xs
xsm
sm
md
lg

อีกคลิป “กุมหำล่อนจ้อน” ประจาน สงกรานต์' 54

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศสงกรานต์ที่สีลมปีล่าสุด
ไม่เฉพาะแต่คลิป “โชว์เต้า เด้งหน้า เด้งหลัง” ที่ย่านถนนสีลมเท่านั้น ยังมีคลิปหนุ่มแก้ผ้ากุม “หำน้อย” เต้นสนุกสนานวันสงกรานต์อีก ปีนี้ … ต้องบอกว่า ที่สุดแห่งความเสื่อม - อุจาดของเทศกาลสงกรานต์มาถึงแล้ว เนื่องจากมีหลักฐานแน่ชัด มัดแน่น ที่ผ่านมา ...ในแต่ละปีแม้จะมีเรื่องฟังกันมา เล่ากันไป แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่โดดเด่น ชัดเจนเท่ากับครั้งนี้ เห็นชัดๆว่า สงกรานต์คือ Sex Festival ที่มีน้ำกับแป้งเป็นทางผ่าน ระบายความหื่นกระหายให้สังคมได้สะเทือนใจเล่น
 

คลิปวิดีโอความยาว 3 นาทีกว่าๆ ที่ผู้หญิง 3 คน ปลดยกทรง เปลือยอก แกว่งเต้า ยืนโยกย้ายส่ายสะโพกบนรถกระบะสนุกสนานไปกับเสียงเร่งเร้าของจังหวะเพลง ท่ามกลางเสียงเชียร์ “ถอดเลย ถอดเลย” คลิปนี้อาจจะเป็นที่รับรู้ของคนในสังคมวงกว้างและถูกกล่าวถึงมากที่สุด แต่ยังมี “คลิป” อื่นอีก …

เพื่อไม่ให้น้อยหน้า ในวาระใกล้เคียงกัน แต่ไม่ค่อยมีคนรู้และสนใจมากนัก เป็นคลิปของ “เพศผู้” ที่อยู่ในความสนุกสนาน เริงร่า และถลกกางกางเปลือย มีเพียงมือที่กำห่อไอ้ช้างน้อยไว้เท่านั้น ส่วนจะเป็นพื้นที่ใด ไม่แจ้งชัด !!

หลักฐาน 2 ชิ้นนี้ เป็นการชี้ให้เห็นว่า สงกรานต์ที่เราละเล่นกันอยู่ในทุกวันนี้ เกินเลยไปมาก !!

สงกรานต์ตามความเข้าใจของคนยุคนี้ คือ 1. สามารถสาดน้ำใส่กันได้ตามอำเภอใจ 2. เปิดโอกาสให้สามารถล่วงละเมิดทางเพศฝ่ายตรงข้าม ตั้งแต่เรื่องเบาๆ ลูบหน้า เบียดชิด เสียดสี จับเนื้อต้องตัว ควักนมสาว ล้วงหำหนุ่มได้โดยไม่ผิดกฎหมาย !! 3. สามารถหาซื้อเครื่องดื่ม ของมึนเมาได้ตลอดเส้นทางของการเล่น น้ำ โดยไม่มีใครสนใจกับเรื่อง “ปลอดเหล้าวันสงกรานต์” แม้แต่น้อย เรื่องทำนองนี้ เกิดขึ้นทุกปี แต่เป็นข่าวบ้าง ไม่เป็นข่าวบ้าง ถ้าเป็นเรื่องเป็นราวก็ถือว่า เป็นเรื่องระหว่างบุคคลตามกรณีนั้นๆ

อยากจะบอกว่า เรื่อง “ควักนม - กุมหำ” ที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ปีนี้ เป็นผลพวงหนึ่งที่ถูกพัฒนาอย่างเป็นขั้น เป็นตอน จากเรื่องสาดน้ำ - แตะเนื้อต้องตัว - ดื่มเหล้า - ไร้สำนึกที่สะสมมาก่อนหน้านี้หลายปี โดยที่หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร, การท่องที่ยวแห่งประเทศไทย, กระทรวงวัฒนธรรม และรวมถึงเขตต่างๆ คิดแต่เรื่อง “ส่งเสริมการท่องเที่ยว” หาได้สำเหนียกว่า หลายเรื่องที่ส่งเสริมอยู่นั้น ในทางกลับกัน เข้าไปทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามและวิถีชุมชนอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนส่งผลเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาในปีนี้ !!

