“อ้อม พิยดา” พร้อมเพื่อนคนบันเทิง “บุ๋ม-เก๋-ตอง-เอ๊ะ” ลั่นพร้อมถวายชีวิตตายแทนในหลวง-พระราชินี ที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทยมาโดยตลอด วอนอย่าเชื่อข่าวลือและหันกลับมาสามัคคีกัน
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันทีต่อกรณีที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานวโรกาสพิเศษให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ถนนวิภาวดีรังสิต ถึงเรื่องราวส่วนพระองค์ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงงานอย่างหนักเพื่อคนไทย พร้อมตรัสขอความเป็นธรรม จากการที่มีข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับสถาบันในแง่ลบออกมากระทั่งเป็นที่พูดถึงไปทั่ว
ไม่เว้นแม้แต่คนบันเทิงหลายต่อหลายคนที่ออกมาพูดคุยถึงเรื่องนี้เช่นกัน ไล่ไปตั้งแต่นางเอกสาว “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล” ที่เผยว่าพร้อมที่จะตายแทน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้โดยไม่มีข้อแม้
“ในความรู้สึกของอ้อม รักในหลวงมากนะคะ ถามตอนนี้ว่าถวายชีวิตได้ไหม ได้เลย ไม่มีลังเล ถามว่าตายแทนท่านได้ไหม ตายแทนได้ เพราะฉะนั้น คนที่เรารักขนาดนี้ทั้งพระราชินี และในหลวง ทรงเป็นผู้ปกครองประเทศของเรา รักและห่วงใยราษฎรของพระองค์ท่านมาตลอดระยะเวลาที่พระองค์ท่านครองราชย์มา จนถึงปัจจุบันพระองค์ท่านก็ยังทรงห่วงใย ดูจากเหตุการณ์ภาคใต้เกิดภัยพิบัติ ท่านก็ช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและเข้าถึงประชาชนเต็มที่ แม้ว่าตัวท่านจะไม่สามารถเสด็จฯ ไปได้ อ้อมเชื่อว่าถ้าท่านไม่ได้ประทับอยู่ที่โรงพยาบาล ท่านคงจะต้องลงพื้นที่และช่วยเหลือพสกนิกรของท่านเองด้วยพระองค์เองอยู่แล้ว ก็คงไม่มีคำอื่นนอกจากถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพระองค์ท่าน อ้อมสามารถตายแทนท่านได้ทั้งสองพระองค์”
“แต่เรื่องที่สังคมเรายังคงมีความแตกแยกนี้ อ้อมว่าแล้วแต่คนคิด คือเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคนนั้นถูกคนนี้ถูก แล้วแต่คนคิดว่าสิ่งไหนเหมาะกับตัวเอง สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ ถ้ารู้ว่าสิ่งไหนควรทำและรู้ว่ามันไม่ดีแล้วยังทำ ก็คือเป็นการตัดสินใจของเขา แต่ถ้าอันไหนรู้ว่าดีแล้วเราตั้งใจทำนั่นก็คือสิ่งที่ดี อ้อมว่าทุกคนมีสติ มีความรู้อยู่แล้ว และรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทำหรือไม่เลือกทำ ก็ต้องแล้วแต่ตัวบุคคลของแต่ละคนไป เราไม่สามารถไปบอกว่าคนนั้นดีคนนี้ไม่ดีไม่ได้ เราไม่สามารถตัดสินใครได้ แต่เรารู้ตัวเราเองว่าเราทำอะไรอยู่เท่านั้นเอง เราเป็นคนดีไหม เราทำอะไรอยู่ เราต้องรู้ตัวเองว่าเราทำอะไรไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี”
