ถึงตอนนี้...คงต้องบอกว่าน่าจะกลายเป็นนางเอกสาวที่ติดอันดับ "เอาแต่ใจ+จอมหึง" อันดับต้นๆ ในสายตาของคนที่ติดตามข่าวบันเทิงส่วนใหญ่ของบ้านเราไปเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับดารานักแสดงชื่อดังอย่างคุณ "อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ"
เพราะนับตั้งแต่เลิกรากับคุณ “ต๊อด ศิณะ อุ่นทรพันธ์" แล้วมาคบหาอยู่กับคุณ "โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์" ดูเหมือนจะมีข่าวที่ทำให้นางเอกชื่อดังคนนี้ต้องเล่นบทหนังแอ็กชั่นมาเฟียฮ่องกง "ผู้ชายข้าใครอย่าแตะ" อยู่อย่างต่อเนื่องทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นกรณีสาวประเภทสองอย่าง เอ็มมี่ รัชฎา ครุฑรามาษ, นางเอกอักษรย่อ "จ.", นักแสดงหญิงอักษรย่อ "ซ." รวมถึงรายล่าสุดไฮโซอักษรย่อ "ก." ที่มีการเฉลยแล้วว่าคือคุณ "เก๋ รุ่งนภา พงศ์ทิพย์สุคนธ์”(ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์) ซึ่งรายหลังนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างจะสะใจบรรดาผู้ที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นเป็นที่สุดหลังทั้งสองต่างออกมาให้ข่าวทำนองว่าเป็นการชี้แจง แต่ก็ปะปนด้วยคำพูดที่ซัดกันไปซัดกันมาคนละหมัดสองหมัด
ทุกครั้งที่มีข่าวทำนองนี้ออกมา แม้เราจะได้ยินนางเอกชื่อดังพูดย้ำเสมอในทำนองที่ว่าตนไม่ "อิจฉา" ไม่อยากจะไปสนใจ ถึงขนาดยอมยกฝ่ายชายให้ไปเลย ทว่าทุกครั้งเช่นกันครับที่จะต้องมีข่าวในทำนองที่ว่าเธอเองได้มีการเจรจาพูดคุยหรือจะเรียกกันให้เข้าใจง่ายๆ ว่า "เคลียร์" จะทั้งโดยทางตรงหรือต่อสายไปหากับคู่กรณีที่ตกเป็นข่าวด้วยทุกครั้งเช่นกัน
จะเป็นเพราะหึงหวง รักฝ่ายชายมากจริงๆ เอาแต่ใจ หรือเพราะเป็นคนตรง เวลามีอะไรก็ต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่อง หรือว่าอะไรก็ตาม ประเด็นนี้นอกจากคุณอั้มแล้วผมเชื่อว่าคงไม่มีใครหรอกครับที่จะเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเธอถึงได้แสดงออกถึงความเอาใจใส่ต่อคุณโน้ตมากมายเสียเหลือเกินชนิดที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ไม่สมกับการที่เธอมีดีกรีเป็นหนึ่งในระดับนางเอกชื่อต้นๆ ของเมืองไทยเลย โดยที่หลายคนก็อาจจะรู้สึกไปว่าเธอหึงเวอร์เกินไปหรือเปล่า?
