ประเพณีสงกรานต์ นอกจากจะเป็นเทศกาลสำคัญของบ้านเราแล้ว ยังเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยโดยแท้ ที่คนไทยอย่างเราๆ ยึดเอาเป็นวันเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในชีวิต เช่นเดียวกับคนดังในวงการบันเทิง ที่พร้อมใจกันเดินตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ “ในหลวง” เอาฤกษ์เอาชัยเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยการทิ้งความหรู เลิกสิ่งไม่จำเป็น หันมาตื่นตัวกับสิ่งที่พระองค์ท่านทรงพร่ำสอน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อชีวิตที่ดีของตัวเอง
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ เหล่าบรรดาดาราที่หลายคนมองว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้ชีวิตแบบหรูหรา ยึดติดกับความสวยความงาม อยู่ในสังคมที่แสนจะฟู่ฟ่า เสื้อผ้าต้องแบรนด์เนมเพราะอยากอัพเกรดตัวเอง แต่ก็ยังมีดาราอีกส่วนหนึ่งที่ได้เดินตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป
“แอนดี้ เขมพิมุก” เผย ซาบซึ้งในภารกิจที่พระองค์ท่านได้ทำเพื่อคนไทย บอก อย่างน้อยอยากเตือนสติคนรอบข้างให้รู้จักใช้ชีวิตพอเพียง แต่ถ้าพูดไม่ได้ก็จะดูไว้เป็นแบบอย่างที่จะไม่ทำตาม ภูมิใจได้มีโอกาสทำรายการ “ฉันรักเมืองไทย” ออกอากาศทางช่อง 9 ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยยังนำแนวทางของ “ในหลวง” ไปใช้ก็มี
“ผมมีความประทับใจหลายๆ อย่างมาก โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง บางคนอาจทำไม่ได้และคิดว่าคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงอาจหมายถึง งก ผมจะบอกว่าภารกิจที่พระองค์ท่านได้ทำเพื่อคนไทยมากมายนับไม่ถ้วนนั้น ผมมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีประโยชน์หมด อย่างแนวทางที่ท่านบอกให้เราปลูกต้นไม้คนละ1 ต้น 60 ล้านคนก็ 60 ล้านต้น เพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อธรรมชาติของเรา ธรรมชาติก็คือมนุษย์เราหันมาเอาใจใส่บ้าง หรือเรื่องน้ำในหลวงบอกน้ำคือทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าคนไทยขาดน้ำก็จะไม่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นต้น”
“หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านบอกก็เพื่อคนไทยทั้งนั้น ท่านมองการณ์ไกลกว่าพวกเรามาก หรือโครงการอื่นๆ ของพระองค์ เช่น ฝนเทียมพระองค์ท่านก็คิดแล้วเมืองนอกก็เอาไปใช้ ท่านบอกเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่เราเพิ่งมาเริ่มทำกัน ถามว่ามันช้าไปไหมก็ไม่ช้าหรอก ถ้าตราบใดที่เรามีลมหายใจและเรายังมีท่านอยู่”
