“ธัญญ่า” ปัด ไม่รู้ข่าว “พิ้งกี้” ท้องกับ “เป๊ก” บอก ถ้าจริงก็ยินดีด้วย “ลียา” จะได้มีน้อง

“ธัญญ่า” บินกลับไทยโผล่ออกรายการเปิดใจชีวิตหลังแยกทาง “เป๊ก” เผย เลื่อนหย่าเป็นปีหน้าเพราะมีเหตุจำเป็นบางอย่าง พร้อมปัด ไม่รู้ข่าวลือ “พิ้งกี้” ท้องกับ “เป๊ก” ลั่น ไม่ปักใจเชื่อ แต่ยอมรับเคยถาม แต่อดีตสามีเลี่ยงตอบ อ้างเรื่องนานแล้ว เจ้าตัวใจกว้างบอก ถ้ามีลูกด้วยกันจริงก็ยินดีด้วย “ลียา” จะได้มีน้อง

หลังจากจูงมืออดีตสามี “เป๊ก สัญชัย เองตระกูล” ออกมาแถลงยอมรับว่าได้แยกทางจบชีวิตสามีภรรยากันเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับประกาศถอนฟ้องทั้ง “เป๊ก” และนางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” คู่กรณีไปเมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดวันนี้(7 มิ.ย.) “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ก็ได้อุ้มน้อง “ลียา” ลูกสาววัยน่ารักมาออกรายการ “ราตรีสโมสร” ที่สตูดิโอโพลีพลัส พร้อมกับเปิดใจถึงเรื่องราวความรักสามเส้าที่ทำให้ชีวิตคู่เป็นอันพังทลายอีกครั้งว่า...

“ธัญญ่าเริ่มระแคะระคาย เพราะคนเป็นสามีภรรยากันเมื่อมีไหร่เปลี่ยนไปย่อมรู้ ก็เริ่มเช็คโทรศัพท์ เช็คตอนหลับเพราะเมื่อก่อนเขาไม่ได้ล็อคโทรศัพท์ ก็เลยรู้มาจากการเช็คครั้งนี้ (ชื่อที่บันทึกบางทีเขาก็เปลี่ยนกันได้?) ก็เอาเบอร์โทรบ่อยไปเช็คว่าเป็นใคร พอรู้ก็ช็อค อึ้ง ตัวชาทำอะไรไม่ถูก แล้วตอนนั้นต้องไปบวงสรวงละครด้วย ก็เลยต้องเรียกสติก่อนไป ตอนแรกก็ไม่เชื่อที่คนพูดว่าเป็นคนนี้ แต่พอเห็นจริงๆ ถึงเชื่อ แต่กับคนอื่นอย่างเข็ม(รุจิรา)เราไม่เชื่อเพราะรู้จักกันสนิทกัน”

“ถามว่าทำไมมั่นใจว่าเป็นคนนี้ เพราะเราได้คุยกัน 3 คน ทั้งโทรศัพท์และต่อหน้า ที่ธัญญ่าอัดเสียงไว้เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรในอนาคต แต่ก็ป้องกันตัว แต่ไม่ตั้งใจปล่อย อาจเพราะส่งให้เพื่อนที่เราปรึกษาฟัง และมีหลายอันมาก แล้วสักพักก็ส่งโทรศัพท์นั้นมาขายที่เมืองไทย แต่ลบคลิปหมดแล้ว แต่อาจจะกู้คืนมั้ง”

“ที่ตัดสินใจฟ้องหย่า จริงๆ ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่พอได้ไปอยู่อเมริกานานๆ ก็เลยอยากจบชีวิตคู่ซะให้เรียบร้อย แต่เป๊กไม่ยอม ก็เลยต้องคุยกับทนาย แล้วก็บอกเขาก่อนว่าจะฟ้องแล้วนะ เขาก็บอกไม่เป็นไร พอมีข่าวออกมาก็มาคุยกันอีกหลายรอบ แต่เขาไม่อยากหย่าเพราะเขาสงสารลูก และเขาบอกว่าได้เคลียร์ปัญหาทุกอย่างและจบกับทางนั้นแล้ว อยากกลับมาอยู่กับครอบครัว แต่ธัญญ่าไม่ยอมเพราะเคยพูดแบบนี้ แต่ก็ยังไม่จบอย่างที่พูด ซึ่งก็ยังมีคนอื่น”

