เยอะสไตล์ ซุป'ตาร์ : “มอส-เกม” แฟชั่นวีก

ปีนี้ “มอส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ “เกม” ดวงพร ลือกิตินันท์ รวบบรรยากาศแห่งรักในค่ำคืนวาเลนไทน์ ไปอยู่ที่งานหมั้น (30 มีนาคม) และงานฉลองสมรส (3 เมษายน) ด้วยธีม “มอส- เกม แฟชั่นวีก” โดยคู่บ่าวสาวจะประเดิมด้วยการแคตวอล์ก ตามด้วยกลุ่มเพื่อนๆ ที่เป็นทั้งดารา - นายแบบ - นางแบบ นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งในฐานะของเจ้าบ่าวที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่เจ้าสาวให้เป็นความประทับใจจารจารึกในดวงใจไม่รู้ลืม
 

แคตวอล์ก ฝันของ “มอส”
แม้ว่า “มอส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ จะผ่านงานหลายอย่างในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบ การแสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ การร้องเพลง เล่นคอนเสิร์ต เล่นมิวสิกวิดีโอ เป็นพิธีกร เล่นละครเวทีในแนวมิวสิคัล การแสดงโฆษณา และการเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ แม้กระทั่งเป็นคอลัมนิสต์ ขาดก็แต่เพียงอย่างเดียวคือ การเป็นนายแบบบนแคตวอล์ก !! เท่านั้นเอง เหตุผล 2 ประการที่ทำให้มอสไม่สามารถเดินอยู่บนแคตวอล์กคือ หนึ่ง. ส่วนสูงไม่ได้มาตรฐาน และสอง. เป็นคนขาโก่ง !!

ดังนั้น … ความฝันที่อยากจะเป็น “ซูเปอร์โมเดล” จึงถูกกักเก็บและบันทึกไว้ในใจอย่างเงียบๆ มานาน … และในวันที่ 3 เมษายน 2554 นี้ เขาจะก้าวย่ำด้วยความมั่นใจบนฝีเท้าอันมั่นคงไปกับ “มอส - เกม แฟชั่นวีก” ธีมงานฉลองสมรสที่เซ็นทาราแกรนด์ซึ่งไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ความฝันเมื่อวันวานเกำลังเป็นจริงในวัย 38 ปี

หลักสูตรแฟนซุป'ตาร์
ถ้าว่ากันตามศัพท์ในยุคนี้ก็ต้องบอกว่า “เยอะ” !! เชื่อหรือไม่ว่า “มอส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ผู้นี้เคยสร้าง “หลักสูตรแฟนซูเปอร์สตาร์” ให้แก่ “เกม” ดวงพร ลือกิตินันท์มาแล้ว ออกจะเวอร์เพราะยกตำแหน่งขึ้นเทียบ “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ นักร้องรุ่นพี่ในค่ายเดียวกัน แต่ในยุคหนึ่งต้องยอมรับว่าในละครซิตคอมเรื่อง “ 3 หนุ่ม 3 มุม” ที่เขาเล่นตั้งแต่ปี 2534
จนกระทั่ง “มอส” แก่เกินแกงในปี 2541 พร้อมๆ กับการลาบท “พีรพล” ที่เป็นส่วนหนึ่งของทุกบ้านช่อง ส่วนผลงานเพลงชุดแรก Mr. Mos ยอดขายสูงสุดถึง 1 ล้าน 5 แสนแผ่น จนถึงวันนี้ ...มีผลงานทั้งสิ้น 9 ชุดเมื่อปี พ.ศ. 2551 ณ วันนี้เขาโยกตัวเองจากส่วนที่เป็นแกรมมี่มาอยู่ภายใต้การดูแลของเอ็กแซ็กท์ หลายเรื่องราวตามหลักสูตรแฟนซูเปอร์สตาร์ เขาเคยยอมรับว่า

“ ผมคิดให้มันเยอะเข้าไว้ไง บางทีรู้ตัวว่าตั้งกฎโหดไปเหมือนกัน ถึงไปด้วยกันก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ทำให้ดูเยอะเข้าไว้จะได้ดูเป็นซูเปอร์สตาร์ตลอดเวลา ผมบอกเธอว่า เกมจะได้มีประสบการณ์ไม่เหมือนใครไง คนอื่นเขานัดกันเฉยๆ ของเรามีเรื่องเล่าจมเลย”

ลองมาดูหลักสูตรนี้ ทว่า ไม่หล่อ ไม่แน่ ไม่เวอร์ ไม่เยอะ ห้ามเลียนแบบเด็ดขาด !!

