“ปุ๊กลุก” ไม่โกรธ “วี” ปากไวลดสถานะเหลือแค่อดีตแฟน บอก ฝ่ายชายแค่อำเล่น เชื่อยังเป็นคนสำคัญของกันและอยู่ ท่องคาถาสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม บอก ตอนนี้อยากโฟกัสเรื่องงานมากกว่า ถ้าอนาคตได้คู่กันจริงจะได้เอาเงินจากที่หามาใช้ร่วมกัน ลั่น ถ้าไม่มีเงินที่จะใช้ด้วยกันมันก็เปล่าประโยชน์
แม้จะกลับมารีเทิร์นรักกันอีกรอบ หลังจากที่คาสโนว่าหนุ่ม “วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์” เคยออกมาเผยว่าห่างกับอดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สอย่างสาว “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” แล้ว เหตุต่างคนต่างงานยุ่งทั้งคู่ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน แต่หลังจากนั้นไม่นานฝ่ายหญิงก็ออกมาบอกว่าเคลียร์ปัญหาคาใจกันเรียบร้อย และความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่เมื่อไม่นานมานี้หนุ่ม “วี” กลับมาออกมาพูดทีเล่นทีจริงกลางรายการ “วันวานยังหวานอยู่” ว่าปุ๊กลุกกลายเป็นแค่อดีตแฟนเท่านั้น แต่กับเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้สาว “ปุ๊กลุก” ระคายหูแต่อย่างใด เชื่อฝ่ายชายแค่อำเล่นขำๆ
“ที่พี่วีพูดอย่างนั้น ก็ถ้าเกิดทุกคนได้ดูในรายการก็จะรู้ว่าพี่วีเขาขำๆ แกล้งเล่นมากกว่าค่ะ(หัวเราะ) ไม่สะเทือนใจหรอกค่ะ ตลกมากกว่า คือตอนแรกที่เห็นพาดหัวข่าวก็ตกใจ แต่พอดูแล้วก็เออที่แท้ก็อย่างนี้ คนรอบข้างก็ตกใจค่ะ เพราะมันเป็นพาดหัวข่าวเลย ก็งง หนูก็งงว่าเราคุยทุกอย่างกันเหมือนเดิม แต่ทำไมไปหลุดในวันวานฯ มันคืออะไร เพราะตอนที่หนูไปอัดรายการนี้ก็มีพี่ๆ นักข่าวตามไปสัมภาษณ์ต่อเหมือนกัน แต่ตอนนั้นหนูยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร หนูก็บอกว่าถ้าเกิดพูดเล่นก็คือพูดเล่น หนูไม่ได้ซีเรียส”
“ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมจริงๆ ค่ะ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือเราไม่มีเวลาให้กัน พี่วีก็เล่นออนแอร์เพื่อที่จะปิดกล้องแล้ว ส่วนตัวหนูเองก็เร่งออนแอร์เพื่อที่จะเปิด เวลามันก็เลยยังคาบกันอยู่ แต่ถามว่าห่างกันเกินไปไหม หนูว่าเราห่างกันโดยที่เรามีพื้นที่ส่วนตัว และเรายังมีเวลาที่จะพูดคุยกันปรึกษากัน และเป็นคนที่มีความรู้สึกดีๆ ให้กันเหมือนเดิม จริงๆ ยังไงแล้วหนูคิดว่าเราโฟกัสที่เรื่องงานก่อนดีกว่า เพราะหนูเองก็อยู่ในช่วงที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวให้ตัวเอง ตอนนี้ก็ยังอยากทำงาน ทำหน้าที่ตรงนี้ดีกว่า อยากให้โฟกัสที่งานค่ะ”
ย้ำ สถานะแฟนยังคงเดิม แต่อยากจะเน้นเรื่องการทำงานมากกว่า บอก ถ้าเจอกันแต่ไม่มีงานให้ทำตนก็ไม่เอา
