ณเดชน์ “ญี่ปุ่นบุญธรรม” ที่แท้ “ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน”

ไม่สงสัยบ้างหรือ ทำไม … ลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างณเดชน์ ถึงมีชื่อเล่นเป็นฝรั่งว่า “แบร์รี่” แทนที่จะเป็นชื่อซึ่งนิยมในแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง “ทาโร่ - ทักกี้ - จิโร่” นอกเหนือจากนามสกุลพ่อ “คูกิมิยะ” แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นของพระเอกซุป'ตาร์คนนี้ซึ่งพูดญี่ปุ่นไม่ได้สักคำ (แต่เว้าอีสานไฟแลบ) แหล่งข่าวจาก “เมืองดอกคูน เสียงแคน” รายงานสดยืนยันว่า พ่อแม่ ณ ปัจจุบัน เป็นเพียง “พ่อแม่บุญธรรม” ของ “แบร์รี่” ณเดชน์ คูกิมิยะเท่านั้น พ่อจริงของเขาเป็นชาวเยอรมันต่างหาก!!

ฮอตชั่วข้ามคืนจริงๆ สำหรับหนุ่มคิ้วเข้ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่เข้าวงการยังไม่ถึงครึ่งปี ก็ก้าวกระโดดจากการเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายงานโฆษณา สู่การเป็นพระเอกละครหน้าใหม่ และต่อยอดไปสู่การเล่นเป็นพระเอกละครชุดของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ก่อให้เกิดกระแส ‘ณเดชน์ฟีเวอร์’ ขึ้นในสังคมไทย สาวน้อยสาวใหญ่และสาวไม่แท้ทั้งหลายต่างติดใจคิ้วหนาๆ นัยน์ตาหวานซึ้ง และความเฮฮาแบบทะเล้นๆ ที่สำคัญยังเว้าภาษาอีสานถิ่นกำเนิดได้แบบชัดถ้อยชัดคำ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหนุ่มฮอตอย่างณเดชน์มีความลับที่ไม่เคยบอกใครซุกซ่อนอยู่

เพราะความบังเอิญที่ทำให้ “เอ ศุภชัย” ไปพบกับเด็กร่างสูงผิวขาวหน้าเรียวยาวซึ่งอาศัยอยู่จังหวัดเดียวกับ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” ทำให้เด็กผู้ชายคนนั้นได้รับการชักจูงจากผู้จัดการดาราหมายเลขหนึ่งให้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง โดยประเดิมงานแรกเป็นการเดินแบบเสื้อผ้าของศูนย์ศิลปาชีพที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และต่อด้วยงานโฆษณาอีกมากมาย โดยเฉพาะโฆษณาหมากฝรั่งยี่ห้อดังที่เขาได้ประกบนางเอกสุดฮอตในสังกัดของเอ ศุภชัยอย่าง “อั้ม พัชราภา” ก็ทำให้คนจดจำเขาได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ในแต่ละปี จะมีนักแสดงทั้งชาย - หญิง หรือเรียกง่ายๆว่า ซุป'ตาร์หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันมารับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา และในแต่ละปีจะมีดาวที่โดดเด่นเหนือกว่าดาวดวงอื่นๆ ปีนี้ประเมินกันว่าน่าจะเป็นซุป'ตาร์พันธุ์ข้าวเหนียวที่ชื่อ ณเดชน์ คูกิมิยะคนนี้ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของสินค้าทุกประเภท แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้บอกว่า ตอนนี้มีงานโฆษณาที่เขารับปากแล้ว ประมาณ 15 ตัว ซึ่งต้องเคลียร์คิวละคร และทยอยถ่ายทำให้ตามลำดับ ดังนั้น ฉายา “พระเอกร้อยล้าน” จึงไม่น่าเกินเลยความจริงสำหรับเขาในปีนี้

ณเดชน์กลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่ใครๆ ต่างพากันพูดถึงทั้งในโลกอินเทอร์เน็ต สังคมในสถาบันการศึกษา และคนวัยทำงาน ความโด่งดังของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสูงทั้งๆ ที่เจ้าตัวเพิ่งจะอยู่ในวัยแค่ 19 ปีเท่านั้น “ชมพู่ อารยา” เคยให้สัมภาษณ์ว่าเธออยากถ่ายแบบคู่กับณเดชน์ “จักจั่น อคัมย์สิริ” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของเธอเรียกณเดชน์ว่า “แบร์รี่ที่รัก” “แอน ทองประสม” เคยพูดว่าอยากแสดงละครคู่กับณเดชน์ นางเอกแถวหน้าของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, ก้อย รัชวิน, วุ้นเส้น วิริฒิภา, หนูนา หนึ่งธิดา, เชียร์ ทิฆัมพร ล้วนก็เคยบอกว่าชื่นชอบในตัวของเขา

