“นาเดีย” เมิน กระแสในอินเตอร์เน็ตว่าครอบครัว“ม.ล.อภิมงคล” ไม่ปลื้ม บอกไม่จำเป็นต้องสนใจ ยอมรับ ด้วยอาชีพที่แตกต่างกันจึงต้องมีปรับจูนกันบ้าง ถึงแม้จะทำงานด้านบันเทิงแต่ยังไม่ชินในการถูกสัมภาษณ์ บอก ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดตัวความรักครั้งนี้ แต่บังเอิญฝ่ายชายเป็นที่รู้จักของคนในสังคม ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่จะได้ไม่ต้องแนะนำประวัติฝ่ายชาย ส่วนเรื่องแต่งงานยังไม่อยากไปคาดหวัง หลังเจอหมอดูทักว่าจะได้แต่งมาเกือบทุกปี แต่สุดท้ายก็เลิกกัน
กลายเป็นคู่ที่ถูกจับตามองอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับรักครั้งใหม่ของพิธีกรสาว “นาเดีย นิมิตรวานิช” ที่ออกมายอมรับว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับ “ม.ล.อภิมงคล โสณกุล” เจ้าของฉายา “หล่อจิ๋ว” แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดตัวว่าเป็นแฟนไปกันแล้ว ยิ่งทำให้ความรักของทั้งคู่ถูกจับตามองมากขึ้นไปอีก และทำให้มีข่าวเม้าท์ในอินเตอร์เน็ตว่าครอบครัวของฝ่ายชายไม่ปลื้มสาวนาเดียสักเท่าไหร่ พอมีโอกาสได้เจอพิธีกรสาวเลยไม่พลาดอัพเดทข่าวคราวความรักและถามถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวตอบก็คำถามอย่างอารมณ์ดีว่า
“กระแสข่าวทางอินเตอร์เน็ตบอกว่าที่บ้านฝ่ายชายไม่ปลื้ม แล้วก็บอกประมาณว่าที่บ้านของเขารู้จักเดียด้วยหรือไง เรื่องนี้เดียไม่คิดอะไรหรอกเดียเองก็ไม่ได้รู้จักพวกเขาด้วย เขาอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร คือมันเลี่ยงไม่ได้ด้วยที่ทำอาชีพแบบนี้ แล้วอาชีพที่เราทำจะทำให้คนพูดดีทั้งหมดมันก็ไม่ได้ อีกอย่างคนคนพูดอยู่หลังคอมพิวเตอร์เราก็ไม่รู้อีกว่าเขาเป็นใคร บางคนพูดก็เอาข้อมูลมากจากไหนก็ไม่รู้ก็ต้องทำใจ แต่คือส่วนตัวจริงๆ ก็ไม่ได้อ่านไม่ได้อะไรนะเพราะว่าเรายุ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปอ่านทำไมด้วย เราก็ใช้ชีวิตของเราเงียบๆ ไปแบบนี้แหละ”
“ครอบครัวเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เราโตแล้วให้คิดเองตัดสินใจเอง ก็มีพาเขาไปเจอที่บ้านบ้าง เพราะปกติเพื่อนๆ ของเดียก็จะไปเจอกับที่บ้านอยู่แล้วเรารู้จักกันหมด คุณพ่อคุณแม่เขาเราก็ได้ไปเจอค่ะ เดียก็เคารพท่าน ความรักตอนนี้เรื่อยๆ อายุเยอะแล้วมีบ้างก็ได้(หัวเราะ) ไม่ได้หวานมากอะไรมากมาย ถ้าเอาจริงๆ ความรักครั้งนี้เราไม่ได้ตั้งใจจะเปิดตัวนะ เราก็ใช้ชีวิตปกติเดินห้างกันปกติ แต่บังเอิญว่าคนนี้เขาเป็นที่รู้จักเท่านั้นเอง”
“ เดียยอมรับนะว่าเดียไม่ค่อยชินกับการตอบคำถามเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ เพราะว่าคนที่เคยคบมาก็ไม่ได้เป็นที่รู้จัก และเดียก็ไม่ได้มานั่งอธิบายว่าคนนี้เป็นใครอะไรยังไง แต่บังเอิญคนนี้ก็ไม่ได้อธิบายแต่คนเขารู้จักกันเอง เดียยังไม่ชิน เขาเองก็เจอสื่อมวลชนมาบ้างแล้ว แต่เขาไม่ชินกับสื่อบันเทิงเขาจะตกใจกับสื่อเรานิดนึงเพราะว่าสื่อบันเทิงเราจะเฮโลกันหน่อย(หัวเราะ)”
เผย ด้วยอาชีพที่แตกต่างจึงต้องทำให้มีการปรับความเข้าใจกันมากขึ้น และจะไม่ยุ่งเรื่องหน้าที่การงานของกันและกัน ส่วนเรื่องแต่งงาน ได้แต่งเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นไม่อยากไปกะเกณฑ์
“ด้วยอาชีพเราต่างกันก็ต้องมีปรับจูนกันบ้างเหมือนว่าเรารู้จักกันมากขึ้น เจอกันมากขึ้น อย่างเรื่องการทำงานต่างคนก็มีหน้าที่ไม่มีใครเข้ามายุ่งเรื่องนี้ของกันและกัน เดียไม่เข้าไปยุ่งเรื่องงานของเขาและเขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเรื่องงานของเรา เดียก็พูดตรงๆ ว่าเดียไม่มีพรสวรรค์ไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ในสิ่งที่เขาพูดมา แค่รู้ในฐานะของประชาชนเฉยๆ เราไม่มีความถนัดในเรื่องการเมืองไม่ได้เข้าใจอะไรมากมาย เราก็ทำในสิ่งที่เราถนัดแบบนี้”
“เรื่องแต่งงานเหรอ ในอนาคตไม่มีใครรู้หรอกมันแล้วแต่ดวง แต่คิดมานานแล้วนะว่าสามสิบจะแต่งงาน อย่างหมอดูทักไว้ว่าปีนั้นปีนี้จะได้แต่งแต่พอถึงเวลาก็เลิกกัน ทักมาทุกปีจนตอนนี้ขี้เกียจจะเชื่อแล้ว เดียว่าอย่างไปกะเกณฑ์อะไรเลย ถ้ามันได้แต่งก็แต่งค่ะ”
เผย มีสิทธิ์รับงานคู่แต่คงต้องเลือกงานตามความเหมาะสม ยินดีหากฝ่ายชายจะลงเล่นการเมือง แต่ตนขอไม่ยุ่งเกี่ยว เพราะไม่ถนัดแค่เป็นกำลังใจให้ก็พอ
“เรื่องรับงานคู่ถ้าเกิดมีเหตุที่จะต้องไปก็คงต้องไป แต่ถ้าอยู่ดีๆ ว่าวันนี้เราไปงานอีเว้นท์กันเถอะก็คงไม่ใช่แนวนั้น แต่ถ้าจะรับงานอีเว้นท์คู่เราต้องดูความเหมาะสมอยู่ดีๆ เราไปกันเถอะมันคงไม่ใช่แนวไหม(หัวเราะ) ส่วนเรื่องงานของเขาถ้าในอนาคตเขาลงสมาชิสภาผู้แทนราษฎรก็แล้วแต่เขา ก็อย่างที่บอกเราไม่ยุ่งเรื่องงานให้เขาทำไป เดียก็ไม่มีความสามารถในเรื่องการเมือง คงไม่มีไปช่วยหาเสียงอะไรอย่างมากก็คงให้กำลังใจกันในลักษณะนั้นมากกว่า ไปก็คงจะเกะกะเขาเปล่าๆ ”