“ถามว่าสถานะยังคงเป็นแฟนไหม ยังไงก็ยังเป็นคนที่สนิทที่สุดอยู่เหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนก็แค่เวลาที่ไม่ได้เจอกันเฉยๆ แต่ความเข้าใจหนูรู้สึกว่ามันมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่เรื่องเวลาที่ไม่ตรงกันนี้หนูว่าตราบใดที่ยังทำงานอยู่ในวงการบันเทิง หนูเชื่อว่ามันไม่มีเวลาให้กันดีกว่าไม่มีงานให้ทำ เราเอางานก่อนดีกว่า ถ้าเกิดสุดท้ายแล้วปลายทางของชีวิตจะได้คู่กัน สุดท้ายแล้วเงินทั้งหมดที่เราหามาก็ได้ใช้ด้วยกัน แต่ถ้าเราไม่มีเงินที่จะใช้ด้วยกันมันก็เปล่าประโยชน์ ฉะนั้นก็มุงานดีกว่าค่ะ”
“คือถ้าใช้กระเป๋าเดียวกัน อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ แต่หนูว่าเรารักที่จะอยู่ตรงนี้เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่มันเป็น และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องความรักหนูคิดว่าเราอยู่เพื่อจะเรียนรู้มันยังไงมากกว่า เราเลือกที่จะรักได้โดยที่เราไม่เจอกัน แต่เราก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กันได้ มันอยู่ที่ความเข้าใจมากกว่า เพราะตราบใดที่ยังอยู่ในวงการบันเทิง เราก็ต้องอยู่กับงานตรงนี้ค่ะ”
เผย ยังมั่นใจในตัว “วี” ว่าจะไม่ไปมีคนอื่น เพราะตนก็ไม่มีใครเหมือนกัน และไม่กดดันที่ถูกเพ่งเล็งเรื่องเลิกไม่เลิก แจง พยายามประคองความรักไปให้ได้ดีที่สุด
“หนูก็มั่นใจว่าพี่วียังให้ความสำคัญกับหนูที่สุดอยู่ และตัวหนูเองก็ยังให้ความสำคัญกับพี่วีเป็นที่สุดเหมือนกัน ก็มีการพูดคุยกันตลอดค่ะ หนูว่ามันสัมผัสได้จากการที่เราพูดคุยกัน แต่ถ้าเกิดวันข้างหน้าจะเป็นยังไง อาจจะมีใครที่เข้ามายังไง หนูว่ามันเป็นสิทธิ์ของทั้งสองฝ่าย แต่ว่าตอนนี้เราอยู่ในความเข้าใจกัน และหนูคิดว่ามันยากที่จะมีใครเข้าใจตรงนี้ เพราะหนูก็เริ่มมาจากความไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลามันถึงไม่ตรงกัน แต่วันนี้มันเข้าใจทุกอย่างแล้ว เพราะตัวเราเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน”
“ส่วนความกดดัน คือหนูก็แค่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่ามันก็มีบ้าง แต่พอมาเจอแบบนี้มันเลยทำให้รู้สึกว่า เราต้องดูแลให้มันผ่านไปให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ ถึงแม้ว่างานจะมาที่หนึ่ง แต่ความรู้สึกดีๆ ก็เป็นสิ่งที่มันอยู่คู่เป็นกำลังใจให้เราในวันที่เราเหนื่อยล้า มันก็ควรจะไปคู่ๆ กัน ถึงแม้ว่าเราจะเลือกงานมาอันดับหนึ่ง ก็พยายามจะพยุงให้ทุกๆ อย่างมันผ่านไปได้ด้วยดี”
“ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในความที่เข้าใจกันดีแล้ว ถึงจะมีใครที่พยายามจะเข้ามาพูดคุยกับเราเพื่อให้เราเหมือนกับขัดเคืองใจกัน แต่จริงๆ มันเหมือนหนูผ่านในจุดที่มือที่สามจะเข้ามา คือหนูผ่านจุดที่จะไม่เชื่อใจไปแล้วค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าตราบใดที่ยังอยู่ ก็จะเชื่อใจจนกว่าจะไม่ได้อยู่แล้ว”