“เมฆ วินัย” แต่ง “เอ๋” แฟนนอกวงการ ทุ่มสินสอดเงิน 1.9 ล้าน ทอง 20 บาท สู่ขอ เผย ประทับใจที่เจ้าสาวเป็นผู้หญิงธรรมดา ถึงไม่สวยแต่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น คบมา 2 ปีไม่เคยรู้สึกเบื่อ เจ้าตัวลั่น ไม่มีคำสัญญาแต่จะทำทุกวันให้ดีที่สุด พร้อมมีลูกเลย
หลังจากคบหากันมา 2 ปี วันนี้(30 มีนาคม) อดีตพระเอกร้อยล้าน “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ก็ถือฤกษ์ดีจูงมือ “เอ๋ ชลรดา แสนสินรังษี” แฟนนอกวงการ เข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อย โดยได้มีพิธีหมั้นในช่วงเช้า และได้จัดพิธีฉลองมงคลสมรสขึ้นในช่วงค่ำที่ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน (เรดิสันเก่า) ย่านพระราม9 ซึ่งภายในงานได้ตกแต่งประดับประดาด้วยดอกกุหลาบสีขาวและดอกทิวลิป ภายใต้ธีมสีเขียวขาว ส่วนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวอยู่ในชุดแต่งงานสีขาว โดยมีเพื่อนสนิทในวงการทยอยมาร่วมอวยพร อาทิ แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, เวฟ สาริน บางยี่ขัน, ต้น จักรกฤษณ์ อํามะรัตน์ ควงคู่มากับภรรยา, โน้ต วัชรบูล ลี้สุวรรณ, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, โอลิเวอร์ พูพาร์ท เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์ ฯลฯ
โดยก่อนที่พิธีช่วงกลางคืนจะเริ่มขึ้น เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ก็ได้ควงกันออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกในวันมงคลด้วยความชื่นมื่นว่า….
เมฆ : “ตื่นเต้นที่สื่อมาเยอะ เพราะคิดว่าตัวเองไม่ใช่ดาราดัง แต่สื่อให้เกียรติมากันเยอะมากครับ(ยิ้ม)”
เอ๋ : “ตื่นเต้นค่ะ พูดอะไรไม่ออก(ยิ้ม)”
ด้านเจ้าบ่าวเผยถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนจะก่อตัวเป็นความรักกระทั่งตัดสินใจแต่งงานกัน
เมฆ : “เรารู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต เพราะตอนนั้นผมกำลังศึกษาเรื่องปลูกผม ทำให้ได้โทรศัพท์คุยกัน คุยอยู่ประมาณ 4-5 เดือน จึงตกลงเป็นแฟนกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ก็คบกันมา 2 ปีแล้วครับ”
“ผมประทับใจที่เขาธรรมชาติมากๆ เขาเป็นผู้หญิงที่ธรรมดามากๆ คบกันมาเกือบ 2 ปีไม่เคยรู้สึกเบื่อบางทีเห็นผู้หญิงสวยแต่เวลาดูนานๆ ไปก็รู้สึกอึดอัด แต่สำหรับเอ๋ในสายตาของผมเอ๋ไม่ใช่คนสวย แต่เป็นคนที่มีเสน่ห์ น่ารัก รู้สึกดูนานๆ แล้วไม่เบื่อ เขาเป็นคนอบอุ่น”
เอ๋ : “จริงๆ แล้วได้ยินข่าวพี่เมฆเรื่องเจ้าชู้เยอะ แต่พอคบกันไปนานๆ ก็รู้ว่าข่าวไม่ใช่เลย แต่กลับเป็นว่ายิ่งคบกันไปพี่เมฆก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ และเป็นอะไรที่ผู้หญิงทุกคนเจอแล้วก็ต้องประทับใจ”
