“โอเด็ต” ยัน ขอจบเรื่อง “โย” ไม่คิดปรับความเข้าใจ เพราะต่างคนต่างอยู่กันมานานแล้ว จวก คู่กรณี ไม่เคยได้ให้ความช่วยเหลืออะไรเหมือนกับคำที่ให้สัมภาษณ์ บอก ต่อไปจะไม่คิดมากให้ปวดหัว ยัน ข่าวที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่องาน โว ตอนนี้เป็นนางแบบมาแรงในมาเลเซีย แต่ไม่คิดงานในวงการเมืองไทยแน่นอน
ออกปากไม่อยากนับญาติด้วย สำหรับนางแบบสาว“โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาแฉว่านางแบบสาว“โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน” ติดหนี้ค่าโทรศัพท์ตนกว่า5หมื่นบาท จนเป็นข่าวครึกโครมเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต่อมาโยก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทาง โอเด็ตใช้หนี้มาแล้วส่วนหนึ่ง พร้อมกับบอกว่าต่อไปนี้จะไม่ช่วยเหลืออะไรโอเด็ต และจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว ล่าสุดมีโอกาสได้เจอโอเด็ต ในงานประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่20 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟชติวัล พัทยาบีช จึงได้ถามถึงกรณีดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า
“เรื่องที่โยออกมาพูดว่าขอจบความสัมพันธ์ แล้วจะไม่ช่วยเหลืออะไรโอเด็ตอีกแล้ว จะบอกว่าเขาไม่เคยมาช่วยอะไรนะ แต่ก็ไม่รู้เรื่องนี้โอเด็ตจบแล้ว เขาจะพูดอะไรก็เป็นเรื่องของเขาโอเด็ตไม่เอาแล้วไม่ขอพูดดีกว่าพูดไปก็เข้าตัว เราไม่ได้มีอะไรกันอยู่แล้ว ต่างคนต่างอยู่มาตั้งนานแล้วด้วย โอเด็ตจบดีกว่า เขาจะพูดอะไรมันก็เรื่องของเขาเขาคิดมากไปเองปวดสมอง”
“เราก็ไม่รู้ทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้ แต่ว่าอะไรก็เกิดได้คนเราถึงแม้จะสนิทกันมากก็เถอะ มันเป็นเหมือนสัจธรรมมนุษย์ เพราะว่าโอเด็ตก็อยู่เมืองนอกจะให้ตามทุกคนตลอดเวลาก็ไม่ได้ค่ะ ค่าโทรศัพท์ก็แพง เราก็ไม่ต้องสนใจแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเพราะว่าเราก็ไม่ได้สนใจใส่ใจอะไรมากกับตรงนี้อยู่แล้ว เพราะว่าคิดมากไปก็ปวดหัว ตั้งแต่กลับมาที่เมืองไทยก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับโย เพราะว่าไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนไปเจอกันค่ะ”
แจง สามารถรับร่วมงานกับ “โย ยศวดี” ได้อยู่แล้ว เมิน คู่กรณีลั่นวาจาไม่ขอร่วมงานด้วย แต่ ไม่เข้าใจทำไมอีกฝ่ายต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“แต่ถ้าว่าเรื่องงานเราสามารถร่วมกันได้ตลอดอยู่แล้ว ยังไงงานก็ต้องมาก่อน เราไม่ใช่เด็กๆ ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังทำ เพื่องานจะได้ไม่เสียงาน แต่ถ้าเขาบอกว่างานไหนมีเขาจะต้องไม่มีโอเด็ตก็ช่างเพราะว่ามันคือหน้าที่เขาทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรมันก็เป็นเรื่องของเขา แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาด”
โว ตัวเองกำลังเป็นนางแบบมาแรง ในมาเลเซีย และเป็นโอกาสที่ดีจึงต้องรีบคว้าไว้ แต่งานเมืองไทยยังไม่ทิ้งแน่นอน
“ตอนนี้ก็มีงานอย่างต่อเนื่องงานที่มาเลเซียเยอะมากมีงานทุกวันเลย เดี๋ยวงานที่มาเลเซียจะเสร็จประมาณเดือนเมษายน จากนั้นก็กลับมาทำงานที่เมืองไทย งานเดินแบบก็กลับมาทำเหมือนเดิมไม่คิดจะทิ้งเมืองไทยหรอก ซึ่งงานที่มาเลเซียตอนนี้เรากำลังมาแรงมาก ถือว่าเป็นโอกาสก็รีบคว้าไว้ มันยังเป็นขาขึ้นอยู่ ก็เลยอยากจะกอบโกยไว้ก่อน”