โดยในครั้งนี้เจ้าตัวยังได้เผยถึงความคืบหน้าการหย่ากับอดีตสามี “เป๊ก” ด้วยว่า มีเหตุให้ต้องเลื่อนไปเป็นปีหน้า แต่ยังไงก็หย่าชัวร์ ส่วนข่าวที่ลือกันแซดว่า “พิ้งกี้” ตั้งท้องกับ “เป๊ก” นั้น เจ้าตัวยอมรับเคยถาม แต่อดีตสามีเลี่ยงไม่ตอบ

“ธัญญ่ากลับมาถึงเมืองไทย เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค่ะ สภาพจิตใจดีค่ะ แฮปปี้และเข้มแข็งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ต้องกลับมาเคลียร์อะไรแล้ว เพราะเราเคลียร์กันไปตั้งแต่ครั้งก่อน ครั้งนี้ก็พาลียามาหาคุณปู่คุณย่าและมาเจอคนที่เมืองไทยค่ะ แต่ครั้งนี้กลับมาก็อยู่แค่ 1 เดือน เพราะลียาเขากำลังได้เรื่องภาษาอังกฤษ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเกิดยังไม่ได้มีงานละครที่รับไว้ ก็ให้ไปอยู่ที่นู่นก่อน แล้วเมื่อไหร่ที่รับละครก็ค่อยกลับมาอีกทีนึง"

"จะกลับมาอีกทีก็คงอีก 2-3 เดือนมั้งคะ ยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอน แต่มีแพลนจะว่ากลับมาอยู่เมืองไทยถาวรแน่นอนค่ะ แต่ 1 เดือนนี้พี่เป๊กเขามีแพลนว่าอยากจะพาลียาไปต่างจังหวัด ไปนู่นไปนี่ ก็เหมือนให้ลียาเขาได้ใช้ชีวิตกับทางครอบครัวพี่เป๊กได้เต็มที่ อย่างพอมาถึงวันแรกลียาเขาก็เข้าไปหาคุณปู่คุณย่าดี เข้าไปหอม วันนั้นน่ารักค่ะ แต่ว่าตอนนี้เขายังติดธัญญ่าเยอะพอสมควร เหมือนยังไม่ค่อยชินถ้าวันไหนที่ไม่มีเราไปด้วย”

บอก ยังไงก็หย่าแน่นอน เพราะไปเซ็นรับรองกันไว้ที่ศาลและกำหนดวันไว้แล้ว บอกเป็นการตัดสินใจที่แน่นอนแล้ว คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

“เรื่องหย่าจริงๆ เราก็คุยกันไว้แล้วนะคะว่าเราจะหย่ากันวันไหน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้(หัวเราะ) เอาไว้ค่อยบอกอีกทีนึง แต่ยังไม่ใช่ภายในปีนี้ค่ะ คือมีเหตุจำเป็นบางอย่างที่ต้องรอ ที่เว้นช่วงจะมีโอกาสกลับมารีเทิร์นไหมเหรอ จริงๆ เราก็ตกลงเรื่องหย่า และไปเซ็นตกลงกันที่ศาลไว้เรียบร้อย เพียงแต่เรายังไม่ได้จดทะเบียนหย่าเท่านั้นเอง คือมันเป็นเรื่องของเอกสารน่ะค่ะ พี่เป๊กบอกว่าถ้ายังไม่ได้เซ็นใบหย่าก็ยังไม่ถือว่าเลิกเหรอคะ(หัวเราะ) ก็คงต้องดูต่อไปค่ะ แต่จริงๆ เราก็ตกลงกันแล้ว ยังไงก็คงหย่าค่ะ คือจริงๆ พอถึงวันที่เรากำหนดก็ถือว่าหย่ากันแล้ว แต่ ณ ตอนนี้เราก็ไม่ได้อยู่กับแบบสามีภรรยาแล้ว”

“โอกาสครั้งสุดท้ายเหรอ(หัวเราะ) ไม่ทราบ ก็คงไม่มั้ง ไม่รู้ซิ คือตลอดระยะเวลา 1 ปีเราก็คิดและไตร่ตรอง คือคิดเยอะแล้วค่ะ จนถึงวันนี้เราก็ตัดสินใจอย่างดีแล้ว จริงๆ กับคุณพ่อคุณแม่พี่เป๊กก็ไม่ได้อยากให้หย่านะคะ อยากให้อยู่เป็นครอบครัว ถามว่าที่ไม่ยอมใจอ่อนเพราะเรายังไม่ไว้ใจไหม คือมันเหมือนกับช่วงตลอดระยะเวลา 1 ปีเราพยายามที่จะกลับมาเป็นครอบครัว แต่พอมันมาเจอปัญหาอีกก็เลยทำให้เราตัดสินใจที่จะต้องจบดีกว่า”