“ในฐานะที่ผมเป็นศิลปินดารา แล้วเห็นเพื่อนดาราบางคนยังติดหรู ผมต้องบอกตรงๆ ว่าอาจจะไม่มีสิทธิ์ไปวิจารณ์ใครได้นะ มีแต่ถ้าคนไหนคุยได้เปิดใจด้วยได้เขาเข้าใจก็จะคุย แต่ถ้าเขาอยู่สูงเกินไปก็คงไม่อะไรมากมาย คงได้แต่มองเขาเป็นตัวอย่าง ว่าเราคงไม่ทำเหมือนเขา คงไม่เสนอตัวออกให้เขาทำแบบนั้นแบบนี้ หวังว่าถ้าเขาได้เห็นอะไรบางอย่างก็คงเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“ทุกวันนี้อาจทำอะไรได้ไม่มาก แต่ผมอยากจะบอกว่าวันนี้เราพอเพียงแล้ว แต่คนรอบข้างเราพอหรือยัง ผมมองคนที่ไม่รู้จักพอไว้เพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา คนเรามีความทะเยอทะยานไม่เหมือนกัน บางคนซื้อแต่แบรนด์เนมไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ใช้พวกเงินกู้สุดท้ายก็มีแต่หนี้สิน ปัจจุบันหนี้คนไทยเยอะมาก เรามีแค่สิบแต่จะเอาเป็นหมื่น มีหนี้มากก็ฆ่าตัวตาย หนี้เยอะก็มีมิจฉาชีพ มนุษย์ย่อยมีกิเลส แต่ทำยังไงให้น้อยที่สุด กลับมาหวนคิดถึงพระองค์ท่านนิดหนึ่ง”
“ที่ผมทำรายการฉันรักเมืองไทยได้อะไรจากแขกรับเชิญมากเลยนะ ทั้งความรู้คำสอน บางทีแขกรับเชิญสอนผมก็มี หรือบางคนก็นำเอาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงไปใช้ก็มี เขาทำให้ผมรู้สึกว่าเขารักเมืองไทยนะ เขาหวงและห่วงเมืองไทยไม่แพ้คนไทยเลย ทุกอย่างสื่อให้เห็นว่าเขารักในหลวงเหมือนกัน แต่รายการที่ผมทำไม่ได้ตั้งใจสอนคนไทยนะ แต่อยากให้เห็นในอีกมุมหนึ่งมากกว่า เหมือนกระจกสะท้อนออกมาให้คนไทยได้เห็นว่า เราลืมอะไรไปหรือเปล่าแค่นั้นเอง”
“บางครั้งที่เขาพูดถึงในหลวงเขาจะร้องไห้ตลอด เขาภาคภูมิใจในความปรีชาสามารถของท่าน ว่าท่านคิดได้อย่างไร ถามว่ามันสะเทือนใจไหม เอาเป็นว่าผมต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่เลยล่ะ ว่าฝรั่งเขาคิดได้ยังไงถ้าคนไทยคิดได้ก็ยังไม่แปลกใจ ฝรั่งเขาคิดแล้วเขาก็ทำได้ด้วย”
เช่นเดียวกับนางแบบสาว “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” ลั่น ถึงจะเป็นนางแบบทำงานกับความสวยงามและของแบรนด์เนมก็จริง แต่ก็ไม่เคยติดหรูใช้ชีวิตอย่างติดดินมาโดยตลอด เชื่อถ้าคนไทยเดินตามปรัชญาในหลวงจะเหลือกินเหลือใช้
“สำหรับเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับบีเอง ตอนนี้ก็ได้ทำบ้าง แต่จะทำที่ง่ายๆ แบบประหยัดไฟ อย่าเปิดแอร์จะยังไงก็เวลาเปิดแอร์จะแค่ 25 องศาเซลเซียสเท่านั้น ใช้น้ำก็จะประหยัดอะไรที่ทำก็ทำ อีกอย่างอาชีพเดินแบบเราต้องซื้อเสื้อผ้าซื้อของก็จะไม่ใช้แบรนด์เนมจ๋า ซื้ออะไรที่มันเป็นของคนไทยอุดหนุนของคนไทยมากกว่า ไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อนนางแบบคนอื่นเขาก็ทำแบบนี้นะ คนอื่นอาจจะคิดเห็นว่านางแบบต้องไฮโซหรูหรา แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เราติดดินสุดๆ แล้วง่ายๆ อะไรก็ได้ด้วยซ้ำไป”
