“จุ๋ย” ยัน ไม่ได้กิ๊ก “พอร์ช” รับ อีกฝ่ายเคยติดรถไปกองถ่าย แต่ไม่มีอะไร ยอมเปิดปากบอก ที่แท้เลิก “นิว” มาเกือบปี ทำใจได้แล้วแต่ยังไม่พร้อมมีคนใหม่ แม้จะมีหนุ่มๆ เข้ามาจีบมากหน้าหลายตาก็ตาม พร้อมประกาศปิดประตูหัวใจ เผย ถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็จะขอใช้ชีวิตโสดอย่างนี้ต่อไป
เพิ่งออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่ม “นิว วงศกร ปรมัตถากร” ไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ล่าสุดกลับมีข่าวว่า “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” แอบกิ๊กกั๊กกับพระเอกรุ่นน้องอย่าง “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” หลังได้มีโอกาสเล่นละครเรื่อง “มนต์รักแม่น้ำมูล” ด้วยกัน ถึงขั้นหนุ่มพอร์ชไปรับไปส่งถึงที่บ้าน แถมอยู่ในกองถ่ายทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกันจนเป็นที่ผิดสังเกต งานนี้เลยโดนลากไปเอี่ยวแบบเลี่ยงไม่ได้ว่า เป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าที่เป็นชนวนเหตุให้ความรักกับหนุ่มนิวต้องสะบั้นลงกลางคัน เจอเม้าท์แรงแบบนี้ร้อนถึงสาวจุ๋ยต้องออกโรงชี้แจงด้วยตัวเอง โดยยอมรับว่าสนิทกับพระเอกรุ่นน้องจริง แต่ไม่มีอะไร ทั้งนี้เจ้าตัวยังสารภาพด้วยว่า จริงๆ แล้วได้เลิกกับหนุ่มนิวมา 10 เดือนแล้ว
“ข่าวว่าเขาขับรถไปรับไปส่งจุ๋ยไม่จริงค่ะ จะไปรับส่งจุ๋ยได้ยังไง เพราะว่าจุ๋ยมีคนขับรถ แล้วก็จะมีพี่ช่างแต่งหน้าและคนที่ตามไปด้วยหลายคน ดังนั้นก็คือเป็นไปไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับว่าพอร์ชเข้ามาแทรกเลยค่ะ เพราะจะบอกว่าเรื่องมนต์รักแม่น้ำมูล จะเป็นละครที่เรียกได้ว่าเป็นละครแห่งปี(หัวเราะ) เพราะถ่ายมาจะปีนึงแล้ว และด้วยความที่พอร์ชต้องเข้ากับจุ๋ยตลอด ถ้าเข้ากับเวียร์ก็ต้องมีพอร์ชด้วย หรือไปไหนก็แล้วแต่ เขาก็ต้องมีจุ๋ย เพราะฉะนั้นก็เหมือนกับว่าน้องจะต้องถ่ายกับจุ๋ยตลอด”
“แล้วเขาก็ไม่มีมาหยอดหรือจีบเลย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าพอร์ชเขาเป็นคนร่าเริงมาก ร่าเริงเว่อร์ๆ(หัวเราะ) เวลาอยู่ในกองเขาก็จะสนิทกับทุกคน แต่จริงๆ แล้วเราก็สนิทกันหมดค่ะ แต่พอเป็นข่าวเราก็คุยกัน เขาก็ตกใจ เขากลัวทำเราเดือดร้อน แต่จุ๋ยก็บอกไม่เป็นไร ชิลล์ๆ ค่ะ จุ๋ยก็บอกเขาว่ามันคงเป็นกระแส เพราะข่าวอย่างนี้เหมือนกับคนที่ทำงานร่วมกันใครที่ดูใกล้ชิด ดูแปลกปลอมก็จะมีข่าวด้วย ก็บอกว่าให้ทำใจ”