ตรงนี้ก็แล้วแต่ใครจะคิดครับ เพราะอย่างที่บอกว่าผมเองมองเรื่องตรงนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวครับ
ที่ผมว่าน่าสนใจมากกว่าก็คือเรื่องของห้วงของระยะเวลาในการคบหากันของคนทั้งสองคน
จะว่าไปนี่ก็ร่วม 3 ปีเข้าให้แล้วนะครับที่คุณอั้มเธอมีข่าวเป็นเพื่อนสนิทกับคุณโน้ต ซึ่งด้วยระยะเวลาการคบหากันขนาดนี้ผมว่าทั้งคู่น่าจะได้มีการ "เรียนรู้" ตลอดจน "ซึมซับ" ซึ่งกันและกันอันจะนำมาซึ่งความ "เข้าใจ" และ "ยอมรับ" ต่อกันและกันในระดับหนึ่งแล้ว คืออาจจะไม่ต้องถึงขนาดที่มองตากันแล้วเข้าใจ หรือว่ามีอะไรไม่ต้องถามไม่ต้องเล่าก็ได้
เอาแค่เพียงถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเล่าให้ฟังหรือยืนยันในคำพูดแล้ว อีกฝ่ายก็สมควรที่น่าจะเชื่อใจกันก็พอแล้ว
ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะครับ แต่กับข่าวที่ออกมามันดูเหมือนกับว่ายิ่งคบกันนานขึ้นเท่าไหร่ นอกจากทางคุณอั้มเองดูเหมือนจะยิ่งไม่ค่อยไว้ใจฝ่ายชายสักเท่าไหร่แล้วในทางกลับกันดูเหมือนความระแวงจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก
เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลามีข่าวในทำนองนี้ทีไร เรื่องมักจะต้องไปลงเอยที่คุณอั้มกับบุคคลที่ 3 ตลอด ทั้งๆ ที่เรื่องทำนองนี้หากรักกันจริง เข้าใจกันจริง มีความจริงใจและปรารถนาดีให้แก่กันและกัน คุยกันแค่ 2 คนก็น่าจะเข้าใจกันแล้ว
แต่จะว่าไปก็น่าเห็นใจคุณอั้มนะครับ ด้วยความที่เป็นดาราดัง พอไปแตะใครเข้าหน่อยก็มักจะกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
บางทีบางเรื่องมันอาจจะมีแค่มูลแค่นั้นก็จริง แต่พอเป็นชื่อ อั้ม พัชราภา ปรากฏว่านอกจากจะมีขี้เพิ่มเข้ามาแล้ว ขี้ที่ว่ายังถูกใส่สีตีไข่เข้าไปจนทำให้กลายเป็นขี้หลากสีหลายสันชวนให้น่าติดตามอีกต่างหาก
อย่างกรณีล่าสุด ถ้าคุณอั้มรู้สึกว่าอีกฝ่ายพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ไม่ผิดหรอกครับหากจะออกมายืนยันพร้อมจับโกหกอีกฝ่ายได้ถึง 9 ข้อด้วยกัน ทว่าก็อีกนั่นแหละมันแทบจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย ดีไม่ดียังอาจจะถูกมองด้วยความหมั่นไส้อีกว่ามันจะอะไรกันนักกันหนาผู้หญิงคนนี้ก็อีแค่ผู้ชายคนเดียว
เรื่องทำนองนี้ยิ่งพูดก็ยิ่งบานปลาย ยิ่งพูดก็ยิ่งต่อความยาวสาวความยืดครับ แล้วถ้ายิ่งเรารู้สึกว่าอีกฝ่ายเขาเข้ามาเพราะอยากจะหาเรื่อง เขาอยากจะสร้างข่าว เขามาอาศัยเกาะกระแสความดังของเรา แล้วตัวเราเองจะยอมติดกับดักไปเป็นโทรโข่งป่าวประกาศโฆษณาให้เข้าทางเข้าเท้าเขาทำไมกันล่ะ?
ไม่ใช่เข้าทางคู่กรณีเท่านั้นนะครับ เข้าทางนักข่าวอีกต่างหาก
ทำตัวให้สุขุมขึ้น พูดให้น้อยๆ ชี้แจงแต่พองามๆ ไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว แล้วเอาเวลาอันมีค่ามาใส่ใจเรื่องงานดีกว่า
ว่ากันถึงฝีไม้ลายมือทางด้านการแสดงแล้ว โดยส่วนตัวผมคิดว่าคุณอั้มเองไม่ได้เป็นรองนางเอกฝีมือดีของบ้านเราคนอื่นๆ เลยครับ เพียงแต่ด้วยความที่เธอยึดแนวทางขายความเซ็กซี่เป็นหลักจนทำให้มีข่าวประเภทนมหก-หวอโผล่ออกมาค่อนข้างจะถี่ ประกอบกับข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับความรักเองก็ค่อนข้างจะมาก นั่นเองที่ทำให้ชื่อของคุณอั้ม พัชราภา มักจะเป็นชื่อของคำตอบที่ถูกนึกถึงทีหลังชื่อของคุณแอน ทองประสม เสมอเมื่อมีการตั้งคำถามขึ้นมาในทำนองที่ว่านางเอกที่มีคุณภาพของบ้านเรายุคนี้มีใครบ้าง?
