแม้ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแล้วมันก็ไม่เกี่ยว คุณแม่ที่เขาต่อสู้เขาต่อสู่เพื่อประชาธิปไตย ถูกมั้ยค่ะ ซึ่งมันก็คงจะต้องดูอีกว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นมามันแปลว่ามันได้รับประชาธิปไตยแล้วหรือไม่เท่านั้นเอง มันกลับมาสู่กติกาของบ้านเมืองแล้วหรือไม่”

และเมื่อถามย้ำถือกระแสข่าวลือที่ว่าคุณแม่ได้หนีไปกบดานอยู่กับนาย “อริสมันต์” ที่เขมรตามจริงหรือไม่นั้น เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันแม่ตนไม่ได้กระทำความผิดใดๆเพราะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ฉะนั้นจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้

“เขาบอกแล้วหรอค่ะ เรายังไม่ได้คุยกันค่ะ ไม่ได้ไปอยู่เขมร ไม่จริงเลย คุณแม่เขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน การเมืองไม่มีผลกระทบอะไรกับครอบครัวเรา ปกติครอบครัวเราค่อนข้างที่จะเคารพการตัดสินใจของกันอยู่แล้วว่าใครอยากจะทำอะไร เราเองก็จะสนับสนุนซึ่งกันและกันเสมอ ลูกๆ ทุกคนก็โตกันหมดแล้ว คุณแม่เขาก็เลี้ยงเรามาจนโตก็ไม่มีผลกระทบอะไร การจะกลับมาหรือไม่กลับมาเมืองไทยมันเป็นเรื่องความสุขของเขามากกว่าค่ะ มันไม่ใช่เรื่องของการที่เปลี่ยนรัฐบาลแล้วเราจะช่วยประสานงานกับใครให้เขาได้กลับมาอยู่ที่นี่ เพราะจริงๆ วันนี้เขาก็ไม่ได้ติดอะไรนะ เพราะเขาต่อสู่เพื่อให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตย เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่เขามีความสุขมากกว่า”

“จริงๆ แล้วคุณแม่เขาไม่ได้แค่เป็นคนที่มีสีสันแล้วจะมาทำอะไรอย่างนี้นะ คุณแม่เขาเดินขบวนมาหมดทุกขบวนแล้วนะ ตั้งแต่ตอน 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภาทมิฬ เขาเป็นคนที่มีเลือดนักประชาธิปไตยเต็มตัวในตัวเขา ตลอดเวลาที่เขาออกไปเราก็เป็นห่วงเขาเพราะแกก็มีอายุแล้วแม้จะดูวัยรุ่นแต่ก็ 62 ปีแล้ว แต่อย่างที่บอกเมื่อตัดสินใจที่จะทำอะไรก็ต้องยอมรับบางอย่างที่มันเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แกเองก็ยังไม่ได้บอกนะว่าก็จะกลับมาเมื่อไหร่ แม้รัฐบาลจะเปลี่ยนแล้วแกก็ยังไม่ได้บอกอะไร เบื้องต้นยังไม่ได้คิด อย่าให้พูดอะไรมากเลย(ยิ้ม)”

ส่วนความคืบหน้ารายการ “Next Stationพรหมพร” ที่ทำร่วมกับ “เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส” ที่หลุดผังไปจากช่อง 5 เจ้าตัวบอกว่ายังไม่มีความคืบหน้าในการกลับมาเพราะรู้สึกเบื่อกับรายการทีวี ตอนนี้หันไปเบนเข็มทำงานด้านอื่นแล้ว

“ที่มันหลุดผังไปเพราะมีการเปลี่ยนผู้อำนวยการใหม่ของช่อง 5 ก็จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ตอนนี้ก็ตอบไม่ได้ว่าจะยังไงเพราะไม่ใช่ผอ. แต่โดยส่วนตัวค่อนข้างเบื่อธุรกิจทีวีพอสมควรแล้ว เบื่อตรงที่ว่าบางทีเราทำรายการก็ยากอยู่แล้ว แล้วจะทำให้คนติดก็ยิ่งยากแล้วบางครั้งมันไปขึ้นอยู่กับอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่ว่ารายการดีจะได้อยู่ไปตลอดนานๆ เหมือนมีแฟนเป็นคนที่ใช่เขาจะรักเรา ก็มีโอกาสโดนทิ้งได้นะ”

“ตอนนี้ก็เลยขยับขยายไปทำอย่างอื่นกัน ฝนเองตอนนี้ก็ไปช่วยบริษัทหนึ่งบริหารงานที่กำลังจะสร้างโรงแรมอยู่ ส่วนเอิ๊ก(พรหมพร ยูวะเวช) เขาก็ไปทำงานพัฒนาที่ดินอะไรของเขาไป เรื่องจะเอารายการโยกไปไว้ในสถานีเคเบิ้ลทีวีนี่ไม่คิดนะ เอาจริงๆ ก็มีเคเบิ้ลหลายที่ติดต่อมาเยอะมากนะ แต่มันอาจจะไม่ค่อยถนัดด้วยมั้ง แต่ที่สำคัญเลยคือรู้สึกเบื่อ แต่ถ้าสมมติมีจังหวะมันก็ทำได้นะ ทุกวันนี้ทีมงานของเราก็ยังทำงานอยู่นะ บริษัทก็ยังมีงานโปรดักชั่นอยู่ ถ้าเกิดมันมีจังหวะหรือมีเวลาดีก็สามารถกลับมาทำได้ แต่คิดว่าคงจะไม่ทำเคเบิ้ล รอดูช่องฟรีทีวีมากกว่า แต่เราก็ยังไม่ได้ลองเอารายการไปเสนอกับทางช่องอื่นเลย ตั้งแต่วันที่หลุดผังเราก็รู้สึกเหนื่อยมากไม่อยากจะวิ่งเต้นทำอะไรเลย ก็คุยกันบอกไม่เป็นไร”

“โอกาสที่รายการจะกลับมาที่ช่อง 5 เองก็ไม่ทราบค่ะ ถ้าใครทำรายการโทรทัศน์ที่ช่อง 5 จะทราบถึงวัฒนธรรมในองค์กรว่ามันไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ เราจะไปถามท่านได้ว่ายังไง มันพูดไม่ถูก มันเดาอะไรไมได้ ไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง อย่างช่องอื่นเขาอาจจะใช้เรตติ้งเป็นหลัก แต่ช่อง 5 ฝนไม่รู้จริงๆ ว่าเขาใช้ปัจจัยอะไรในการวัด”







กำลังโหลดความคิดเห็น