ณเดชน์ถูกจับคู่ว่ากุ๊กกิ๊กนอกจอกับ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” หลังจากนั้นเขาก็มีภาพหลุดตั้งแต่สมัยหัวเกรียนที่ถ่ายคู่กับสาวออกมาสกัดดาวรุ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คะแนนนิยมในตัวของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย

และเมื่อปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวบันเทิงตั้งฉายาให้กับเขาว่า “ซุป' ตาร์ พันธุ์ข้าวเหนียว” ซึ่งได้มาจากการที่เขาใช้ภาษาอีสานในที่สาธารณะบ่อยครั้งทั้งการให้สัมภาษณ์และโฆษณา ทำให้หลายต่อหลายคนยิ่งหลงรักในความติดดินและไม่ลืมกำพืดของหนุ่มที่มีแม่เป็นชาวขอนแก่นแท้ๆ รายนี้มากขึ้น

แต่ในขณะที่หลายต่อหลายคนกำลังประทับใจในความเป็นลูกอีสานของณเดชน์อยู่นั้น ดีเอ็นเอทางฝั่งพ่อของณเดชน์ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยทำงานสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะพิจารณาจากใบหน้าที่ดูยังงั้ย...ยังไงก็ไม่ละม้ายคล้ายชาวญี่ปุ่น มิหนำซ้ำณเดชน์ซึ่งมีชื่อเล่นที่เป็นฝาหรั้ง...ฝรั่งว่า “แบร์รี่” คนนี้ยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้แม้แต่คำเดียว ต่างจากภาษาอีสานที่เขาเว้าจนติดปากคล่องแคล่วราวฟ้ากับเหว

เด็กขอนแก่นที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับณเดชน์ ต่างรู้กันดีว่าสังคมขอนแก่นในยุคที่ฝรั่งเข้ามาพบรักกับหญิงไทยทำให้เกิดเด็กลูกครึ่งจมูกโด่งตาสีฟ้าขึ้นมากมาย และชายชาวเยอรมันท่านหนึ่งที่เข้าไปทำงานที่นั่นก็ได้พบรักกับหญิงไทยหน้าตาสะสวยชาวขอนแก่นจนก่อกำเนิดทายาทขึ้นมาคนหนึ่ง

ด้วยหน้าตาน่ารักในแบบฉบับเด็กลูกครึ่งทำให้หนุ่มน้อยนามว่า “แบร์รี่” คนนี้เป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น ถึงแม้คุณพ่อชาวเยอรมันจะห่างหายและจากเขาไปตั้งแต่เขายังเล็กๆ แต่คุณแม่ชาวไทยก็อบรมเลี้ยงดูแบร์รี่อย่างสุดความสามารถ ส่งเสียให้เขาเรียนอย่างดีที่สุด อีกทั้งยังส่งเขาไปเรียนพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะกีฬาเทควันโดที่ทำให้ณเดชน์มีร่างกายที่สูงใหญ่และมีบุคลิกดีจนถึงทุกวันนี้

ณเดชน์ก้าวขึ้นมาเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักที่สาวๆ ชื่นชอบ หลังจากที่มีคนนำรูปของณเดชน์ไปโพสต์ตามอินเทอร์เน็ต ก็ยิ่งทำให้ณเดชน์กลายเป็นที่รู้จักในสังคมคนท่องเน็ต และพัฒนามาเป็น “เน็ตไอดอลพันธุ์ข้าวเหนียว” ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับ “มีน พิชญา” และ “อาร์ตี้ ธนฉัตร” ซึ่งเป็นชาวขอนแก่นเช่นเดียวกัน

