วิวาห์ล่มไม่เป็นท่า “แหวนแหวน” เลิก “แดน” ถาวรแล้ว หลังพยายามปรับกันมานาน เผย หลักๆ เพราะทนความเอาแต่ใจไม่ไหว ปัด อยากกลับไปสานต่อความสัมพันธ์กับ “เรน” หลังรู้ข่าวนักร้องเกาหลีกำลังจะมาเมืองไทย เจ้าตัวรับ กดดันที่เคยประกาศแต่งงานออกทีวี แต่สุดท้ายไม่ได้แต่งกลัวพ่อแม่อาย แต่บอกดีกว่าแต่งไปแล้วเลิกกันทีหลัง
เปิดตัวแรงว่ากำลังคบหาดูใจกับ “แดน เหตระกูล” ทายาทหนังสือพิมพ์ชื่อดัง ถึงขนาดฝ่ายชายโชว์หวานขอแต่งงานออกรายการทั้งๆ ที่เพิ่งคบหากันได้เพียง 8 เดือน นับตั้งแต่นั้นมา “แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ” ก็โดนจับตามมองเรื่องความรักมาโดยตลอด แต่สุดท้ายความฝันที่วาดไว้กลับพังไม่เป็นท่า เมื่อล่าสุดสาวแหวนแหวนได้ออกมายอมรับด้วยตัวเองว่า ตอนนี้ได้เลิกรากับหนุ่มแดนเป็นที่เรียบร้อย หลังพยายามปรับจูนกันมานาน แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้รู้ใจตัวเองว่าไปกันไม่ได้
“เราตัดสินใจว่าเราห่างกันดีกว่าประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้วค่ะ เพราะว่าเราไปกันไม่ได้ ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งทะเลาะยิ่งไม่มีความสุข แต่เราก็ยังรักกัน ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กันเพียงแต่ว่าตอนนี้เราทิ้งระยะห่างกันสักพักให้แบบว่าห่างๆ ให้เรามั่นคงกับความรู้สึกเรา เพราะว่าถ้าไม่อย่างนั้นเราจะกลับมาคืนดีกันอีก เราก็จะทะเลาะกันอีก มันก็จะเป็นแบบเดิมอีก เรื่องมือที่สามไม่มีค่ะ ตั้งแต่คบกันมาแดนไม่เคยเจ้าชู้เลย แต่อาจจะมีอารมณ์ศิลปินมีโลกส่วนตัวสูง แต่ไม่ได้ออกแนวเจ้าชู้เพลย์บอยแบบนั้นเลย แหวนก็ไม่ได้มีใคร”
“สาเหตุที่ทำให้ห่างกันถ้าถามว่าเป็นเพราะว่าต่างคนต่างเอาแต่ใจหรือเปล่า อันนี้มันก็จริงนะ คือว่าเรามีจุดยืนของตัวเองอยู่ทั้งคู่ เราก็พยายามที่จะปรับแล้ว แต่ว่าเราก็มีลิมิตว่าเราทำได้แค่นั้น เขาก็มีลิมิตว่าเขาทำได้แค่นั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นในเมื่อต่างคนต่างไม่ยอม มันก็จะอยู่กันยาก และบางทีพยายามจะลดมันก็จะเด้งความเป็นตัวเองเข้ามาอีก เพราะฉะนั้นยังไงคนเราก็เปลี่ยนตัวเองไม่ได้”
“ซึ่งเราคุยกันก่อนที่จะไปฝรั่งเศสว่า เราจะไปเที่ยวกันดีมั้ยทั้งความรู้สึกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง กลัวว่าจะไปทะเลาะกันที่นู่นด้วย จะไปทั้งทีไม่อยากจะให้ไปทำลายความสวยงามของบ้านเขา แต่พอมานั่งนึกดูแล้วมันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะกลับมา แล้วมันจะไม่เวิร์ค เราก็กลับมาเราจะได้มานั่งนึกว่าเราก็มีเวลาดีๆ ให้กันที่นั่น และเราก็ใฝ่ฝันกันมาตั้งแต่ทีแรกว่าเราอยากจะไปเที่ยวกันที่นั่นอยู่แล้ว พอมานั่งดูก็ไม่ได้มานั่งร้องไห้แต่มานึกว่าเออนั่นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข”