“แต่บางครั้งพี่ๆ ในกองก็บอกว่าให้พอร์ช ให้เฟิร์น หรือธันวากลับด้วย ก็พามาที่ถ่ายทำด้วยเพราะว่าบางทีเราต้องไปถ่ายต่างจังหวัด แล้วทีมงานต้องไปกันแต่เช้า และนักแสดงบางท่านก็ต้องเข้าฉากพร้อมเรา แล้วเราก็เป็นแนวรถตู้ใหญ่ยักษ์ ก็จะฝากๆ มาด้วย แต่ว่าจะเป็นพี่ๆ ทีมงานเขาฝากมา ไม่ได้มีอะไร แต่ก็ไม่บ่อยค่ะ 2-3 ครั้ง บางทีก็เป็นธันวาบ้าง เป็นเฟิร์นบ้างก็แล้วแต่”
ปัด ที่ห่างกับ “นิว” ไม่ใช่เพราะปัญหาเรื่องร้านแน่นอน เพราะถึงตอนนี้อดีตแฟนหนุ่มก็ยังไปดูแลร้านตามปกติ และยังเก็บความรู้สึกดีๆ ต่อกันไว้อยู่
“จริงๆ มันก็เป็นผลของความห่างที่เราแต่ละฝ่ายก็กลับมาอยู่กับตัวเอง มาทบทวนว่าควรจะไปต่อไหมหรือจะหยุดความสัมพันธ์หรือลดสัมพันธ์ลง ก็เป็นพี่น้องกันดีกว่า เพราะว่าจะได้ไม่เสียเวลากันทั้งคู่ แต่ว่าความสัมพันธ์ดีๆ หรือว่าความทรงจำดีๆ ที่เรามีให้กันก็ยังมีอยู่ อย่างร้านพี่นิวก็เข้าไปดูเกือบทุกวัน เขาก็ยังดูแลร้าน แล้วก็ยังบีบีคุยกัน ยังฝากซื้อของกัน มันเหมือนคบกันมานานน่ะค่ะ ก็ยังเป็นพี่น้องกันได้หรือเป็นคนที่เราหวังดีช่วยเหลือกันได้”
“แต่ที่มีข่าวว่ามีปัญหากันเพราะเรื่องร้านอันนี้ไม่รู้มาได้ยังไง ไม่เป็นความจริงเลย คือไม่เคยทะเลาะกันเรื่องร้านเลยแม้แต่น้อย พี่นิวเป็นคนดีนะคะ แมนเลย เป็นคนสปอร์ตไม่ว่าจะเรื่องเงิน เรื่องงาน ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่เขายังเป็นคนดีในสายตาของเรา แต่ว่าบางครั้งต่างคนต่างมาจากคนละครอบครัว นิสัยอาจจะไม่เหมือนกัน บางครั้งเมื่อเวลาเราผ่านไป ณ จุดๆ นึงมันอาจจะไปด้วยกันไม่ได้ หรือเข้ากันไม่ได้ หรือด้วยความห่างของเวลาการทำงานก็แล้วแต่ มันทำให้เราห่างกัน บางทีเราก็ต้องยอมรับตรงนี้”
“จริงๆ เรื่องของการกลับมาเหมือนเดิมหรือรีเทิร์นมันเป็นเรื่องของอนาคตมากๆ ซึ่งจุ๋ยไม่สามารถจะตอบได้ว่าจะรีเทิร์นหรือไม่ แต่ ณ ปัจจุบันนี้จุ๋ยมีความสุขกับการที่ได้ทำอะไรคนเดียว ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ต้องคอยเป็นห่วงใคร บางทีเวลามีงานเยอะๆ ก็ไม่ค่อยมีเวลา และระยะเวลามันก็นานพอสมควรแล้วที่ห่างกัน 9-10 เดือนแล้ว มันก็จะมีเวลาที่เราทำใจกันสักพัก ก็เข้าใจและโตๆ กันแล้ว เราก็ไปกันโดยดี เราต่างคนต่างก็ห่างกันออกไป ไม่มีใครเปลี่ยนหรือว่ามีใครต้องทำให้ช้ำใจ เข้าใจด้วยสถานภาพที่ดำรงในแต่ละวันมากกว่า”
ย้ำ ไม่รู้เรื่องข่าว “นิว” กับสาวนอกวงการจริงๆ แต่ยังเชื่อไม่มีอะไร พร้อมบอกตอนนี้ทำใจได้แล้ว เพราะเลิกกันมาพักใหญ่แล้ว