สังคมรับรู้ว่า ณเดชน์ คือลูกชายสุดรักของพ่อซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น และแม่ซึ่งเป็นคนพื้นถิ่นอีสานเชื้อสายจีน ทว่าความจริงแล้ว แม่คนปัจจุบันที่สังคมรับรู้คือ “ป้าแท้ๆ” ของเขา ทว่า “แม่ตัวจริง” ของเขาคือน้องสาวป้า และพ่อของเขาเป็นชาวเยอรมัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีการยกณเดชน์ให้เป็นลูกบุญธรรม เนื่องจากครอบครัวของป้าที่อยู่กินกับชาวญี่ปุ่นผู้นี้ ไม่มีทายาท !! ดังนั้น … ณเดชน์ จึงใช้นามสกุล “คูกิมิยะ” ตามคุณพ่อชาวญี่ปุ่นท่านนี้ การเขียนประวัติทั้งหลายของซุป'ตาร์ผู้นี้ให้เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นก็ไม่ผิดหรือเกินเลยความจริงไปนัก เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นเด็กซึ่งมีที่มาและที่ไป ไม่ได้เป็นใครก็ไม่รู้ที่หาต้นขั้วไม่เจอ

“ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น” ถูกเขียนย้ำและเผยแพร่โดยฝีมือของผู้จัดการสมองใสอย่าง “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร แต่ป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย - ญี่ปุ่น ผู้ชอบเว้าภาษาอีสานเป็นชีวิตจิตใจ (แต่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย)
คุณพ่อชาวญี่ปุ่นของณเดชน์ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ เขากับคุณแม่พบหน้าคุณพ่อเป็นระยะๆ และตัวณเดชน์เองก็เดินทางไปพบญาติของคุณพ่อญี่ปุ่นปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ นอกจาก “เอ” ศุภชัยที่ล่วงรู้ความลับข้อนี้ของณเดชน์แล้ว ยังมีญาติที่ขอนแก่นรู้เรื่องนี้ด้วย

การที่ณเดชน์ไม่เคยบอกใคร หรือจงใจที่จะไม่พูดหรือกล่าวถึงในเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่ทำให้ณเดชน์เป็นคนเลว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแม่ที่แท้จริง, พ่อจริง ตลอดจนถึง แม่ - พ่อบุญธรรม เขารู้อยู่แก่ใจ และแสดงความกตัญญุกตเวที และถึงพร้อมในการดูแล บวกกับความอ่อนน้อม ถ่อมตนและเป็นกันเอง ตลอดจนอารมณ์ขันของณเดชน์คือเสน่ห์ที่สำคัญยิ่งกว่าหน้าตาและรูปร่าง นอกจากนั้น หนุ่มวัย 19 คนนี้ยังศึกษาธรรมะและนำมาปรับใช้กับชีวิตอย่างจริงจัง แม้เขาจะยอมรับว่ายังไม่นิ่งพอที่จะลงไปนั่งสมาธิได้นานเกินห้านาที แต่หลายครั้งหลายหนที่เรื่องร้ายๆ ในชีวิตผ่านพ้นไปก็เพราะนำธรรมะมาปรับใช้นี่เอง

การไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดเป็นเรื่องปกติในวงการบันเทิง เพราะมันเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์และชื่อเสียง แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่า ณเดช จะเป็นลุกครึ่งไทย - ญี่ปุ่น, แบร์รี่จะมีพ่อเป็นฝรั่ง คงไม่ทำให้จุดยืนของคนที่เป็นแฟนๆ สั่นคลอนไปกับชีวิตอีกด้านหนึ่งของซุป'ตาร์พันธุ์ข้าวเหนียวที่ชื่อ ณเดช คูกิมิยะ คนนี้
แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ใด สาวๆ ทั้งหลายก็พร้อมเทหัวใจให้แก่พ่อหมีน้อย แบร์รี่ เพราอะไรน่ะหรือ หน้าตาอาจจะเป็นแค่องค์ประกอบ แต่คงไม่ใช่เหตุผลหลัก เพราะหนุ่มลูกครึ่งไทย- เยอรมันคนนี้เป็นคนติดดิน ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินวันละร้อย พูดจาสุภาพอ่อนน้อม และแสดงออกถึงความกตัญญูที่มีต่อแม่จริงและพ่อแม่บุญธรรม ไม่ใช่เป็นซุป' ตาร์ลืมกำพืดเหมือนพระเอก - นายแบบบางคนในวงการ
...................................

ที่มา นิตสาร ASTV ผู้จัดการ สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 75 วันที่ 12-18 มีนาคม 2554