“ถ้าถามว่าอ้อมจะทำอะไรเพื่อพระองค์ท่านบ้าง ตัวอ้อมเองที่ตั้งใจทำงานให้ดีมาตลอด และทำทุกๆ อย่างให้เต็มความสามารถให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เวลาที่เราท้อถอยหมดกำลังใจ บางทีก็จะเอาเพลงพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย) ที่ร้องให้ท่านเป็นกำลังใจให้เรา เพราะว่าในหลวงยังทรงงานหนักเพื่อประชาชนขนาดนี้ แล้วเราเป็นประชาชนตัวเล็กๆ ทำไมเราจะทำหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายของเราให้ดีที่สุดเพื่อความบันเทิงของคนทุกๆ คนไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่อ้อมทำอยู่ตลอด หรือว่าเวลาเราทำอะไรเราก็ทำเต็มที่ทุกอย่างที่เราต้องทำออกไปค่ะ”
“บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี”
“จริงๆ แล้วเรื่องตรงนี้ถ้าเป็นใครที่ติดตามข่าวหรือว่าติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านจะรู้ว่าทุกหยาดเหงื่อทุกความตั้งใจของพระองค์ท่าน บอกได้เลยว่าท่านทำเพื่อประชาชนคนไทย ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่อยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งยังทรงงานเพื่อคนไทยมาตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใดสามารถทำได้เสมอเหมือนท่าน ดังนั้นสิ่งต่างๆ ถ้าเราได้ซึมซับและเรียนรู้มาตั้งนานแล้ว บอกได้เลยว่าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ของเราคงไม่ต้องตรัสขนาดนี้ แต่นี่คงจะมีความเข้าใจผิดหรือว่ามีการปลุกระดมกันแปลกๆ”
“อย่างที่เขาบอกว่าล้มล้างระบอบสถาบัน ซึ่งจริงๆ แล้วคำนี้เราไม่อยากให้ได้ยินด้วยซ้ำไป ไม่อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ ด้วยซ้ำไป เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน รวมถึงชาวต่างชาติเองที่เคารพนับถือพระองค์ท่านก็มีเยอะมาก ดังนั้นบอกได้เลยว่าอยากให้พระองค์ท่านทุกๆ พระองค์ ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ดำรงอยู่ตลอดไป อย่างน้อยก็มีคนไทยก็บุ๋มคนหนึ่งล่ะที่จะยอมถวายหัวและชีวิตที่จะให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงอยู่ต่อไป เพื่อเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกเราค่ะ ยังเชื่ออย่างนั้นอยู่ ดังนั้นอยากจะให้พระองค์ท่านสบายพระทัย”
“แต่การที่สังคมไทยเรายังไม่กลับมาสามัคคีกันได้สักที มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เมืองไทยเราเป็นประเทศที่น่าอิจฉามากนะ บุ๋มไปอยู่มาแล้วหลายประเทศในโลกใบนี้ บุ๋มไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศมาเยอะ บอกได้เลยว่าประเทศไทยน่าอยู่ที่สุด เรามีประเทศที่น่าอยู่ เรามีสังคมที่น่ารัก แต่เราไม่เอามาใช้ เราไม่อยู่อย่างมีความสุข เราพยายามทำลายในสิ่งนั้นๆ เราอยู่กันอย่างสุขจนเกินไป พอมีภัยพิบัติเกิดขึ้นก็เฮละโลไปช่วยกันสักทีนึง”
“แต่เราลืมไปว่าสิ่งพื้นฐานสำคัญของชีวิตจริงๆ แล้ว คือการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข และมีอิสระเสรีภายใต้ระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย นี่คือสิ่งที่เราโชคดีมากที่สุดแล้ว แต่เราลืมไปไง สบายจนเกินไป บางทีมันเศร้าที่ยังเห็นความแตกแยกกันอยู่ ใครสีไหน สีอะไรบางทีมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาแบ่งแยกกันอย่างนี้แล้ว เราคนไทยเหมือนกัน เลือดสีเดียวกัน เรารักในหลวงเหมือนกัน เราน่าจะปรองดองกันได้แล้วค่ะ ท่านก็เหนื่อยมาเยอะแล้ว”