“จริงๆ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง บีเชื่อนะว่าถ้าคนไทยทำตามแนวทางของพระองค์ท่านทุกคนจะมีความสุข มีกินมีใช้ เพราะบีเชื่อคนไทยทุกคนรักในหลวง มีเท่าไหร่ให้ใช้เท่านั้น อย่าไปละโมบโลภมาก หรืออยากได้อยากมี เราอยู่อย่างพอเพียงชีวิตจะมีความสุขและแฮปปี้แน่นอน”
ด้านฝาแฝดผู้พี่อย่าง “เพชร รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล” ดาราและพิธีกร แนะวัยรุ่นอย่าใช้เงินเกินตัว บอก ให้เลือกเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้นานๆ พร้อมเชิญชวนทุกคนได้ทำความดีถวายในหลวง
“ในฐานะที่เพชรเป็นวัยรุ่นจะบอกว่า ความจริงแล้วเราต้องรู้ว่าเรามีทรัพย์เท่าไหร่ ก็อย่าใช้เกินตัว ไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นมีแล้วเราอยากมีบ้าง เหมือนกับว่าเรารู้ตัวตนฐานะของเราแค่ไหน ก็ใช้แค่นั้น อย่างเวลาเราทำงานตรงนี้เวลาซื้อเสื้อผ้าเราก็ต้องดูต้องคิดแล้วคิดอีก ว่าซื้อเสื้อผ้าชิ้นนี้จะใส่ได้บ่อยไหม ไม่ใช่สักแต่ซื้อๆ มันก็เหมือนประหยัดไปได้อีกด้วย เรื่องซื้อของแพงๆ ความจริงมันก็อยู่ที่ตัวเรานะ ถ้าเรามีงบก็สามารถซื้อของแพงๆ ได้ เราอาจซื้อให้เป็นของขวัญให้ตัวเองสักชิ้นก็ได้ แต่ตัวเพชรเองเราจะมิกซ์แอนด์แมทด้วยซ้ำ ชอบไปซื้อของมือสองราคาร้อยกว่าบาท ก็มาใส่หาชุดอื่นให้แมทขึ้นได้”
“เพชรอยากบอกว่าภารกิจที่พระองค์ท่านได้ทำให้คนไทยใหญ่หลวงนัก ซึ่งเพชรเองก็เป็นคนตัวเล็กๆ ที่สามารถพอจะทำอะไรให้พระองค์ท่านได้ถึงมันจะเป็นสิ่งเล็กๆ เทียบไม่ได้กับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ แต่อย่างน้อยเพชรก็ยังได้ทำอะไรสักอย่างที่เป็นการทำดี อย่างน้อยคิดดีทำดีหรือมีสามัญสำนึกที่ดี อะไรที่เราทำดีทุกอย่างมันก็ออกมาดี สังคมเราก็จะดีตามไปด้วย”
“แล้วก็อย่าคิดร้าย แค่สิ่งเล็กๆ ทุกคนช่วยกันทำสังคมเรามันก็จะน่าอยู่มากขึ้น ตอนนี้ท่านทรงประชวรอยู่ ท่านได้ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้านเมืองเยอะมาก ท่านทรงงานหนักทำทุกอย่างให้ประชาชนชาวไทย เพชรทราบว่าทุกคนรักในหลวง อยากให้ทุกคนได้ทำความดีถวายพระองค์ท่าน ทำอะไรก็ได้เล็กๆ น้อยๆ”
ขณะที่ “พิตต้า ณ พัทลุง” เผย ได้นำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้แล้ว โดยเริ่มต้นทำสิ่งง่ายๆ คือการประหยัดน้ำหรือการดึงปลั๊กไฟที่ไม่ใช้ออก โดยผลก็คือสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้
“สำหรับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของในหลวง สำหรับตัวต้าร์เองก็ได้ใช้เหมือนกันอย่างเวลาซื้อของก็จะซื้ออะไรที่จำเป็นเท่านั้นไม่ฟุ่มเฟือย ตอนนี้ที่ทำได้แล้วคือการปิดไฟในห้องที่ไม่ใช้ คุณพ่อก็จะให้เราดึงปลั๊กไฟที่เราไม่ได้ใช้ มันจะได้ไม่เปลืองไฟ แล้วมันก็ได้ผลค่าไฟลดลงด้วย ซึ่งต้าร์เชื่อนะ คนไทยทุกคนรักพระองค์ท่านอยู่แล้ว แม้แต่ชาวต่างชาติก็รักในหลวง"