xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อกลุ่มไอดอลกิมจิต้องแบ่งเงิน : วิธีใดจึงเป็นธรรม ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

2PM
สำนักข่าว KBS ได้แจกแจงถึงหลักการแบ่งเงินรายได้ ของกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ป และบอยแบนด์ในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีอยู่ 2 รูปแบบแตกต่างกัน ระหว่างการแบ่งเงินอย่างเท่าเทียมกันสำหรับสมาชิกทุกคน และแบ่งรายได้ตามชื่อเสียงกับจำนวนงานของสมาชิกแต่ละคน เป็นสองวิธีที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

ศิลปินวัยใสกลายเป็นดาวเด่นในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนต่างสงสัยมาโดยตลอดว่า เด็กวัยรุ่นเหล่านี้ได้ค่าตอบแทนอย่างไร โดยเฉพาะสำหรับวงเกิร์ลกรุ๊ป และบอยแบนด์ ที่มีสมาชิกจำนวนมาก นอกจากนั้นแต่ละคนต่างมีชื่อเสียง และงานไม่เท่ากัน

มาด้วยกัน, ดังด้วยกัน รับเงินเท่ากัน

2PM และศิลปินอีกหลายกลุ่ม เลือกที่จะใช้หลักการแบ่งเงินให้กับสมาชิกแต่ละคนอย่างเท่าเทียมกันทั้งรายได้ส่วนร่วม และรายได้ส่วนตัว ต้องนำมารวมกันทั้งหมด

แม้สำหรับกลุ่มศิลปินที่มีจำนวนสมาชิกตั้งแต่ 9 คนขึ้นไปการแบ่งส่วนรายได้แบบนี้อาจจะทำได้ยากขึ้นไปอีก แต่ในสายตาของเอเยนซี่หลายแห่ง ก็ยังยืนยันว่านี่คือหลักการที่จำเป็น และยุติธรรมที่สุด

JYP ที่ได้รับคำยกย่องว่าให้ความยุติธรรมกับศิลปินในสังกัดมากที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นเอเยนซี่ที่ใช้ระบบ "แบ่งเท่า" เช่นเดียวกับ CUBE Entertainment โดยตัวแทนของ JYP อธิบายในเรื่องนี้ว่า

"ถ้าสมาชิกแต่ละคนได้งานเดี่ยว มันก็เพราะว่าเขาโด่งดังจากการเป็นสมาชิกของวงมาก่อน เพราะฉะนั้นรายได้จากงานเดี่ยว ก็ควรจะแบ่งให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ด้วย ในฐานะที่ช่วยสร้างชื่อเสียงมาด้วยกัน ในตอนนี้ กีควัง จาก BEAST หรือ ฮยอนอา จาก 4minute เป็นคนที่มีงานเดี่ยวมากกว่าเพื่อน ๆ ในวง แต่รายได้ทั้งหมดก็ยังต้องนำมาแบ่งกัน"

กรณีของ "นิชคุณ"

อย่างไรก็ตามการแบ่งส่วนรายได้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อย ที่แตกต่างกันไปตามแต่ข้อสัญญาของแต่ละกลุ่มศิลปิน โดยสำนักข่าวแห่งเกาหลีใต้ เลือกใช้หนุ่มไทย นิชคุณ หรเวชกุล แห่งบอยแบนด์ 2PM เป็นกรณีศึกษาในประเด็นนี้

โดยในเร็ว ๆ นี้ นิชคุณ เพิ่งได้งานโฆษณาไอศครีมยี่ห้อหนึ่งในเกาหลีใต้ จากนั้นก็เดินทางไปถ่ายทำโฆษณาในเมืองไทย หลังจากกลับมาเกาหลีใต้เขายังไปปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ และได้ร่วมแสดงทีวีซีรีส์เรื่องหนึ่งด้วย

ซึ่งจากงานต่าง ๆ เหล่านี้มีข้อมูลว่า นิชคุณต้องแบ่งรายได้จากโฆษณาไอศครีมให้กับเพื่อน ๆ สมาชิกวง 2PM ของเขาอย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่รายได้จากงานโฆษณาในเมืองไทยเป็นส่วนของนิชคุณแต่เพียงคนเดียว

นอกจากนั้นค่าตัวในการปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ต่าง ๆ ยังจะถูกแบ่งให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ของ 2PM เช่นเดียวกัน แต่สำหรับค่าตัวจากงานแสดงจะเป็นของ นิชคุณ เพียงคนเดียว