ถนน “สีลม” โดนชำเราแล้ว
สีลม ที่ควรพูดถึง ไม่เฉพาะแต่คลิปของ 3 สาวนี้เท่านั้น !! หากแต่ “สีลม” ณ วันนี้กลายเป็นพื้นที่ซึ่งถูกชำเรา โดยกลุ่มคนร้อยพ่อพันธุ์แม่ที่ไหลบ่าเข้าไปในจำนวนเรือนแสน แออัดแน่นขนัดจนสูญเสียเอกลักษณ์ แต่เดิม “สีลม” เมื่อนับถอยหลังไป 10 ปีก่อนเคยมีคนเข้าไปเดินเล่นน้ำประแป้งกันพอหอมปากหอมคอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนักเที่ยวยามค่ำคืนบนถนนสายนี้ ดารามากหน้าหลายตา คนหนึ่งที่น่าจะยืนยันความสนุกสนานได้ดีคือ “เต๋า” สมชาย เข็มกลัด และผองเพื่อน !! สีลมในครั้งนั้น คลาคล่ำไปด้วยหนุ่ม - สาวหน้าตาดี และใครที่เคยไปเล่นน้ำที่สีลมเมื่อสัก 4-5 ปีก่อน ยังบอกได้ว่า “ทั้งสนุกและทั้งเจริญหูเจริญตา” แต่วันนี้ … สีลมจนเละเทะไม่เป็นท่า

ทางสำนักงานเขตฯ ที่ไม่ได้คิดที่จะจัดระเบียบการเล่นสงกรานต์ แต่สนับสนุนการท่องเที่ยวและการละเล่นสงกรานต์ด้วยการให้พ่อค้าแม่ขายเข้าไปตั้งโต๊ะจำหน่ายสินค้าต่างๆ กันจนเต็มแน่นทั้งฟุตปาธไม่เหลือพื้นที่ในการสัญจรสำหรับคนเดินเท้าแม้แต่นิ้วเดียว

เหตุการณ์เกือบเหยียบกันตายที่ถนนสีลมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ผู้คนเรือนแสนก็ทยอยกันไปหาความสำราญใส่ตัวในพื้นที่ที่รองรับคนได้ในหลักหมื่น ฟุตบาธก็ถูกจับจองด้วยร้านค้าที่ตั้งติดกันแบบแผงชนแผง เหล้าเบียร์วางจำหน่ายทุกสามก้าว บรรยากาศไม่ต่างอะไรจากผับแบบไร้รั้วรอบขอบชิดที่ปล่อยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมั่วสุมมึนเมา เหล่าเด็กแว้นมีชัยภูมิสำหรับดื่มเหล้าเสพยาและล่าผู้หญิง ยิ่งการเล่นสงกรานต์ที่สีลมมีการประแป้งเป็นปกติธรรมดาด้วยแล้ว ก็เหมือนการเปิดโอกาสให้เด็กแว้นและไม่แว้นที่หื่นกามทั้งหลายได้เข้าไปถูกเนื้อต้องตัวลวนลามหญิง ลูบแก้มปะจมูก ลูบจมูกไล่เลยมาถึงหน้าอก ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาความแออัดของผู้คนที่สีลมเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างกล่าวขวัญ เป็นการเบียดเสียดแบบไหล่ติดไหล่ เป้าติดก้น นมเบียดหลัง ใครใคร่จะจับจะคว้าส่วนไหนของใครก็ทำได้ไม่ยากนัก จึงเกิดกรณีสาวๆ ถูกจับก้นจับนม หนุ่มๆ ถูกขยำไข่มาหลายต่อหลายราย

คนที่ได้เห็นภาพของสีลมในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาถึงกับตั้งคำถามว่า คนเบียดกันขนาดนั้นแล้วมันจะเล่นสงกรานต์กันได้ยังไง?

เมื่อ “ข้าราชการ” ร้อน !!
คลิป “สาวสงกรานต์ 2554 บนถนนสีลม” นำไปสู่การเข้าไป “แจ้งความ” จับโดย นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตบางรัก พร้อมยอมรับกับสาธารณชนด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ว่า “ส่วนหนึ่งที่ต้องออกมาแจ้งความจับผู้หญิงเหล่านั้นก็เพราะทนกระแสสังคมกดดันไม่ไหว” !! บันทึกไว้ระหว่างบรรทัดนี้ให้ชัดแจ้งว่า ท่านผอ. อยากให้มีการดำเนินคดีแก่ผู้ที่ส่งเสียงเชียร์ และคนที่เผยแพร่ภาพวิดีโอดังกล่าวด้วย

