ผ่านไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต "สิงห์ คอร์ปอเรชั่น พรีเซ็นต์ ซัมเมอร์ ฮิปปี้" ครั้งที่ 2 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา(12) ณ ริมหาด ชะอำ ที่มีศิลปินมาร่วมความสุขหลายต่อหลายคน
ประเดิมเริ่มเรียกน้ำย่อยในช่วงบรรยากาศโพล้เพล้กันด้วย "อิน บูโดกัน" กับบทเพลงช้าๆ เพราะๆ อย่าง ถ้าสักวันเธอจะกล้าพอ, รักระยะไกล, ไม่อยากทำให้ลำบาก และเพลงประจำตัวของ(วง)เธออย่าง ขอให้เหมือนเดิม ก่อนที่ความเพลิดเพลินจะขยับขยายขึ้นไปอีกนิดกับสามสาว "ดิ อีโมชั่น" (แอน ธิติมา, แนน วาทิยา, กิ่ง เหมือนแพร) ทั้ง เสียงของหัวใจ, เดียวดาย ฯ ในสไตล์บอสซ่าทว่าครั้นเล่นมุกไปเล่นมุกมาดูเหมือนทั้ง 3 สาวจะชอบ 3 ช่าซะมากกว่า?
จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ " แพรว คณิตกุล" อดีตสาวแสบซนแห่งคูณสามซุปเปอร์แก๊งที่ขนเอาเพลงมาให้ร้องไปพร้อมๆ กัน ทั้ง เพิ่งจะรู้, L. O. V. E., ขอบใจนะ ฯ ต่อด้วยสาวเสียงดีที่อาจจะไม่คุ้นหน้ามากนักแต่เพลงที่ร้องออกมานั้นน่าจะคุ้นหูใครหลายคน อาทิ อย่าหลอกตัวเอง, ให้รักเดินทางมาเจอ ฯ โดย "อุ๋ม วฤตดา" ที่ได้หนุ่ม "ที" จากวง Jetset'er มาร่วมแจมในเพลง อย่าหยุดหวาน ก่อนที่เจ้าของเวทีจะทิ้งท้ายด้วย อยากร้องดังดัง ทำเอาหนุ่มสาวฮิปปี้บางส่วนอดใจไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาวาดลวดลายส่าลลีลา "ปาล์มมี่" เจ้าของเพลง
บรรยากาศเริ่มเข้มข้นขึ้นตามช่วงเวลาที่ผ่านไปและการมาเยือนของหนุ่ม The Bottom Blues ที่มาชวนนับเลข-นับรักในเพลง 12345 I Love You รวมถึงการทำท่าชูวับชูวับกับเพลง เธอยอดหญิง ถัดมาบรรดาฮิปปี้หนุ่มๆ ก็ต้องรู้สึกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษกับสาว "ลุลา" เจ้าของเพลงฮิต ตุ๊กตาหน้ารถ ซึ่งน้ำเสียงของเธอนั้นต้องบอกว่ามันช่างออดอ้อนแอ๊บแบ๊วตะแง๊วเหมือนแมวออเซาะอย่างไรอย่างนั้น
คือถ้าชอบก็ชอบแต่ถ้าไม่ชอบก็อาจจะรู้สึกน่ารำคาญนิดๆ
หลังหมดหน้าที่ของสาว "พิจิกา" ที่ขึ้นมาเป็นแขกรับเชิญให้กับสาวลุลา คราวนี้เป็นช่วงเวลาที่สาวๆ ด้านล่างเวทีได้กรี๊ดกันบ้างกับหนุ่มๆ วง "Jetset'er" ต่อเนื่องความสนุกกันด้วย "เคลียร์" (KLEAR) ซึ่งน้ำเสียงของนักร้องนำของวงอย่างสาว "แพท" นั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
สำหรับ 3 ศิลปินสุดท้ายของคอนเสิร์ตสิงห์ ซัมเมอร์ ฮิปปี้ ปีนี้ต้องถือว่าเป็นไฮไลท์ก็ว่าได้ เริ่มกันตั้งแต่ Playground ที่คืนนั้นนักร้องนำอาจจะไม่วิ่งพล่าน ตีลังกา แต่เพลงอย่าง มุม, Souimate ก็สะกดคนดูให้ซึ้งตามได้อย่างอยู่หมัด ก่อนที่จะถึงคิวของศิลปินที่ทุกคนรอคอย Modern Dog ที่ขนเพลงมาให้โดดกันทั้ง บุษบา, ลมหายใจ, ติ๋ม, ตาสว่าง
ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย 3 หนุ่ม Buddha Bless ซึ่งถึงตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลือคนนั่งดูแล้ว เพราะต่างก็ไปยืนโดดกันอยู่ด้านหน้าเวทีกันเกือบจะทั้งหมด
ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะความกลัวผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นสึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่น! หรือเป็นเพราะบัตรคอนเสิร์ตที่ค่อนข้างจะสูงระดับหนึ่ง(1,000 บาท)กันแน่ ถึงได้ทำให้จำนวนผู้ที่ไปมีส่วนร่วมกับคอนเสิร์ต "สิงห์ คอร์ปอเรชั่น พรีเซ็นต์ ซัมเมอร์ ฮิปปี้" ครั้งนี้ดูไม่หนาแน่นมากนัก
อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมกลับต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
เพราะอย่างน้อยๆ เหตุผลดังกล่าวก็เป็นเสมือนตัวคัดกรองคุณลักษณะของแฟนเพลงที่จมาชมคอนเสิร์ตได้ในระดับหนึ่ง อันจะมีผลรวมไปถึงในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งในส่วนของอาหาร เครื่องดื่ม ห้องน้ำ การรักษาความสะอาด การจราจร ฯ ซึ่งสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ทุกอย่างนั้นค่อนข้างจะเป็นไปอย่างราบรื่นเรียบร้อยดีทีเดียว
อีกเรื่องที่น่าชื่นชมก็คือการกำหนดให้บริเวณงานเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่
งานนี้ถ้าจะว่ากันตรงๆ นอกจากเครื่องแต่งกาย รวมถึงสัญลักษณ์บางอย่างที่เอามาเป็นพร็อพในงานแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ ที่แสดงถึงความเป็นฮิปปี้บนความหมายดั้งเดิมในคอนเสิร์ตนี้แทบจะไม่มีเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดงออกในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ สิ่งเสพติด อาทิประเภทกล่อมประสาท อย่าง กัญชา แอลเอสดี ฯ จะมีบ้างก็คงจะเป็นเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ยี่ห้อสปอนเซอร์งาน แต่ทั้งหมดก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
สำหรับบรรยากาศของคอนเสิร์ตโดยรวมนั้นถือว่าสนุกแบบค่อนข้างเป็นกันเอง ไม่ถึงกับสุดๆ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะจำนวนศิลปินที่ดูจะมากเกินไปกระทั่งทำให้ไม่เกิดความต่อเนื่องในการแสดง ขณะที่ตัวศิลปินเองแต่ละคนก็มีช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะจำกัดจนบางครั้งเครื่องยังไม่ร้อนพอที่จะเร่งปล่อยของดีของตนออกมาได้จนหมด
ในความเป็นจริงหากไม่คิดที่จะทำคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้เป็นเทศกาลหรือมหกรรมดนตรีที่ยิ่งใหญ่อะไรมากมายซึ่งสังเกตได้จากการขายบัตรที่ค่อนข้างจะแพงระดับหนึ่งอย่างที่ว่า รวมไปถึงพื้นที่บริเวณการจัดงานที่ไม่ได้กว้างขวางใหญ่โตมากมาย รวมถึงช่วงระยะเวลาที่ไม่ได้ยาวนานนัก ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอย่างไรเลยที่ผู้จัดจะต้องไปเน้นปริมาณของศิลปินให้มากเข้าว่าอย่างที่ผู้จัดหลายๆ คอนเสิร์ตในระยะหลังชอบทำจนเหมือนกันไปหมดในสถานที่แตกต่างกันออกไปไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นพอที่จะน่าพูดถึง