กินข้าวด้วยกัน - จะกินข้าวตามร้านรวงอย่างคนธรรมดาสามัญก็ไม่ได้ ต้องกินกันบนรถ จนกระทั่งคราวหนึ่ง หิวมากด้วยกันทั้งคู่ เจอร้านอาหารทะเล ทั้งร้านไม่มีแขกโต๊ะอื่นเลย แต่มอสกลับบอกว่าพี่จะลงไปกินก่อน ทั้งๆ ที่เกมเองก็หิวจนไส้กิ่วเหมือนกัน เมื่อกินเสร็จขึ้นรถแล้วจึงปล่อยอีกคนลงไปนั่งกิน

ดูหนังด้วยกัน - โรงภาพยนตร์ย่านชานเมือง ที่นั่งซึ่งเลือกประจำคือ A1 และ A2 เพื่อให้ลุกเดินออกจากโรงได้สะดวก มอสจะเข้าโรงหนังก่อน ส่วนเกมจะเดินถือตั๋วเตร็ดเตร่จนกระทั่งหนังฉายแล้วถึงเข้าไปนั่ง ขณะที่หนังจบ มอสเดินลงบันไดไปลานจอดรถ ขณะที่เกมเดินลงทางบันไดเลื่อนของห้าง จนวันหนึ่ง รอบที่เกมสุดทนก็มาถึง รอบนั้น คนดูน้อย กว่าหนังจะจบก็ปาเข้าไปตอนตี 1 บันไดเลื่อนในห้างก็ไม่ทำงานแล้ว เธอต้องเดินลงมาคนเดียวในห้างฯ มืดๆ ผู้หญิงคนเดียวเดินอย่างนั้น เป็นใครก็ต้องกลัว เธอตั้งคำถามกับมอสในรถว่า

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเกม พี่มอสจะทำอย่างไร !?”

มอสได้แต่อึ้ง เพราะที่เกมพูดมานั้นก็เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้

เรื่องที่ยาก เพราะต้องทนสุดๆ สำหรับการเป็นแฟนซุป'ตาร์คือ “การเป็นผู้หญิงในเงามืด” ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น คงยากที่จะทน แต่สำหรับ “เกม” ดวงพร ลือกิตตินันท์ ที่ทำงานพีอาร์มาก่อน เข้าใจว่าแสดงอะไรมากไม่ได้ แม้ว่าจะโกรธกับบางเรื่องราวเพียงไร เพราะเธอมีหน้าที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของศิลปินอยู่ด้วย

ปลูกต้นรักมานานกว่า 9 ปี
นับเป็นคู่รักที่แสนทรหดอีกคู่หนึ่ง ที่คบหากันมายาวนานท่ามกลางเรื่องราวของความสุข และทุกข์เป็นระยะ เพราะนอกจาก “หลักสูตรแฟนซูเปอร์สตาร์” ที่เธอต้องทนปฏิบัติแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ระหว่างการคบหายิ่งกว่านั้น …

“เกม” ดวงพร ลือกิตินันท์ จบอักษรศาสตร์จากรั้วจามจุรี และก้าวเข้าเป็นพีอาร์คอร์ปอเรตของแกรมมี่ พีอาร์ในรุ่นนี้หน้าแจ่มทุกคน ส่วนงานที่ “เกม” ดวงพรรับผิดชอบคืองานประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสังคมทั้งปวง

ณ วันที่ทั้งคู่รู้จักกัน ต่างก็มี “พันธะในใจ” อยู่

ศิลปินหนุ่มอย่าง “มอส” รู้สึกได้ทันทีที่รู้จักกับ “เกม” แต่แรกพบว่าคนนี้ใช่ !! เกมไม่เคยสนใจความดังของ “มอส - ซุป'ตาร์” แต่ชอบความเป็นปฏิภาณ ปฐวีกานต์ !! ดังนั้น … เมื่อคิดว่า “ใช่” ..มอสพอใจที่จะอยากอยู่ใกล้ชิดเกมด้วยการปวารณาตัวเป็นศิลปินช่วยสังคม (ซึ่งไม่ได้เงิน) ส่งผลให้ในช่วงนั้นมอสได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆมากมาย

คราวหนึ่งเกมล่วงหน้าไปดูแลงานนอกสถานที่ ขณะเดียวกันก็ส่งน้องพีอาร์คนอื่นไปรับมอสที่บ้าน ทันทีที่มอสไม่เห็นเกมก็ขอเข้าห้องน้ำก่อนออกจากบ้าน โดยโทร.หาปรีชา ภาคอุทัย ผู้อำนวยการบริหารศิลปินทันที เสียงดังหงุดหงิดถามว่า “พี่แดง … ทำไมไม่ใช่เกม” เมื่อได้รับคำตอบว่าเกมอยู่ที่งานแล้ว มอสเลยต้องเฉไฉว่ามีเรื่องคุยค้างกันอยู่ เรื่องราวต่างๆ นี้คงจะมีการส่งสารต่อเป็นทอดๆ พอมอสมาถึงงาน “นกน้อย” พรพิชิต พัฒนถาบุตร เป็นคนเปิดฉากแซวว่า “ชอบเกมเหรอ” ยังไม่ทันตั้งตัวนกน้อยก็ทำหน้าที่กามเทพอุ้มสมด้วยการจับมือทั้งคู่มาแตะกัน ...เรื่องราวของมอสกับเกมเริ่มต้นกันมาตั้งแต่คราวนั้น

เมื่อเกมเลิกกับแฟนเก่า มอสเองก็พลอยหายหน้าเพราะไม่อยากเป็นมือที่ 3 เมื่อผ่านไประยะหนึ่งถึงได้กลับมาคบกันใหม่ จนกระทั่งฝ่ายหญิงมาทราบภายหลังว่ามอสมีผู้หญิงที่คบอยู่แล้ว เรื่องราวมากมายจึงเข้ามาให้ชีวิตได้ผกผัน สุดท้าย … มอสตัดสินใจหายหน้าหายตา ไม่ติดต่อผู้หญิงทั้งคู่เป็นเวลานาน 6 เดือน เมื่อถามใจแล้วจึงเริ่มโทร.หาเกมอีกครั้ง

มื่อ “เกม” ดวงพร ลือกิตินันท์ ลาออกจากงานพีอาร์ไปช่วยธุรกิจที่บ้านในจังหวัดชลบุรี ก็เป็นที่ประจักษ์ว่า นอกจากงานแล้วก็อยู่กับเกม ไม่ได้ไปพักแวะที่หนแห่งใด กิจวัตรที่ปฏิบัติคือ เมื่อมอสมีเวลาพักจากกองละครเพียง 2 -3 ชั่วโมงก็จะบึ่งรถไปกินข้าวด้วย หรือถ่ายละครดึกแค่ไหนก็จะแวะไปกินข้าวด้วยกันก่อนกลับบ้าน

เดอะเซอร์ไพรส์ซีรีส์
บุคลิกและเอกลักษณ์ของ “มอส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์คนนี้ มักจะมีเซอร์ไพรส์ให้เธอเป็นประจำสม่ำเสมอ จนชีวิตมีแต่ความตื่นเต้น ประหนึ่งว่าได้ชมละครที่แสนจะเร้าใจอยู่ตลอดเวลา

เมื่อวันที่ “เกม” ดวงพรไปดูงานที่ประเทศอังกฤษหลายสิบวัน มีอยู่วันหนึ่งเกมโทร. บอกว่ากินข้าวอยู่ที่ร้านนี้ อยู่ดีๆ ก็มีพนักงานในร้านที่เป็นฝรั่งเดินถือช่อดอกไม้มาให้ และบอกว่า “from Mos”

ตอนที่ “เกม” ดวงพรไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ พอถึงหอพักปุ๊บ รูมเมตก็สงสัยว่าทำไมมีกล่องพัสดุส่งมาให้เกม แสดงว่าต้องมีการส่งล่วงหน้า เปิดกล่องเป็นตุ๊กตาหมีกับการ์ดที่เขียนว่า เป็นอย่างไรบ้างต้องนั่งเครื่องไปคนเดียว ที่แท้มอสได้เก็บรายละเอียดในช่วงที่เกมติดต่อโรงเรียนและถามว่า เดินทางวันไหน พักที่ไหน ไว้หมดเพื่อจะวางแผนเซอร์ไพรส์คนรัก และในช่วง 1 ปีที่เธอเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มอสบินไปหาถึง 4 ครั้ง