แต่เราต่างก็รู้ดีว่าการจะไปตามจับคนร่วมร้อยในที่เกิดเหตุกับคนอีกหลายพันที่ส่งต่อคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายดายนัก นอกจากนี้ ยังมีหลายคนที่ตั้งคำถามว่าขณะเกิดเหตุตำรวจไปไหน ซึ่งก็มีบางคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุตอบสวนกลับมาอย่างรวดเร็วว่า “พวกมันก็ยืนดูอยู่แถวนั้น แถมบางคนยังร่วมร้องตะโกนว่า ถอดเลยๆ ด้วยอีกต่างหาก” !!

ล่าสุดผู้ใหญ่ในกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามแต่ประสงค์จะแสดงรอยหยักในสมองอันชาญฉลาด ได้เสนอว่าการปรับ 500 บาทฐานกระทำอนาจารในที่สาธารณะเป็นโทษที่ไม่สาสมกับความผิดที่น้องนางทั้งสี่ได้ร่วมกันก่อขึ้น จึงขอให้พวกเธอได้ไปบำเพ็ญประโยชน์ลบล้างความผิดด้วยการไป “อ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์” ให้ด็กๆ ฟัง!!

งานนี้ ต้องขอปรบมือให้ “ข้าราชการ” ที่มีมันสมองเป็นเลิศและสำนึกเป็นเยี่ยม !!

เรื่องพวกนี้ พิจารณาบ้างดีมั้ย
เป็นที่ทราบกันว่า “ข้าวสาร” ชัดเจนในเรื่องจุดขายของการท่องเที่ยวแห่งปรเทศไทยกับชาวต่างชาติ !! แต่ละปี เราได้จำนวนเงินจากนักท่องเที่ยวเหล่านี้ในช่วงสงกรานต์ไม่น้อย เมื่อเห็นว่า การละเล่นบนถนนสายนี้คึกคัก ใครก็ไม่รู้ (บุคคล - หน่วยงาน) ก็พยายามจะลากเอา “วัฒนธรรมคนกรุง” นี้เข้าไปยังชุมชนของตน จนเกิด “ถนนข้าว” ทั้งหลายแหล่ที่ปรากฏในเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ ถนนข้าวเหนียว (ขอนแก่น), ถนนข้าวเม่า (มหาสารคาม) , ถนนข้าวทิพย์ (จันทบุรี), ถนนข้าวสุก (อ่างทอง), ถนนข้าวแต๋นและหาดหินขาว (น่าน), ถนนข้าวแช่ (ปทุมธานี) , ถนนข้าวสังข์หยด (พัทลุง) , ถนนข้าวปุก อ.ปาย (แม่ฮ่องสอน) , ถนนข้าวขนมเส้น (แพร่), ถนนดอกไม้และสายน้ำ (อุบลราชธานี), ถนนข้าวเย็น (ศรีสะเกษ) , ถนนข้าวก่ำ (กาฬสินธุ์), ถนนข้าวเปียก (อุดรธานี) , ถนนข้าวปุ้น (นครพนม), ถนนข้าวฮาง (สกลนคร), ถนนข้าวหลาม (อ.เชียงคาน จ.เลย) , ถนนข้าวแดง (ทัณฑสถานจังหวัดเลย) , ถนนข้าวลอดช่อง (ยโสธร) , ถนนข้าวแช่ข้าวยำ ครับ (สุราษฎร์ธานี), ถนน ข้าวโป่ง (โคราช), ถนนข้าวหอมมะลิ (ร้อยเอ็ด) , ถนนข้าวยำ (ปัตตานี) , ถนนข้าวสุก (วิเศษชัยชาญ อ่างทอง) , ถนนข้าวโพด (อุตรดิตถ์) , ถนนข้าวซอย (แถวกาดบุญอยู่-คูเมือง เชียงใหม่), ถนนข้าวหลาม (เลย - เป็นถนนเฉพาะกิจสำหรับเทศกาลสงกรานต์โดยเฉพาะ ตั้งอยู่บริเวณถนนรอบสวนสุขภาพกุดป่อง) เป็นต้น

คงจะเหลือแต่ “ถนนข้าวยากหมากแพง” ที่ยังไม่มีจังหวัดไหนคิดตั้ง เรื่องการเอาวัฒนธรรมเมืองไปใส่ในชุมชนเป็นเรื่องอันตราย หากเราไม่รู้เท่าทัน !! เพราะมันเป็นการทำลายรากฐานแห่งวัฒนธรรมโดยแท้