ซึ่งการแบ่งเงินรายได้ลักษณะนี้มาจากข้อสัญญาที่ระบุเอาไว้ว่ารายได้ส่วนตัวของสมาชิก 2PM แต่ละคน ต้องถูกแบ่งให้กับสมาชิกทุกคนเท่า ๆ กัน แต่สำหรับนิชคุณจะมีข้อยกเว้นสำหรับงานในประเทศไทย อันเป็นบ้านเกิดของเขา ที่นักร้องหนุ่มชื่อดังสามารถรับเงินได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเป็นงานที่มาจากชื่อเสียงความนิยมโดยส่วนตัวของเขาเอง

ดังมากได้มาก ดังน้อยได้น้อย

อย่างไรก็ตามยังมีเอเยนซี่บางแห่งที่ใช้ระบบอื่น รวมถึงหลักการที่ว่าใครมีชื่อเสียงและงานมากกว่า ก็สมควรจะมีรายได้มากกว่า รวมถึง SM Entertainment เอเยนซี่ยักษ์ใหญ่ ที่มีนักแสดงนักร้องในสังกัดมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มบอยแบนด์ และเกิร์ลกรุ๊ป ซึ่งแต่ละวงต่างก็มีสมาชิกบางคนมีชื่อเสียง และงานมากกว่าเพื่อน ๆ หลายเท่า

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในกรณีนี้ก็คือ ยุนอา และ แทยอน จาก Girls' Generation หรือ คิมฮีซอล และ อีทึก จาก Super Junior ที่มีงานส่วนตัวมากกว่าเพื่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด และกลายเป็นที่มาของรายได้ก้อนโตกว่าเพื่อนด้วย

พนักงานในบริษัทเอเยนซี่คนหนึ่งยอมรับว่า วิธีการแบ่งรายได้แบบนี้ ทำให้สมาชิกแต่ละคนมีรายได้แตกต่างกันมาก และบางทีก็สร้างบรรยากาศแปลก ๆ ขึ้นมาระหว่างวงได้เหมือนกัน "เพราะส่วนต่างรายได้ระหว่างสมาชิกคนที่ได้เงินมากที่สุด กับน้อยที่สุดใน Super Junior มีช่องว่างมาก ทำให้บางทีความรู้สึกของสมาชิกแต่ละคนในการรวมกลุ่มกันก็ค่อนข้างแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน"+

แต่ก็เป็นเรื่องยุติธรรมเมื่อมองในมุมว่า สมาชิกคนดังกล่าวต้องทำงานมากกว่าเพื่อน ถึงจะได้รายได้มากกว่า

เช่นเดียวกับในกรณีของ Pledis Entertainment ต้นสังกัดของ After School ที่มี ยูอี และ ปาร์กกาฮี เป็นสมาชิกที่มีงานส่วนตัวแซงหน้าเพื่อน ๆ ในวง และ Core Contents Media ต้นสังกัดของ T-ara ที่ ฮัมอึนจอง และจียอน เป็นดาวเด่น ก็เลือกที่จะใช้หลักการ "ตัวใครตัวมัน" เช่นเดียวกัน

แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างสำหรับ Core Contents Media ที่ตัวของบริษัทจะเป็นผู้รับรายได้ในส่วนของการร่วมรายการวาไรตี้ต่าง ๆ ของนักร้องนักแสดงในสังกัดไปทั้งหมด เพราะบริษัทมองว่าการปรากฏตัวในรายการลักษณะนี้ก็ถือว่าเหล่าดารานักร้องได้โปรโมตตัวเองไปแล้ว นอกจากนั้นเงินที่ได้รับจากรายการวาไรตี้ยังเป็นจำนวนที่น้อยมาก เหล่าเด็กในสังกัดจึงไม่ค่อยจะติดใจทวงถามอะไรกับรายได้ส่วนนี้

ข้อสรุปคนวงใน "วิธีไหนก็สร้างปัญหาได้ทั้งนั้น

ในตอนท้าย KBS อ้างความเห็นจาก "คนวงใน" ผู้หนึ่งว่าคงไม่สามารถตัดสินได้ว่า รูปแบบการแบ่งรายได้ระหว่างสมาชิกในกลุ่มศิลปินแบบใดจะดีกว่ากัน เพราะต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

"ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน มันก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ ในกรณีที่สมาชิกทุกคนต้องแบ่งรายได้เท่า ๆ กัน คนที่ทำงานมากที่สุดก็จะบ่นมากที่สุด ในทางตรงกันข้ามถ้าเลือกในแบบรายได้ของใครของมัน คนที่ดังน้อยที่สุด และมีรายได้น้อยที่สุด ก็จะบ่นมากที่สุด เรื่องของเรื่องก็คือวงไอดอลพวกนี้เกิดง่าย และแตกกันได้ง่ายมาก"

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

นิชคุณ
BEAST
4Minute
ยุนอา แห่ง Girls Generation
ฮีซอล จาก Super Junior
After School
T-ara
กำลังโหลดความคิดเห็น