“หลังจากเลิกกันก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าเราตกลงกันว่าเราต้องห่างกันนะ เป็นยังไง แล้วก็ไปกินข้าวกันก็จะเป็นแบบเดิมอีก มันจะไม่ไปไหนสักที และชีวิตเราก็ต้องก้าวต่อไป ในเมื่อเราพยายามแล้ว มันไม่ได้มันก็ต้องหยุดไปอย่างถาวร เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราก็ห่างๆ กันไป ไปทำอะไรดีๆ ในชีวิตว่าเรารู้สึกมั่นคงแล้ว เราก็ค่อยกลับมาเป็นเพื่อนกันดีกว่า”
“ผอมลงเพราะว่าไปไดเอ็ทค่ะ ไม่ได้เฮิร์ตอะไรเลย อาจจะเพราะว่ากินข้าวเย็นน้อยลงเพราะว่าไม่ได้ออกไปไหน และตอนนี้เราก็ตั้งใจลดน้ำหนักด้วย อยากให้ผอมและเฟิร์มกว่านี้ อยากจะหน้าร้อนแล้วเราใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ พอดีอาหารเป็นพิษทำให้น้ำหนักลดด้วย น้ำหนักลดไปแค่ครึ่งกิโลเองนะ เราก็เลยเอาตรงนี้มาลดน้ำหนักเลย ถามว่าเฮิร์ตหรือเปล่าไม่เฮิร์ตนะ ทีแรกคิดว่าจะเฮิร์ตกว่านี้แต่เอาจริงๆ ก็อาจจะร้องไห้อยู่วันนึง วันที่เลิกกันวันเดียวเลย”
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า การที่นักร้องเกาหลี “เรน” กำลังจะมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทย มีส่วนทำให้เลิกกันหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้แหวนแหวนเคยมีข่าวกับกิ๊กหนุ่มเรนมาก่อน เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่อาจกลับไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์กันไม่หรือเปล่า กับเรื่องนี้เจ้าตัวเคลียร์ว่า…
“ส่วนที่มีกระแสข่าว่าเรนทำให้เลิกกัน เพราะว่าเรนกำลังจะมาเมืองไทยเร็วๆ นี้ ก็ต้องขอเคลียร์เลยว่า วันที่รู้ว่าเรนมา แหวนเลิกกับแดนได้หนึ่งวันพอดี และก็ได้ยินข่าวว่าเขาจะมา แล้วพอดีทางทีมงานของพัทยามิวสิค เฟสติวัล ว่าเราเคยติดต่องานกับเรนมาก่อน เขาเลยติดต่อแหวนมาว่าตอนเรนมา ช่วยมาเป็นติดต่อประสานงานได้มั้ย ดูแลให้เหมือนเขาเป็นแขกบ้านแขกเมือง ปีนี้จัดยิ่งใหญ่มาก กระแสความใกล้ชิดไม่มีแน่เป็นเรื่องงานมากกว่าค่ะ ถ้าเห็นไปเดินทะเลหรืออะไรนั้นคือการเอ็นเตอร์เทนเขาค่ะ”
โล่งที่ที่บ้านเข้าใจไม่ว่าอะไร เรื่องที่เคยประกาศออกทีวีเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะแต่งงานกัน แต่สุดท้ายวิวาห์ก็ล่มไม่เป็นท่า