ขณะที่ “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” ถูกประชาสัมพันธ์จากการท่องเที่ยวอย่างครึกโครม ก็มีการสนับสนุนเรื่อง “ไหว้พระ 13 วัด” ด้วย โดย เลข 13 นี้พัฒนาต่อยอดมาจาก 9 วัดในช่วงวันปีใหม่ - ตรุษจีน ด้วยเห็นว่า เลข 13 นี้ เป็นตัวเลขแทนวันสงกรานต์

บอกบุญด้วยการแจกหนังสือเดินทาง 1 เล่ม เพื่อสะสมตราประทับเพื่อรับของที่ระลึก !! ความจริง ถ้าเป็นพุทธศาสนิกชนโดยแท้ ย่อมรู้ว่า การไหว้พระ 1 วัดด้วยจิต สมาธิแน่วแน่ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมมีบุญเสมอด้วย (อาจจะมากกว่า) 9 วัด หรือ 13 วัด (วัดพระแก้ว, วัดโพธิ์, วัดสุทัศน์, วัดสระเกศ, วัดบวร, วัดชนะสงคราม, วัดระฆัง, วัดแจ้ง, วัดกัลยาณ์, วัดราชโอรส, วัดราชประดิษฐ์, วัดราชบพิธ, วัดพระราม 9 ) การสร้างค่านิยม “สะสมตราประทับ” ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก ร้านสะดวกซื้อ (ดีที่ไม่ถามว่า จะรับ สบง - จีวร มั้ยค่ะ) ทั้งยังไม่ได้กำหนดกฎกติกา การแต่งตัวและวางตัวในวัด !! ดังนั้น … หลายคนที่มีโอกาสไปตั้งใจไหว้พระคงจะไปเห็นพฤติกรรมและการแต่งกายของคนบางคนที่ไม่ถูกต้องตามกาลเทศะ ไม่เคารพสถานที่ วัดถูกเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก“ความสงบ” ให้เป็น “แหล่งท่องเที่ยว” ก็เป็นการสนับสนุนพุทธพาณิชย์ยิ่งกว่าเรื่องหลักธรรมและความรู้

และตลอดเส้นทางที่ขสมก. วิ่งผ่านไปยังวัดต่างๆนั้น ผู้ตั้งใจไปทำบุญซึ่งนั่ง - ยืนกันอยู่บนรถต้องเผชิญกับน้ำที่ถูกสาดขึ้นไปบนรถอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เล่นสงกรานต์หาได้สำนึกเลยว่า บุคคลบนรถเหล่านี้ออกจากบ้านมาเพื่อไปวัดทำบุญ หาใช่ออกมาเล่นสาดน้ำไม่

แต่เดิมนั้น การสาดน้ำวันสงกรานต์เป็นการละเล่นในหมู่คณะพวกเดียวกันเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีคนจำนวนมาก เข้ามาร่วมสนุก การสาดน้ำก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา การเปลี่ยนไปนี้กลับถูกปล่อยให้เป็นไปตามอำเภอใจ หาได้กำหนด กฎ กติกาการละเล่นร่วมกันไม่ วันนี้ เมื่อความเสื่อมมาถึงที่สุดแล้ว การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงย่อมตามมา แต่การเปลี่ยนจะดีขึ้นหรือเลวลง ย่อมขึ้นอยู่กับสติปัญญาและจิตสำนึกของคนในหน่วยงานที่รับผิดชอบ

 ความจริง … เทศกาลสงกรานต์นี้ ชุมชนแต่ละแห่งน่าจะกำหนดการจัดงานที่อาจจะแตกต่างกันไป เพื่อให้เกิดความหลากหลาย ให้เป็นไปตาม วัฒนธรรมของแต่ละท้องที่ หรือวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม ให้หน่วยงานเหล่านี้มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์และสนับสนุนในบางด้านเพื่อความเหมาะสม ใครชอบการสนุกสนานแบบไหนไปแบบนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องสาด...สาด … สาด... เหมือนกันทั้งประเทศ



…......................................................................
คนแน่นขนาดนี้ พี่เล่นกันเข้าไปได้ยังไง?
คลิปฉาวสี่น้องนางสะบัดเต้า
อีกคลิปที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ...ไอ้หนุ่มกุมหำ!!

หลายร้านใน RCA เรียกคนด้วยสาวๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น