“บุ๋มเป็นธุลีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจริงๆ บุ๋มคิดว่าตัวเองเป็นธุลีที่โชคดีที่เห็นก้าวพระบาทของพระองค์ท่านลงไปตามพื้นที่ต่างๆ ท่านไปหนักกว่าเราเยอะ ดังนั้นถึงมีงานการกุศลอะไรบุ๋มมาเต็มที่ตลอด บริจาคทุกอย่าง จะสมาคมไหนจะอะไรถ้าหากบุ๋มมาได้ มีเวลาว่าง ต่อให้จะเหนื่อยจากงานขนาดไหน บุ๋มก็จะทำ เพราะบุ๋มถือว่าเรายังทำอะไรได้น้อยกว่าพระองค์ท่านเยอะมาก ดังนั้นจะเป็นดาราหรือจะเป็นใครก็ตาม ทำดีกว่าไม่ทำ คนละเล็กละน้อยในการทำความดี อย่างน้อยเราทำตัวเองให้อยู่ในศีลห้า ให้อยู่ในการทำความดี สังคมจะอยู่เป็นสุขขึ้นอีกเยอะจริงๆ แค่นั้นเอง ขอให้ทุกคนตั้งมั่นกับการทำความดี จะทำเพื่อตัวเองหรือจะทำเพื่อในหลวงท่านทุกอย่างก็ทำเพื่อสิ่งดีๆ ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“เก๋ ชลลดา เมฆราตรี”
“เราในฐานะพสกนิกรชาวไทย เราทำหน้าที่ของความเป็นคนไทยดีที่สุดอยู่แล้ว และตัวเก๋เองไม่ต้องห่วงเลย องค์พระราชินี และองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่เหนือสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว คือไม่แตะต้อง ไม่ลบหลู่ และที่สำคัญคือรักโดยไม่มีเหตุผล รักโดยปราศจากเงื่อนไข อะไรก็ตามที่เป็นงานของในหลวง ของพระราชินี พวกเราทำไม่เคยยั่น จะขึ้นเหนือล่องใต้เราไม่เคยมีปัญหาเลย จะถวายความจงรักภักดีอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เก๋เองก็ไปช่วยภาคใต้มาแล้ว อยากทำเพื่อท่าน เรื่องอื่นไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ใครคนอื่นเราไม่รู้นะ แต่ตัวเก๋เองเพื่อนๆ และครอบครัวเราถวายความจงรักภักดีอย่างแน่นอนค่ะ”
“แต่สังคมตอนนี้เก๋ว่ามันมีความหลากหลายของความเห็น คนเรามีสิทธิมีความเห็นไม่ตรงกันนะคะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดถ้าเรารักความเป็นคนไทย รักผืนแผ่นดินไทย รักเลือดเนื้อเชื้อความเป็นคนไทยของเรา เก๋เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราต้องทำอะไรเพื่อเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่า ความคิดเห็นส่วนตัวเราออกความเห็นได้ เรามีสิทธิมีความขัดแย้งได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันคือแผ่นดินไทยของเรา อย่าแบ่งแยกให้เป็นหลากสีกันเลยค่ะ”
ตอง ภัครมัย โปรตระนันท์
“อันนี้ไม่ต้องมีความเห็นอะไรมากเลย ขอเพียงแค่ได้รู้ ไม่ต้องเอ่ยเลย คือรู้กันอยู่แล้ว แค่ท่านทรงตรัสแค่นี้รู้อยู่แล้วว่าอะไรเกิดขึ้น ก็รักกันเถอะค่ะ ถ้าถามตอง ณ วันนี้ ในสิ่งที่ตองเห็นพอมันเกิดปัญหาขึ้นกับภาคใต้ เราก็ไม่มีสีแล้วนะ คนไทยเราเองเป็นคนที่ค่อนข้างกระตือรือร้นมากๆ นะ พอเวลาเราเห็นคนไทยด้วยกันลำบากปั๊บก็หมดแล้วค่ะ จริงๆ มันมีแค่ปมนิดเดียว เราแก้ไขตรงนั้นนิดเดียวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเหมือนเดิม”