และที่เป็นตำนานรักอีกเรื่องหนึ่งที่นำพามาสู่งานหมั้นและพิธีฉลองสมรสในเร็ววันนี้ก็คือ การบอกรัก
“บอกรัก” ในสไตล์ซุป'ตาร์ มันก็ต้องเนียนและมีเรื่องมีราวสักหน่อยเพื่อให้ดูว่าเป็น “นักแสดงตัวจริง” !!

หนแรก “มอส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์หมายจะสร้างเรื่อง “เจ็บเกือบตาย” เพราะถูกรถชน แต่เกรงว่าฝ่ายหญิงจะตกใจกลัวจนโกรธ แถมอาจจะมีตบหน้า 1 ฉาดก่อนที่จะเดินเชิดใส่จากไปอย่างไม่ไยดี

สรุปมาอยู่ที่การทำหนังสั้น 4 เรื่อง โดยใช้วันเกิดของ “มอส” - 23 มีนาคมในปีหนึ่งเพื่อดำเนินการ โดยสร้างเรื่องว่า รุ่นน้องนัดให้ไปดูหนังตัวอย่าง !! ในเวลา 10 โมงเช้า แล้วขณะที่เกมดูหนังและมอสขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ภายในโรงภาพยนตร์ก็จะมีการซ่อนกล้องเพื่อแอบถ่ายทุกช็อตซ้อนอีกครั้งหนึ่ง !! ฉากแรกของหนังเริ่มต้นที่เสียงมอส

“ ผมไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมไม่รู้ว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” จากนั้น ...ภาพที่มอสกำลังรื้อและหยิบรูปถ่ายของเกมใบหนึ่งขึ้นมาเริ่มเข้ามาในจอ และตามด้วยประโยคนี้ … “สิ่งที่ผมจำได้มีเพียงสิ่งเดียวคือ ผู้หญิงคนนี้”

หนังสั้นเรื่องที่ 2 เป็นของขวัญที่ “เกม” ดวงพรได้รับ เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่มอสกับเกมเคยคุยกันเกี่ยวกับอนาคต

เมื่อหนังสั้นเรื่องแรกมาถึงช่วงที่มอสหยิบรูปเกม เธอรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ให้มาคอมเมนต์หนังของรุ่นน้องแต่ประการใด จนหนังเรื่องต่างๆ ผ่านมาถึงช่วงอนาคตร่วมกันเท่านั้นแหละ น้ำตานางเอกตัวจริงของมอสก็เริ่มร่วง พระเอกหนุ่มเขียนบทวาดฝันได้ว่า เขาคงจะเห็นรอยยิ้มทั้งน้ำตาของว่าที่คนรัก จากนั้น … “ มอส ซุป'ตาร์” จะเดินมาบอกว่า วันนี้เป็นวันเกิดพี่ ของขวัญที่พี่จะขอจากเกมคือ แต่งงานกันนะ” ว้าว … สวีต … จากนั้นก็จะกอดกันกลม

ปรากฏว่า “น้ำตานาง” ในครั้งนั้นผิดคาด เพราะเสียงของนางร้องไห้สะอึกสะอื้น ฮัก ..ฮัก … เป็นเผาเต่าจนต้องประคองกลับบ้านโดยที่ไม่ได้เอิ้นแต่อย่างใด !!

ทั้ง “มอส - เกม” ไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีรีตองด้วยกันทั้งคู่ เคยวาดฝันร่วมกันว่าจะแต่งงานกันที่ชายทะเล เมื่อนำความไปปรึกษาผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็เห็นว่าไม่ควรจะเป็นส่วนตัวขนาดนั้น ดังนั้น … เรื่องราววันนี้ก็เลยกลายเป็น “มอส - เกม แฟชั่นวีก” การแต่งงานบนเรื่องราวของแฟชั่นคู่แรกในประเทศไทย !! เพราะซุป'ตาร์ ไม่มีอะไรที่ธรรมดาอยู่แล้ว
.......................................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 71 วันที่ 12 - 18 กุมภาพันธ์ 2554