“แต่ถามว่าตอนนี้พี่เป๊กเขาปรับปรุงตัวหรือยัง อันนี้ธัญญ่าก็ไม่ทราบนะคะ คือเราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนานแล้ว ชีวิตส่วนตัวก็ของใครของมันแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ณ สถานะตอนนี้ก็คือเราแยกทางกัน แต่เราก็ยังต้องไปเจอกัน มีกิจกรรมร่วมกันเพราะลูกค่ะ อยากให้ลียาเขาได้รับความอบอุ่นจากทั้งสองฝ่าย แต่พ้นจุดวิกฤติแล้วค่ะ เราคุยกันด้วยดี ไม่ทะเลาะกัน น้ำตาไม่มีแล้วค่ะ ตอนนี้สดใสร่าเริงแฮปปี้แล้วค่ะ”

“พี่เป๊กง้อไหม(หัวเราะ) พี่เป๊กเขาก็ทำทุกอย่างเหมือนปกติ อย่างกลับมาคราวที่แล้วธัญญ่ากลับมาคนเดียว ก็จะไม่เจอเขาเลย ต่างคนต่างอยู่ แต่บีบีคุยกัน แต่พอมีลูกมามันก็มีเหตุให้ต้องมาเจอกัน มีกิจกรรมร่วมกัน เขาจะไม่ได้มีลักษณะว่ามาง้อ ดีกันเถอะ รักนะอะไรอย่างนั้น แต่บางทีเราก็ทักเขาเหมือนกันนะว่าอะไรเนี่ยพี่ อะไรๆ(หัวเราะ) แต่ก็รู้สึกดีที่ลูกเราได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ถามว่าความรู้สึกมันเหมือนเดิมไหม มันก็ไม่เหมือนเดิม ก็เหมือนกับพอมีลูกอยู่เราก็เป็นพ่อแม่ลูกกัน แต่ถ้าลียาไม่อยู่เราก็เป็นเพื่อนกัน คือมันอาจจะผูกพันมากกว่าเพื่อนหน่อย รู้ใจกันทุกอย่างเพราะอยู่ด้วยกันมานาน”

“แต่ถามว่ายังรักพี่เป๊กอยู่ไหม ก็รักนะคะ แล้วก็เป็นห่วง ไม่ใช่ว่าพอเลิกกันแล้วจะตัดขาดกันไปเลย มันมีความรักที่พี่เป๊กเขาก็เป็นพ่อของลูกเรา และพี่เป๊กก็เป็นคนที่จิตใจดี รักเราและจะรักคนรอบข้างเรา รักครอบครัวเราด้วย ก็คือเป็นพ่อของลูก แต่ไม่ใช่สามีแล้ว แต่ส่วนเรื่องสินสมรสก็จะมีเรื่องค่าดูแล และมีตกลงกันเรื่องวันว่าลูกจะอยู่กับใครวันไหน ส่วนเรื่องเงิน 100 ล้านไม่มีค่ะ แต่อยากได้(หัวเราะ)”

“ตอนนี้ที่กลับมา 1 เดือนลียาก็ไปนอนบ้านพี่เป๊กค่ะ แต่บ้านที่ธัญญ่าอยู่ตอนนี้ก็คืออยู่ในบริเวณเดียวกัน ธัญญ่าก็แค่ไปกล่อมนอน แล้วพอลูกหลับเราก็เดินกลับมาที่บ้าน พอลูกตื่นก็ไปหาอีก(หัวเราะ) แต่ความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเป็น 3 คนพ่อแม่ลูก จริงๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่นะคะ มีกิจกรรม ไปทะเลก็ยังไปด้วยกันอยู่ เพียงแต่มันไม่เหมือนเดิม คือมันเพื่อลูกจริงๆ ค่ะ และถ้าวันนึงลียาโตแล้วเขาถาม ก็ต้องอธิบายถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เราก็คงไม่สร้างเรื่องอะไรขึ้นมาให้สวยงาม สวยหรูให้ลูกเราต้องรับรู้แบบนั้น ก็ต้องบอกไปตามความจริงค่ะ”

พร้อมยินดีด้วยถ้า “เป๊ก” เจอสาวคนใหม่และจะแต่งงานด้วย แต่ถ้าสำหรับตนคงต้องคิดอีกนาน แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครเข้ามา แต่คิดว่าคงไม่มีใครกล้ามากกว่า