“ทางบ้านไม่ได้ว่าอะไร เขาก็เข้าใจว่าเราพยายามกันมานานแล้ว ผู้ใหญ่ก็เคยพยายามช่วยไกล่เกลี่ยหลายช่องหลายทาง ผลสุดท้ายเขาก็เข้าใจว่าในความที่เป็นตัวแหวนและตัวพี่แดนยังไงก็ยังมีจุดยืนของตัวเองทั้งคู่ เพราะฉะนั้นเขาเลยไม่ได้บังคับ เพราะว่าถ้ายิ่งบังคับเขาจะเหมือนยิ่งกดดันเรา เพราะว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แล้วก็ต้องคิดถึงเราในเวลาระยะยาวต้องอยู่กันไปอีก 60 ปี เราจะอยู่ได้มั้ยเราจะมีความสุขมั้ย ท่านก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเลย พอเราฟังเราก็สบายใจ”
“ส่วนเรื่องที่เคยประกาศหมั้นประกาศแต่งงาน ถามว่าเสียดายมั้ยไม่ได้เสียดายตรงจุดนั้น แต่ทีแรกก็มีกดดันเหมือนกันว่าเฮ้ย เราประกาศแต่งงานไปแล้ว แล้วไม่ได้แต่งเราก็ต้องอาย แต่พอคุยกับพ่อแม่ พ่อแม่บอกไม่อายเลย ไม่แต่งตอนนี้ดีกว่าแต่งไปแล้วไปเลิกกัน ซึ่งอันนั้นน่าเครียดกว่า เพราะว่าตอนนั้นอาจจะมีลูกก็อาจจะเกิดทำไมหย่ากัน พ่อแม่ไปคนละทางก็อาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่กว่า เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวเลยว่าใครจะมองยังไงไม่ต้องสนใจ”
“ก็ถ้าถามว่าตอนนั้นเร็วไปมั้ย ตอนขอแต่งงานเราก็ยังคุยกันนะว่า 8 เดือน ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ คือทุกอย่างมันลงตัว ครอบครัวอะไรทุกอย่างมันเหมือนมันพร้อมหมดแล้ว เหลือแค่เราสองคน เขาก็รักเราจริงๆ ใจเขาก็อยากแต่งงานกับเราจริงๆ ตอนนั้นและก็อยากให้เกียรติคุณ เขาก็ไม่ได้เสียใจที่เคยขอเราแต่งงาน แต่ว่าในเมื่อมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ มันก็ต้องเลิก เราก็ยังรู้สึกดีใจว่าเออ มีผู้ชายคนนึงเคยมาขอเราแต่งงานต่อหน้าคนทั้งประเทศ”
เผย ยังไม่ปิดตัวเอง เพียงแต่อาจจะต้องมานั่งคิดว่าตัวเองต้องการอะไร
“ตอนนี้ก็ไม่ได้ปิดอะไรนะคะ แต่ว่าเราต้องกลับมาแล้วมานั่งคิดว่าต่อไป เราต้องการอะไรที่สุด ก็ถ้ามองกลับไปตอนคบกับแดนเสียใจมั้ยก็ไม่ได้เสียใจอะไรนะ มีแต่ความทรงจำที่ดีๆ เขาก็ทำอะไรดีๆ ให้แหวนเยอะ แล้วก็ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วย เราไม่ได้เลิกสร้างกระแสนะคะ เลิกกันจริงๆ เพราะว่ามีเพื่อนๆ บอกเหมือนกันว่าเลิกกันจริงเหรอ เดี๋ยวก็ดีกัน เราก็บอกว่าก็คอยดูกันต่อไปแล้วกัน”
“เรื่องรีเทิร์นเราไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ เรื่องอนาคตไม่ได้คุยแน่นอน เราคุยกันแค่ว่าตอนนี้เราไปมีชีวิตที่ดีของเราดีกว่า แต่ก็อาจจะมาสิทธิ์ อาจจะไม่ใช่กับแดนอาจจะเป็นคนอื่น มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน แล้วมันก็เป็นพรหมลิขิตด้วย แต่ ณ ตอนนี้เราไมได้มองตรงนั้นเลยมันไม่ใช่”