คัดเน้นๆ สัก 3-4 วงที่เรียกแขกได้ ให้เวลาแต่ละวงได้ปล่อยของได้เต็มที่เพื่อให้แฟนเพลงสัมผัสความเป็นตัวตนของวงๆ นั้นได้อย่างสนุกแบบเต็มอิ่มน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
หรือหากจะยังรูสึกเสียดายในเรื่องปริมาณอยู่ ก็นำศิลปินส่วนที่เสียดายมาเป็นแขกรับเชิญของแต่ละวงร้องเพลงขายของตัวเองเพลงสองเพลงก็ยังพอที่จะเป็นทางออกได้อีกทางหนึ่ง
อีกส่วนที่ต้องติติงเห็นจะเป็นเรื่องของระบบเสียงที่เหมือนจะดังฟังชัดเฉพาะตรงกลางด้านหน้า ทว่าหากนั่งด้านหลังแล้วเอียงออกซ้าย-เบ้ออกขวาเพียงนิดหน่อยพลังเสียงที่ได้รับดูจะลดน้อยลงไปมากราวกับบางส่วนมันได้ลอยหายไปกับสายลมของท้องทะเลอย่างไรอย่างนั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ดูดีมีสีสันเป็นอย่างยิ่งคงจะต้องยกให้กับพิธีกรหญิงอารมณ์ดีของงาน "เวสป้อย สุทธิวรรณ สินประมวญ"
หรือที่ใครๆ รู้จักเธอในชื่อของ "พายไก่" ซึ่งต้องถือว่านี่คืองานที่แจ้งเกิดให้กับเธออีกครั้ง หลังแจ้งเกิดครั้งแรกมาแล้วจากรายการ "สาระแน" จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักขึ้นมา
คืนๆ นั้นใครที่ไปดูคอนเสิร์ตก็คงจะได้เรียนรู้ศัพท์แปลกๆ ของเธออย่างน้อยๆ ก็คำว่า ยันหว่าง (ยันสว่าง)
อาจจะดูเหมือนเน้นความฮาอย่างเดียว ทว่ากับการทำหน้าที่สดๆ เพียงตามลำพังบนเวทีคอนเสิร์ตที่ไม่ถือว่าเล็กเลยในครั้งนี้โดยกล้าที่จะแซว กล้าที่จะเล่นมุกได้อย่างเป็นธรรมชาติจนเข้ากันได้เป็นอย่างดีไม่เคอะเขินทั้งกับตัวศิลปินเองรวมถึงคนที่มาชมคอนเสิร์ตแล้ว ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาสำหรับพิธีกรที่ยังจัดอยู่ในหมวด "หน้าใหม่"
มีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่โมเดิร์นด็อกจะขึ้นเวที ปรากฏว่าการตั้งเครื่องนั้นนานมาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีปัญหาจริงๆ หรือว่าบรรดาทีมงานของวงในชุดมอเตอร์ไซค์รับจ้างต้องการจะดึงเวลาบิ้วท์ให้คนดูเกิดอารมณ์อยากกันแน่(ตอนก่อนจะดัง-ตอนดังใหม่ๆ ไม่เห็นจะลีลาเรื่องมากขนาดนี้ ถึงเวลาก็ลุยกันเลย) แต่ที่แน่ๆ ระหว่างนั้นเองคนที่ทำให้เวทีไม่เงียบเหงาเป็นเดธแอร์ก็คือสาวพายไก่นี่แหละที่งัดมุกไอ้โน่นไอ้นั่นมาเล่นอยู่นานสองนาน
เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวี่แววสัญญาณว่าการตั้งเครื่องจะเสร็จด้านของสาวพายไก่เองก็เกือบจะไปไม่เป็นแล้ว นั่นเอง "พี่โป้ง" มือกลองของวงจึงได้ตะโกนบอกกับทีมงานว่าพอแล้ว ไม่ต้องแล้ว...ซึ่งระหว่างที่สาวพายไก่ลงมาจากเวทีนั้นเอง "พี่ป๊อด" โมเดิร์นด็อกถึงกับเข้าไปกอดแล้วออกปากชื่นชมพิธีกรหญิงว่าเก่งมาก
น่าจับตาทีเดียวสำหรับสาว "พายไก่" คนนี้