“แต่เรื่องข่าวที่ว่าเพราะพี่นิวไปมีสาวนอกวงการ อันนี้ก็มีการคุยกันนะคะ คือพี่นิวเขาก็ไปเที่ยวจริงแต่ก็ตามประสาผู้ชาย แต่ว่าก็ไปเป็นแก๊งค์ๆ กัน ซึ่งคนที่ไปด้วยจุ๋ยก็รู้จักอยู่แล้ว แต่จุ๋ยไม่รู้จริงๆ เพราะวันที่มีพี่นักข่าวโทร.มาตอนนั้นจุ๋ยอยู่นครนายก ที่ให้ไปถามพี่นิวก็เพราะเราไม่รู้รายละเอียด จุ๋ยก็เลยตอบไปว่าไม่รู้จริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่เขา แล้วเราก็ห่างกันสักพักแล้วค่ะ ก็ถ้าเกิดเจอพี่นิวก็ลองถามดู แต่คิดว่ามันไม่น่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น”
“เราก็ให้โอกาสของแต่ละฝ่าย แต่สำหรับจุ๋ยปิดใจเพราะว่าจุ๋ยอยากจะอยู่นิ่งๆ สักพัก ถ้าว่างได้นานๆ ก็คงว่างไป เพราะจริงๆ คุณแม่ไม่ได้อยากให้แต่งงาน(หัวเราะ) คุณแม่อยากให้บวชชีหรือไงไม่รู้ เขาอยากให้อยู่ไปอย่างนี้ เขาก็เห็นเราเป็นเด็กตลอดเวลา ก็ถ้าอยู่เป็นโสดได้ก็จะอยู่ค่ะ”
“ตอนนี้ก็โอเค.นะคะ เพราะมันผ่านช่วงเวลาทำใจและเสียใจมาแล้วสักพัก ซึ่งมันนานมาแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้ป่าวประกาศบอกพี่ๆ สื่อว่าเราโสดมันก็ไม่ใช่ แต่สุดท้ายพี่ๆ ก็รู้กันเองก็เลยต้องบอก แต่อารมณ์เหงาๆ มันก็บ้าง แต่ว่าเรายังมีคนในครอบครัว มีเพื่อน มีแฟนคลับ แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้จะกลับไปติดเพื่อนที่โรงเรียนเก่า ก็นัดเที่ยวกัน หาโปรเจ็กต์ทำกัน แล้วเพื่อนกลุ่มนี้ไม่มีใครแต่งงานเลยสักคน ทุกคนบอกว่ากลุ่มเราโดนสาป(หัวเราะ)”
“หนุ่มๆ ก็มีเข้ามาบ้าง แต่เข้ามาทางเพื่อนมากกว่า ก็ถามว่าจริงหรือเปล่า เขารออยู่ ก็เป็นคนที่เขาเคยจีบมานานแล้ว แล้วก็มีคนใหม่ๆ เป็นคนนอกวงการ แต่ตอนนี้พูดจริงๆ ว่ายังไม่ได้คิดอะไรกับเขา ก็ยังไม่ใจอ่อนกับใครนะคะ แต่ไม่ได้คุยเองนะคะ เขาจะฝากคนอื่นมาบอก แต่จุ๋ยว่าก็คงเป็นทุกคนแหละ ที่พอโสดก็จะมีใครเข้ามา”
“น่าจะลองคบเด็กเหรอ(หัวเราะ) จุ๋ยว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต เราก็ตอบไม่ได้ว่าอนาคตเราจะเจอใคร และอายุเท่าไหร่ นิสัยยังไง สูง ต่ำ ดำ ขาว บางทีมันก็เข้ามาแบบเป็นพรหมลิขิต จุ๋ยก็ยังเชื่ออยู่ว่าถ้าเกิดมีคู่ของเราจริงๆ ถ้าเป็นคนที่ใช่ของเราจริงๆ เดี๋ยวก็เข้ามา ไม่ว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน แต่ถ้าอ่อนกว่าเยอะ ก็คิดหนักนิดนึงนะ เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลใคร และตอนนี้เหมือนเราไม่มีเวลา ดูแลไปก็ไม่ดี ดังนั้นก็อยู่เฉยๆ โสดๆ อย่างนี้ดีกว่าค่ะ”