“ใครที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินไทยแล้ว ตองรู้สึกว่ามีบุญที่สุดแล้ว ประเทศเราไม่ต้องไปลำบากเหมือนประเทศอื่น ไม่ต้องทำงานยังมีกิน หาปลาก็ได้ ปลูกผักก็ขึ้น บางประเทศปลูกอะไรก็ไม่ได้ เลี้ยงปลายังตาย ซึ่งนี่มันเป็นสิ่งที่เราได้สร้างสมมาเยอะมากแล้ว ตองก็เลยคิดว่า ณ วันหนึ่งเราอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้นะ แต่ว่าถ้าเราต้องรวมพลังกัน ตองเชื่อว่าคนไทยทำได้ แล้วก็ทำได้ดีด้วย ถ้าท่านตรัสแบบนี้แล้วเราจะนิ่งดูดายเหรอคะ ถ้าเป็นตองบอกได้เลยว่าถ้าให้ทำอะไรตองก็ทำ ไม่เคยคิดว่าทำงานนั้นงานนี้ต้องได้เงิน ไม่มีอยู่แล้วค่ะ”
“ณ วันนี้ที่มีชีวิตอยู่กันได้แบบสบายๆ แบบนี้เพราะอะไร เพราะใคร จริงๆ เราคนไทยรู้กันอยู่แล้วค่ะ ท่านก็ทรงมีพระชนมพรรษาเยอะมากแล้ว อะไรที่เราทำให้ท่านสบายพระทัยมากที่สุด ทำได้ก็ทำเถอะค่ะ อย่าให้ท่านต้องทุกข์ตั้งแต่วันแรก อย่าให้ท่านต้องเหนื่อยไปทั้งชีวิตเลย วันที่ท่านต้องมานั่งรับรู้ว่าคนไทยทำไมยังทะเลาะกันอยู่ เราอยากให้คนที่เรารักมากที่สุดมีความสุขที่สุดใช่ไหมคะ เราก็ควรจะทำท่านมีความสุข ในหลวงท่านทรงอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคนค่ะ”
เอ๊ะ ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์
“เดี๋ยวนี้มันเป็นยุคที่อะไรมันเปลี่ยนเร็ว ข่าวที่เรารับเข้ามาบริโภคทุกวัน มันก็มีทั้งที่จริงและไม่จริงเยอะแยะไปหมด ก็อย่างที่เห็นว่าคงจะไม่ได้กระทบแค่พวกเราซึ่งเป็นนักแสดงหรือคนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง กระทั่งสถาบันกษัตริย์เองก็ยังมีเรื่องราวแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือว่าทางสื่อต่างๆ มันค่อนข้างที่จะเปิดกว้างให้กับทุกๆ คน เพราะฉะนั้นมันก็เลยกลายเป็นอะไรที่ควบคุมได้ยาก เอ๊ะคิดว่า การที่จะช่วยหยุดการส่งข่าวหรือการนำเสนออะไรแบบนี้มันคงห้ามยาก คิดว่าคงต้องห้ามที่คนบริโภคข่าวมากกว่าว่าหลังจากที่บริโภคข่าวเหล่านี้แล้ว เราจะเชื่อหรือไม่ต้องใช้วิจารณญาณ เอามันมาย่อยก่อนที่มันจะเชื่อมัน ไม่ใช่ฟังอะไรก็เชื่อไปทั้งหมด”
“ส่วนเรื่องความสามัคคีเป็นอะไรที่ยากนะ ตั้งแต่เราโตมาจนป่านนี้เราไม่เคยเห็นความแตกแยก ขาดความสามัคคีเท่ายุคนี้ มันยากจริงๆ ยังไงก็อยากให้สำนึกกันว่าเราอยู่ในแผ่นดินไทย แล้วเราก็มีในหลวงที่ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวไทยทุกคน อยากให้ทุกคนทำอะไรก็ได้ให้พ่อหลวงของเราสบายพระทัย ปัญหาต่างๆ มันมีเยอะแยะมากมายจริงๆ บางเรื่องมันก็คงจะแก้ได้แต่ในบางเรื่อง มันแก้ได้ยากมันก็อาจจะต้องอาศัยเวลาและความเข้าใจของคนไทยทั้งประเทศที่จะร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันที่จะทำให้ปัญหาแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดผ่านพ้นไปได้ คือถ้าเราสามารถจะดูแลตัวเราเองได้โดยไม่ก่อปัญหาให้กับสังคมและคนอื่น เอ๊ะว่านั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ในหลวงอยากเห็น แล้วก็จะทำให้ท่านสบายพระทัย ก็อยากให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับคนไทย”
สำหรับเทป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานสัมภาษณ์ในรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” นั้นจะออกอากาศวันที่ 3 และ 10 เมษายนนี้ ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี