แรกๆ ก็นึกว่าจะเป็นแค่การสร้างข่าวขึ้นมาลอยๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มเป็นจริงเป็นจังเสียแล้ว กับกรณีที่จะมีการเอาเรื่องราวชีวิตของอดีตนักร้อง "นาธาน โอมาน" ซึ่งเข้าไปเสวยผลกรรมอยู่ในคุกมาสร้างเป็นภาพยนตร์
ตัวตั้งตัวตีก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหนึ่งในคนที่เคยใกล้ชิดกับเจ้าตัวอย่าง "ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” นั่นเอง
ตามข่าวว่ากันว่าตอนแรกเจ้าตัวนั้นถึงขนาดที่จะดึงเอานักแสดงหนุ่มสุดฮอตแห่งยุค "ณเดชน์ คูกิมิยะ" มาเป็นนักแสดงนำ ทว่าเจ้าตัวได้ปฏิเสธไป ก่อนจะมีข่าวตามออกมาเป็นระลอกสองว่าคนที่จะมารับบทดังกล่าวอาจจะเป็นพระเอกดังขายดีแห่งยุคอีกคนอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" นั่นเอง
ใครจะแสดงเป็นพระเอก ใครจะเป็นนางเอก หรือใครจะเล่นเป็นกะเทย ตุ๊ด เกย์ ชะนีอะไร ผมไม่สนหรอกครับ แต่สำหรับความรู้สึกแรกของผมทันทีที่ได้รับทราบข่าวนี้ ด้วยความสัตย์จริงอย่าหาว่าหยาบ...จะสร้างหาหอกอะไรครับ?
อาจจะเป็นการด่า แต่ก็แค่ 20% ส่วนอีก 80% นั้นมันเป็นคำถามด้วยความสงสัยจริงๆ นะครับ
ไม่ได้ดูถูกกันแต่ ด้วย "ศักยภาพ" "คุณภาพ" หรือแม้กระทั่ง "ภาพลักษณ์" ของผู้ที่คิดจะทำนั้น บอกตรงๆ ด้วยความปรารถนาดีว่าอย่าดีกว่า
ถูกด่าแน่ๆ เจ๊งแน่ๆ ครับ
หรือต่อให้มองกันอย่างเข้าใจและเป็นธรรมโดยตัดเรื่องที่ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วข่าวที่ออกมาก็แค่คนบางคนต้องการสร้างกระแสโดยไม่ได้มีความคิดที่จะทำกันจริงๆ รวมถึงไอ้ที่บอกว่าจะเอาคนนั้นคนนี้มาเล่นก็แค่อยากให้เป็นข่าวทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าโอกาสที่จะได้คนนั้นคนนี้มาเล่นจริงๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้ กระทั่งเป็นไปไม่ได้เลย ผมก็ยังมองไม่ออกจริงๆ ครับว่าหนังเรื่องนี้จะมีอะไรเป็นจุดขาย
จะบอกว่าหนังจะแฉให้เห็นถึงวิธีการโกง เทคนิคการหลอกลวง การสร้างเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้คนดูไว้เป็นตัวอย่างจะได้ไม่ถูกคนเยี่ยงนี้หลอกเอาหรือก็ดูจะยากทีเดียว
เพราะแม้อดีตนักร้องคนนี้จะสร้างวีรเวรไว้หลายเรื่องกระทั่งเป็นข่าวมากมาย ทว่าส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของการหากินโดยอาศัยความ "กะล่อน" ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความ "หน้าด้าน" และคราบไคลในการเป็นคนที่พอจะมีชื่อเสียงของเจ้าตัวมากกว่าหาได้เกี่ยวกับปฏิภาณไหวพรอบอะไรแต่อย่างใด
ขณะที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีบ้างบางส่วนที่อาจจะหลงเชื่ออย่างสนิทใจอาจจะด้วยหลักฐานและเรื่องราวที่น่าเชื่อถือของอีกฝ่ายก็จริง ทว่าส่วนใหญ่ผมว่าก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในข่ายที่ "พอจะรู้ตัว" แต่ทว่าก็พร้อมที่จะถูกหลอกเหตุเพราะมีเรื่องของความรักความพิสวาท ความสงสารส่วนบุคคลเป็นที่ตั้งแทบจะทั้งนั้น
ไม่เห็นว่ามันจะมีเทคนิคอะไรที่ซับซ้อนพอที่จะต้องเอามาแฉกันเลย
ถ้าจะมองประเด็นนี้ผมว่าเรื่องแชร์ลูกโซ่ เรื่องแก๊งค์ตุ๋นเงินผ่านทางเอทีเอ็มอะไรยังจะน่าสนใจกว่าว่าทำไมถึงยังมีคนตกเป็นเหยื่อกันอย่างต่อเนื่องๆ ทั้งๆ ที่ก็มีข่าวจับกุมคนผิดกันออกมาจะบ่อย
กรณีของ นาธาน นี่คนละเรื่องกันเลยนะครับกับกรณียอดนักตุ๋นระดับโลกอย่าง "แฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์" ที่ผู้กำกับชื่อดังอย่าง "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" นั้นถูกใจเรื่องราวจากหนังสือของเขามากๆ จนต้องเอามาสร้างเป็นหนังดังหลายปีก่อนอย่าง "Catch me if you can" พร้อมดึงเอา 2 ดาราดังอย่าง "ลีโอนาร์โด ดีคาปริโอ" กับ "ทอม แฮงส์" มารับบทจอมตุ๋นระดับโลกผู้แสนฉลาดกับคู่ปรับเอฟบีไอที่แสนเฉลียว
คนนี้ต้องบอกว่าของแท้ทั้งในเรื่องของการเป็นคนที่ฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบที่เป็นเลิศ
เพราะเขาสามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเขาเป็นทั้งนักบิน เป็นแพทย์ เป็นผู้ช่วยอัยการ ตลอดจนเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยเรียนเรื่องการบิน ไม่เคยเรียนหมอ ไม่เคยเรียนกฏหมาย ตลอดจนเรียนไม่จบแม้กระทั่งมัธยมปลายเสียด้วยซ้ำไป
ขณะที่เหยื่อของเขานั้นแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ทั้ง เอฟบีไอ อัยการ ตำรวจ(ท้องถิ่น) สายการบิน นักบิน แอร์โฮสเตส นายธนาคาร โรงแรม โรงพิมพ์ ลูกค้าธนาคาร อธิการบดี แพทย์ ฯลฯ
ด้วยวัยเพียง 20 กว่าเท่านั้นแฟรงค์สามารถใช้พรสวรรค์ในการตุ๋นหาเงินได้เป็นพันๆ ล้านบาท กระทั่งกลายเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในหลายๆ ประเทศ ทั้ง สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ สวีเดน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ กรีซ เดนมาร์ก นอร์เวย์ ตุรกี อียิปต์ เลบานอน ไซปรัส ฯ
ทั้งหนังสือ "แฟรงก์ อบาเนล ยอดนักตุ๋น" และภาพยนตร์ "Catch me if you can" นั้นนอกจากจะอ่านและดูสนุก รวมถึงชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ขององค์กรต่างๆ ที่มิจฉาชีพจะสามารถเดินเข้าไปหาผลประโยชน์ได้แล้ว ทั้งหนังสือทั้งภาพยนตร์ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าถ้าใครคนใดสักคนมุ่งมั่นจะเป็นอะไรสักอย่าง คุณก็สามารถที่จะเป็นมันได้จริงๆ
เพียงแต่ในท้ายที่สุดคุณก็ไม่สามารถหนีพ้นไปจาก "ผล" ที่ตัวเองได้ก่อกรรมไว้จริงๆ
*จริงไม่จริงลองไปถามคนที่นอนอยู่ในคุกดู
...
หมายเหตุ:*กรณีที่เจ้าตัวคิดได้นะ
ตัวตั้งตัวตีก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหนึ่งในคนที่เคยใกล้ชิดกับเจ้าตัวอย่าง "ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” นั่นเอง
ตามข่าวว่ากันว่าตอนแรกเจ้าตัวนั้นถึงขนาดที่จะดึงเอานักแสดงหนุ่มสุดฮอตแห่งยุค "ณเดชน์ คูกิมิยะ" มาเป็นนักแสดงนำ ทว่าเจ้าตัวได้ปฏิเสธไป ก่อนจะมีข่าวตามออกมาเป็นระลอกสองว่าคนที่จะมารับบทดังกล่าวอาจจะเป็นพระเอกดังขายดีแห่งยุคอีกคนอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" นั่นเอง
ใครจะแสดงเป็นพระเอก ใครจะเป็นนางเอก หรือใครจะเล่นเป็นกะเทย ตุ๊ด เกย์ ชะนีอะไร ผมไม่สนหรอกครับ แต่สำหรับความรู้สึกแรกของผมทันทีที่ได้รับทราบข่าวนี้ ด้วยความสัตย์จริงอย่าหาว่าหยาบ...จะสร้างหาหอกอะไรครับ?
อาจจะเป็นการด่า แต่ก็แค่ 20% ส่วนอีก 80% นั้นมันเป็นคำถามด้วยความสงสัยจริงๆ นะครับ
ไม่ได้ดูถูกกันแต่ ด้วย "ศักยภาพ" "คุณภาพ" หรือแม้กระทั่ง "ภาพลักษณ์" ของผู้ที่คิดจะทำนั้น บอกตรงๆ ด้วยความปรารถนาดีว่าอย่าดีกว่า
ถูกด่าแน่ๆ เจ๊งแน่ๆ ครับ
หรือต่อให้มองกันอย่างเข้าใจและเป็นธรรมโดยตัดเรื่องที่ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วข่าวที่ออกมาก็แค่คนบางคนต้องการสร้างกระแสโดยไม่ได้มีความคิดที่จะทำกันจริงๆ รวมถึงไอ้ที่บอกว่าจะเอาคนนั้นคนนี้มาเล่นก็แค่อยากให้เป็นข่าวทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าโอกาสที่จะได้คนนั้นคนนี้มาเล่นจริงๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้ กระทั่งเป็นไปไม่ได้เลย ผมก็ยังมองไม่ออกจริงๆ ครับว่าหนังเรื่องนี้จะมีอะไรเป็นจุดขาย
จะบอกว่าหนังจะแฉให้เห็นถึงวิธีการโกง เทคนิคการหลอกลวง การสร้างเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้คนดูไว้เป็นตัวอย่างจะได้ไม่ถูกคนเยี่ยงนี้หลอกเอาหรือก็ดูจะยากทีเดียว
เพราะแม้อดีตนักร้องคนนี้จะสร้างวีรเวรไว้หลายเรื่องกระทั่งเป็นข่าวมากมาย ทว่าส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของการหากินโดยอาศัยความ "กะล่อน" ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความ "หน้าด้าน" และคราบไคลในการเป็นคนที่พอจะมีชื่อเสียงของเจ้าตัวมากกว่าหาได้เกี่ยวกับปฏิภาณไหวพรอบอะไรแต่อย่างใด
ขณะที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีบ้างบางส่วนที่อาจจะหลงเชื่ออย่างสนิทใจอาจจะด้วยหลักฐานและเรื่องราวที่น่าเชื่อถือของอีกฝ่ายก็จริง ทว่าส่วนใหญ่ผมว่าก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในข่ายที่ "พอจะรู้ตัว" แต่ทว่าก็พร้อมที่จะถูกหลอกเหตุเพราะมีเรื่องของความรักความพิสวาท ความสงสารส่วนบุคคลเป็นที่ตั้งแทบจะทั้งนั้น
ไม่เห็นว่ามันจะมีเทคนิคอะไรที่ซับซ้อนพอที่จะต้องเอามาแฉกันเลย
ถ้าจะมองประเด็นนี้ผมว่าเรื่องแชร์ลูกโซ่ เรื่องแก๊งค์ตุ๋นเงินผ่านทางเอทีเอ็มอะไรยังจะน่าสนใจกว่าว่าทำไมถึงยังมีคนตกเป็นเหยื่อกันอย่างต่อเนื่องๆ ทั้งๆ ที่ก็มีข่าวจับกุมคนผิดกันออกมาจะบ่อย
กรณีของ นาธาน นี่คนละเรื่องกันเลยนะครับกับกรณียอดนักตุ๋นระดับโลกอย่าง "แฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์" ที่ผู้กำกับชื่อดังอย่าง "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" นั้นถูกใจเรื่องราวจากหนังสือของเขามากๆ จนต้องเอามาสร้างเป็นหนังดังหลายปีก่อนอย่าง "Catch me if you can" พร้อมดึงเอา 2 ดาราดังอย่าง "ลีโอนาร์โด ดีคาปริโอ" กับ "ทอม แฮงส์" มารับบทจอมตุ๋นระดับโลกผู้แสนฉลาดกับคู่ปรับเอฟบีไอที่แสนเฉลียว
คนนี้ต้องบอกว่าของแท้ทั้งในเรื่องของการเป็นคนที่ฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบที่เป็นเลิศ
เพราะเขาสามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเขาเป็นทั้งนักบิน เป็นแพทย์ เป็นผู้ช่วยอัยการ ตลอดจนเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยเรียนเรื่องการบิน ไม่เคยเรียนหมอ ไม่เคยเรียนกฏหมาย ตลอดจนเรียนไม่จบแม้กระทั่งมัธยมปลายเสียด้วยซ้ำไป
ขณะที่เหยื่อของเขานั้นแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ทั้ง เอฟบีไอ อัยการ ตำรวจ(ท้องถิ่น) สายการบิน นักบิน แอร์โฮสเตส นายธนาคาร โรงแรม โรงพิมพ์ ลูกค้าธนาคาร อธิการบดี แพทย์ ฯลฯ
ด้วยวัยเพียง 20 กว่าเท่านั้นแฟรงค์สามารถใช้พรสวรรค์ในการตุ๋นหาเงินได้เป็นพันๆ ล้านบาท กระทั่งกลายเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในหลายๆ ประเทศ ทั้ง สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ สวีเดน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ กรีซ เดนมาร์ก นอร์เวย์ ตุรกี อียิปต์ เลบานอน ไซปรัส ฯ
ทั้งหนังสือ "แฟรงก์ อบาเนล ยอดนักตุ๋น" และภาพยนตร์ "Catch me if you can" นั้นนอกจากจะอ่านและดูสนุก รวมถึงชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ขององค์กรต่างๆ ที่มิจฉาชีพจะสามารถเดินเข้าไปหาผลประโยชน์ได้แล้ว ทั้งหนังสือทั้งภาพยนตร์ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าถ้าใครคนใดสักคนมุ่งมั่นจะเป็นอะไรสักอย่าง คุณก็สามารถที่จะเป็นมันได้จริงๆ
เพียงแต่ในท้ายที่สุดคุณก็ไม่สามารถหนีพ้นไปจาก "ผล" ที่ตัวเองได้ก่อกรรมไว้จริงๆ
*จริงไม่จริงลองไปถามคนที่นอนอยู่ในคุกดู
...
หมายเหตุ:*กรณีที่เจ้าตัวคิดได้นะ