“ถ้าหย่ากันแล้วและพี่เป๊กมีคนใหม่จะทำใจได้ไหม จริงๆ ที่ผ่านมาก็ทำใจมาตลอด(หัวเราะ) ฉะนั้นก็คงไม่มีอะไรที่ทำใจไม่ได้แล้วล่ะ ถ้าเขาแต่งงานใหม่ก็ยินดีกับเขาด้วย แต่สำหรับตัวธัญญ่าเองก็ตอบยากนะคะ เพราะว่ามันเพิ่งผ่านมาไม่นาน ก็คงต้องใช้เวลานานนิดนึง ซึ่งจะกับพี่เป๊กหรือจะกับคนใหม่ก็แล้วแต่ คือเราก็ไม่รู้ว่านะ ความรักมันอาจจะสวยหรู สวยงามอยู่แค่ไม่กี่ปี แต่หลังจากนั้นมันอาจจะมีอาฟเตอร์ช็อคขึ้นมาก็ได้ เราก็ไม่รู้ ก็ดูไปเรื่อยๆ อย่าไปคาดหวังอะไรเยอะ ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเข้ามานะคะ เพราะว่าธัญญ่าอยู่บ้านตลอด หรือไม่ก็พาลูกไปซุปเปอร์ ไปเดินเล่นแค่นั้นเองค่ะ ไม่ได้ออกไปเจอผู้คน ก็เลยไม่เจอใคร แต่ถามว่าปิดตัวเองไหม ก็ไม่ได้ปิด แต่ว่าใครจะกล้าเข้ามา(หัวเราะ)”

ปัดไม่รู้ข่าว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ท้องกับ “เป๊ก” แต่รับเคยแซวอดีตสามี แต่ไม่ได้รับคำตอบ บอกแต่เพียงว่ามันนานแล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงตนก็น้อมยอมรับที่ “ลียา” จะได้มีน้องเพิ่ม

“ข่าวว่าน้องคนนั้นท้องเหรอคะ ธัญญ่าไม่ได้คุยกับพี่เป๊กเรื่องนี้เลย แต่ก็มีคนมาถามเราเหมือนกัน แต่ธัญญ่าก็บอกว่าไม่รู้ ไปถามพี่เป๊กดีกว่า คือมันเหมือนตอนที่คลิปออกมาแล้วธัญญ่าก็ไปแซวเขา คราวนี้ก็ประมาณว่าจะมีลูกเพิ่มอีก 4-5 คนเหรอ(หัวเราะ) เขาก็ยิ้มๆ บอกว่าบ้า มันนานแล้ว แต่ถามว่าเชื่อไหม ก็คงไม่มั้งคะ เอ๊ะหรือว่า(หัวเราะ) คงไม่มั้งคะ แต่ถ้าเกิดมีจริงๆ ก็แสดงความยินดีแล้วกันมันจะยังไงได้ล่ะ ถ้าเกิดเป็นเรื่องจริงก็ไม่ยังไง ลียาก็มีน้องเพิ่ม(ยิ้ม)”

เผย มีละครติดต่อเข้ามา แต่ยังไม่ได้รับเรื่องไหนเป็นพิเศษ ปัดยังไม่ได้รับการติดต่อจาก “ปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์” ของทีวีซีน เรื่อง “รากบุญ” แต่ถ้ามีละครก็พร้อมกลับมาอยู่เมืองไทยถาวร

“ละครก็มีติดต่อเข้ามาค่ะ มีคุยๆ อยู่ แต่ยังไม่ได้สรุปอะไร แต่ยังไม่ใช่ “รากบุญ” นะคะ เท่าที่ทราบยังไม่ใช่ แต่มีคนมาถามเหมือนกัน แต่ธัญญ่าก็บอกไปว่ายังไม่มีการติดต่อมา คิดว่าคงเป็นการเข้าใจผิด ก็มีผู้จัดติดต่อมานะคะ แต่ไม่ได้เยอะมาก ปกตินะ ไม่ได้เยอะกว่าเดิม แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้ตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่เมืองไทยก็เลยยังไม่ได้รับไว้ แต่คิดว่าคงจะเร็วๆ นี้ ถ้ามีละครก็คงจะกลับมาอยู่ถาวรค่ะ”

“ก็อยากจะขอบคุณทุกๆ กำลังใจเลย เพราะว่าทุกๆ กำลังใจทำให้เราเข้มแข็งได้จริงๆ นะ ไม่ว่าจะทางอินเตอร์เน็ตหรือว่าไปเจอแฟนละครที่ไหน ที่เข้ามาจับมือเราและพูดประโยคดีๆ เขียนประโยคดีๆ มาถึงเรา มันทำให้เรารู้สึกว่าก็ยังมีคนที่รักเราและให้กำลังใจเราอยู่ ก็ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ(ยิ้ม)”