เมฆ : “จริงๆ วางแผนไว้แล้วว่าจะทำแบบนี้ คิดว่าคนเราคบกันแรกๆ จะหวาน เหมือนเป็นช่วงโปรโมชั่นต้องป้อนข้าวทำอย่างโน้นอย่างนี้ แต่สำหรับผมทำให้เกรดต่ำที่สุด อย่างไปกินข้าวผัดกันมั้ย ถ้าให้คะแนนตัวเองเทคแคร์แฟน เต็มสิบผมให้ตัวเองสองคะแนน ผมรู้สึกว่าถ้าทำอะไรให้เกรดต่ำไว้ก่อน และผมมีความรู้สึกว่าทำเกรดต่ำให้เป็นมาตรฐาน เราก็จะทำอะไรให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นกำไรมากกว่า เพราะมันไม่มีตก เพราะเกรดแรกๆ ที่คบกันเราเริ่มจากต่ำ คบกันยังไงก็อย่างนั้น ผมบอกกับเอ๋ตลอดว่าคงไม่มีอะไรที่เกรดต่ำลงไปกว่านี้แน่ เพราะแบบนี้ต่ำสุดๆ แล้ว และไม่อยากให้ความหวังว่าแรกๆ ทำแบบนี้ หลังๆ ทำอีกแบบนึง ผู้หญิงชอบพูดว่าสองปีผ่านไปทำไมคุณถึงเปลี่ยนไป ไม่รักฉันแล้วเหรอ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น”
“ส่วนที่ทำไมถึงเลือกเอ๋ จริงๆ แล้วผมมองหลายๆ มุมรวมกัน ผมไม่มองที่เขาสวยหรือน่ารัก แต่มองที่เขาเป็นธรรมชาติรักครอบครัว ช่วยเหลือครอบครัว รักครอบครัวเขาและรักครอบครัวเราด้วย ตรองคอนเซ็ปต์ที่ว่ารักเราก็ต้องรักครอบครัวเราด้วย และเขารับได้ในสิ่งที่เราเป็น เราพาไปบ้านบอก ผมก็บอกว่าเนี่ยบ้านผมเป็นกระต๊อบรับได้มั้ย วินัย ไกรบุตร มีแต่ชื่อ แต่ไม่ได้รวยมหาศาลเหมือนคนอื่น แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่เขารับได้ในสิ่งที่ผมเป็น รวมถึงเรื่องไม่ดีในหลายๆ อย่าง ผมจะให้เขารู้ในสิ่งที่ไม่ดีของผม เพราะเขาต้องอยู่กับผมใช้ชีวิตกับผม ถ้าเราทำสิ่งที่ไม่ดีไปแล้วเขามารู้ทีหลังแล้วเขารับไม่ได้ชีวิตคู่ก็จบ”
เอ๋ : “เอ๋ไม่เคยเจอใครมาครั้งแรกมาอย่างเถื่อนๆ จริงๆ ในสิ่งที่พี่เมฆทำมา พูดมาเอ๋ไม่เคยเจอ ไม่ว่าจะพูดแบบห้วนๆ หรือในแบบที่ผู้หญิงหาไม่ยาก แต่พอหลังจากที่คบกันไปเรื่อยๆ เขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ”
เจ้าบ่าวลั่น ไม่มีสัญญาแต่จะทำทุกวันให้ดีที่สุด และทำให้เจ้าสาวมีความสุขเท่าที่จะทำได้
เมฆ : “ไม่สัญญาอะไร เพราะว่ากลัวทำอย่างที่สัญญาไม่ได้ แต่ว่าจะทำให้ดีที่สุด ให้เขามีความสุขเท่าที่จะทำได้ สำหรับผมแล้วความรักคือคนที่เข้าใจกัน เป็นเพื่อนชีวิต ประคองกันไปอยู่ด้วยกันตลอดไป”
พร้อมบอก ตั้งใจมีลูกเลย แต่ยังไม่มีแพลนไปฮันนีมูนเพราะติดงาน
เมฆ : “ตั้งใจมีเลยเพราะรู้สึกว่าตัวเองแก่ขึ้นมากแล้ว ตัวเองก็ 40 เอ๋ก็ 31 ก็เลยต้องรีบมี ส่วนเรื่องฮันนีมูนคงยังไม่ไปครับเพราะยังหาเวลาไม่ได้ ติดละครและธุรกิจส่วนตัว และอีกอย่างแฟนไม่ชอบไปเที่ยวที่ไหน อย่างงานเทศกาลชวนไปต่างจังหวัดยังไม่อยากไป เขาอยากอยู่แต่ในกรุงเทพ เรือนหอก็ใช้บ้านที่อยู่ปัจจุบันเป็นเรือนหอ อยู่ในกรุงเทพนี่แหละครับ”