ท้ายสุด ทั้งด้วยทางที่เลือกเดิน ทั้งด้วยตัวตนที่เป็นอยู่ ผมว่าคุณอั้มเองคงจะต้องเหนื่อยอีกนานที่จะต้องมาคอยคิดหรือคอยตอบคำถามกับประเด็นในทำนองเหล่านี้
ซึ่งถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณอั้มไม่ได้รู้สึกหรือคิดอะไรเลยก็ดีครับ
เพียงแต่ผมแค่เห็นแล้วให้รู้สึกเหนื่อยแทนเท่านั้นเอง
เพราะนับตั้งแต่เลิกรากับคุณ “ต๊อด ศิณะ อุ่นทรพันธ์" แล้วมาคบหาอยู่กับคุณ "โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์" ดูเหมือนจะมีข่าวที่ทำให้นางเอกชื่อดังคนนี้ต้องเล่นบทหนังแอ็กชั่นมาเฟียฮ่องกง "ผู้ชายข้าใครอย่าแตะ" อยู่อย่างต่อเนื่องทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นกรณีสาวประเภทสองอย่าง เอ็มมี่ รัชฎา ครุฑรามาษ, นางเอกอักษรย่อ "จ.", นักแสดงหญิงอักษรย่อ "ซ." รวมถึงรายล่าสุดไฮโซอักษรย่อ "ก." ที่มีการเฉลยแล้วว่าคือคุณ "เก๋ รุ่งนภา พงศ์ทิพย์สุคนธ์”(ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์) ซึ่งรายหลังนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างจะสะใจบรรดาผู้ที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นเป็นที่สุดหลังทั้งสองต่างออกมาให้ข่าวทำนองว่าเป็นการชี้แจง แต่ก็ปะปนด้วยคำพูดที่ซัดกันไปซัดกันมาคนละหมัดสองหมัด
ทุกครั้งที่มีข่าวทำนองนี้ออกมา แม้เราจะได้ยินนางเอกชื่อดังพูดย้ำเสมอในทำนองที่ว่าตนไม่ "อิจฉา" ไม่อยากจะไปสนใจ ถึงขนาดยอมยกฝ่ายชายให้ไปเลย ทว่าทุกครั้งเช่นกันครับที่จะต้องมีข่าวในทำนองที่ว่าเธอเองได้มีการเจรจาพูดคุยหรือจะเรียกกันให้เข้าใจง่ายๆ ว่า "เคลียร์" จะทั้งโดยทางตรงหรือต่อสายไปหากับคู่กรณีที่ตกเป็นข่าวด้วยทุกครั้งเช่นกัน
จะเป็นเพราะหึงหวง รักฝ่ายชายมากจริงๆ เอาแต่ใจ หรือเพราะเป็นคนตรง เวลามีอะไรก็ต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่อง หรือว่าอะไรก็ตาม ประเด็นนี้นอกจากคุณอั้มแล้วผมเชื่อว่าคงไม่มีใครหรอกครับที่จะเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเธอถึงได้แสดงออกถึงความเอาใจใส่ต่อคุณโน้ตมากมายเสียเหลือเกินชนิดที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ไม่สมกับการที่เธอมีดีกรีเป็นหนึ่งในระดับนางเอกชื่อต้นๆ ของเมืองไทยเลย โดยที่หลายคนก็อาจจะรู้สึกไปว่าเธอหึงเวอร์เกินไปหรือเปล่า?
ตรงนี้ก็แล้วแต่ใครจะคิดครับ เพราะอย่างที่บอกว่าผมเองมองเรื่องตรงนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวครับ
ที่ผมว่าน่าสนใจมากกว่าก็คือเรื่องของห้วงของระยะเวลาในการคบหากันของคนทั้งสองคน
จะว่าไปนี่ก็ร่วม 3 ปีเข้าให้แล้วนะครับที่คุณอั้มเธอมีข่าวเป็นเพื่อนสนิทกับคุณโน้ต ซึ่งด้วยระยะเวลาการคบหากันขนาดนี้ผมว่าทั้งคู่น่าจะได้มีการ "เรียนรู้" ตลอดจน "ซึมซับ" ซึ่งกันและกันอันจะนำมาซึ่งความ "เข้าใจ" และ "ยอมรับ" ต่อกันและกันในระดับหนึ่งแล้ว คืออาจจะไม่ต้องถึงขนาดที่มองตากันแล้วเข้าใจ หรือว่ามีอะไรไม่ต้องถามไม่ต้องเล่าก็ได้
เอาแค่เพียงถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเล่าให้ฟังหรือยืนยันในคำพูดแล้ว อีกฝ่ายก็สมควรที่น่าจะเชื่อใจกันก็พอแล้ว
ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะครับ แต่กับข่าวที่ออกมามันดูเหมือนกับว่ายิ่งคบกันนานขึ้นเท่าไหร่ นอกจากทางคุณอั้มเองดูเหมือนจะยิ่งไม่ค่อยไว้ใจฝ่ายชายสักเท่าไหร่แล้วในทางกลับกันดูเหมือนความระแวงจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก
เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลามีข่าวในทำนองนี้ทีไร เรื่องมักจะต้องไปลงเอยที่คุณอั้มกับบุคคลที่ 3 ตลอด ทั้งๆ ที่เรื่องทำนองนี้หากรักกันจริง เข้าใจกันจริง มีความจริงใจและปรารถนาดีให้แก่กันและกัน คุยกันแค่ 2 คนก็น่าจะเข้าใจกันแล้ว
แต่จะว่าไปก็น่าเห็นใจคุณอั้มนะครับ ด้วยความที่เป็นดาราดัง พอไปแตะใครเข้าหน่อยก็มักจะกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
บางทีบางเรื่องมันอาจจะมีแค่มูลแค่นั้นก็จริง แต่พอเป็นชื่อ อั้ม พัชราภา ปรากฏว่านอกจากจะมีขี้เพิ่มเข้ามาแล้ว ขี้ที่ว่ายังถูกใส่สีตีไข่เข้าไปจนทำให้กลายเป็นขี้หลากสีหลายสันชวนให้น่าติดตามอีกต่างหาก
อย่างกรณีล่าสุด ถ้าคุณอั้มรู้สึกว่าอีกฝ่ายพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ไม่ผิดหรอกครับหากจะออกมายืนยันพร้อมจับโกหกอีกฝ่ายได้ถึง 9 ข้อด้วยกัน ทว่าก็อีกนั่นแหละมันแทบจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย ดีไม่ดียังอาจจะถูกมองด้วยความหมั่นไส้อีกว่ามันจะอะไรกันนักกันหนาผู้หญิงคนนี้ก็อีแค่ผู้ชายคนเดียว
เรื่องทำนองนี้ยิ่งพูดก็ยิ่งบานปลาย ยิ่งพูดก็ยิ่งต่อความยาวสาวความยืดครับ แล้วถ้ายิ่งเรารู้สึกว่าอีกฝ่ายเขาเข้ามาเพราะอยากจะหาเรื่อง เขาอยากจะสร้างข่าว เขามาอาศัยเกาะกระแสความดังของเรา แล้วตัวเราเองจะยอมติดกับดักไปเป็นโทรโข่งป่าวประกาศโฆษณาให้เข้าทางเข้าเท้าเขาทำไมกันล่ะ?
ไม่ใช่เข้าทางคู่กรณีเท่านั้นนะครับ เข้าทางนักข่าวอีกต่างหาก
ทำตัวให้สุขุมขึ้น พูดให้น้อยๆ ชี้แจงแต่พองามๆ ไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว แล้วเอาเวลาอันมีค่ามาใส่ใจเรื่องงานดีกว่า
ว่ากันถึงฝีไม้ลายมือทางด้านการแสดงแล้ว โดยส่วนตัวผมคิดว่าคุณอั้มเองไม่ได้เป็นรองนางเอกฝีมือดีของบ้านเราคนอื่นๆ เลยครับ เพียงแต่ด้วยความที่เธอยึดแนวทางขายความเซ็กซี่เป็นหลักจนทำให้มีข่าวประเภทนมหก-หวอโผล่ออกมาค่อนข้างจะถี่ ประกอบกับข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับความรักเองก็ค่อนข้างจะมาก นั่นเองที่ทำให้ชื่อของคุณอั้ม พัชราภา มักจะเป็นชื่อของคำตอบที่ถูกนึกถึงทีหลังชื่อของคุณแอน ทองประสม เสมอเมื่อมีการตั้งคำถามขึ้นมาในทำนองที่ว่านางเอกที่มีคุณภาพของบ้านเรายุคนี้มีใครบ้าง?
ท้ายสุด ทั้งด้วยทางที่เลือกเดิน ทั้งด้วยตัวตนที่เป็นอยู่ ผมว่าคุณอั้มเองคงจะต้องเหนื่อยอีกนานที่จะต้องมาคอยคิดหรือคอยตอบคำถามกับประเด็นในทำนองเหล่านี้
ซึ่งถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณอั้มไม่ได้รู้สึกหรือคิดอะไรเลยก็ดีครับ
เพียงแต่ผมแค่เห็นแล้วให้รู้สึกเหนื่อยแทนเท่านั้นเอง