“นาวิน ต้าร์” หน้าบาน “พลอย” ไปรับที่สนามบิน บอก ที่สวมกอดกันกลมแค่ทำตามประสาคนคิดถึงกัน ดีใจพลอยซื้อเก้าอี้ที่ตนชอบให้เป็นของขวัญ ตั้งชื่อ “เก้าอี้ท่านด็อกฯ” เผย จะกลับมาอยู่เมืองไทยถาวร อยากเป็นอาจารย์รับใช้ชาติต่อไปอีก 70 ปี พร้อมตอกหน้าหมอดูทักไปกันไม่รอด บอก อย่างนั้นก็ไม่แม่นแล้ว ฟุ้ง มีงานคู่รุมจ้างเพียบ แต่ไม่คิดฉวยโอกาสอัพค่าตัว
คว้าปริญญาเอกกลับมาเมืองไทยเรียบร้อย สำหรับด็อกเตอร์ “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” ดาราและนักร้องหนุ่ม ซึ่งพอเท้าแตะเมืองไทยปุ๊บแฟนสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ก็ต้อนรับด้วยการสวมกอดกันกลม กลางสนามบินกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ได้เจอด็อกเตอร์ นาวิน ต้าร์ ในงาน CPN Chinese New Year2011 ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวเลยออกโรงชี้แจง พร้อมกับประเด็นอื่นๆ ว่า....
"วันนั้นที่พลอยเซอร์ไพรส์ก็รู้สึกดีใจมากครับ เป็นเซอร์ไพรส์ที่ไม่ได้คิดมาก่อน เราไม่คิดว่าจะเจอใคร พอมาถึงได้เห็นพลอยก็ดีใจ ส่วนดอกไม้ที่ได้รับ ก็ผมใส่แจกันไว้แล้ว ก็เก็บไว้จนมันจะเหี่ยว ส่วนภาพกอดที่สนามบิน มันก็เป็นเพราะคนคิดถึงกันจริงๆ ไม่รู้ว่ามีกล้องเยอะ(หัวเราะ) เราก็ทำตามสิ่งที่เรารู้สึก"
"ส่วนของขวัญ เก้าอี้ที่พลอยซื้อให้ก็ชอบมากครับ มันเป็นช่วงก่อนที่ผมจะไปทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จ ก็ไปดูเก้าอี้ไว้ตัวนึง กลับมาเดี๋ยวเราจะซื้อมันเป็นเก้าอี้กตัวเล็กๆ ผมก็เห็นว่าเก้าอี้ตัวนี้มันอยู่ที่บ้านผมแล้ว เขาอุตส่าห์จำได้ เขาไปซื้อที่ร้านมาให้เป็นเก้าอี้ตัวโปรด ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น พลอยเขาตั้งชื่อให้ว่าเก้าอี้ท่านด็อก ให้ท่านด็อกนั่งก็ขำๆ (หัวเราะ)”
“หลังจากนี้จะมีงานคู่กันไหม อืม เรามีงานคู่กันอยู่แล้วครับ ส่วนงานอีเว้นท์ก็มีติดต่อเข้ามาเยอะ คล้ายๆ กับว่าผมก็ไม่ว่าง พลอยก็ยุ่งถ่ายละครด้วย แล้วแต่ความเหมาะสมและก็คงไม่คิดค่าตัวอะไร ไม่หรอกครับ ไม่งั้นคงรวยมากไปกว่านี้แล้ว ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก งานคู่มันมีเรทของมันอยู่ ไม่ได้คิดว่ามีกระแสแล้วต้องแพงขึ้น ส่วนเรื่องถ่ายแบบคู่กันก็คงมีครับ พอดีผมสนิทกับบก.หนังสือเล่มนี้ ก็คงถ่ายให้แค่ที่นี่ที่เดียว เล่มเดียว มีติดต่อเข้ามาเยอะ แต่เราไม่อยากเยอะมาก เอาพอหอมปากหอมคอก็พอ เพราะว่าเราก็ทำไปอย่างเป็นธรรมชาติ คอนเซ็ปต์จะหวือหวาไหมต้องรอดูครับเร็วๆ นี้น่าจะได้เห็น”
“ตอนนี้เรียนจบด็อกเตอร์แล้ว เป็นด็อกเตอร์แล้วนะครับ ก็คงอยู่เมืองไทยยาวแล้ว หลังจากนี้ไป ก็จะเป็นการทำงานรับใช้ชาติต่อไป คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดี เราอยู่ต่างประเทศมานานได้กลับมาอยู่บ้านแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ดีของชีวิต เราทำสิ่งที่หวังไว้ได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้อยากจะกลับมาใช้ความรู้ทุกๆ อย่างที่เรียนมาในการสอนให้กับนักเรียน ก็ตื่นเต้นดีใจครับ เราอยากผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสู่สังคมครับ ก็คิดว่าผมจะต้องเป็นด็อกเตอร์ ซึ่งมันเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องทำต่อไปอีก70 ปี ที่เหลือ เพราะผมจะอยู่อีก100 ปี (หัวเราะ)”
“จะกลับไปรับปริญญา ประมาณต้นเดือนมิถุนายนของปีหน้า คิดว่าจะกลับไปรับ คนอเมริกันไม่ค่อยให้ความสำคัญต่องานเฉลิมฉลองแบบนี้มากนัก แต่ว่ามันก็จะเป็นงานอีกอย่างที่ใครอยากจะมาก็มาได้ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ ท่านอยากที่จะเห็นความสำเร็จอันนี้ก็คิดว่าจะบินกลับไปพร้อมๆ กับครอบครัว จะไปแสดงความยินดีให้ผมที่นั่น ผมก็ชวนพลอยไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะว่างหรือเปล่า(ยิ้ม) พลอยเขายุ่งมาก เราก็ชวนตั้งแต่เนิ่นๆ เขาจะได้ไปได้ ก็อยากให้เขาได้ไปร่วมด้วย ก็หวังว่าเขาจะไปได้”
เมิน หมอดูทักว่าจะเลิกกับพลอย และฝ่ายหญิงจะกลับไปรีเทิร์นกับหนุ่ม “โดม ปกรณ์” เจ้าตัว บอกไม่ได้เชื่อทั้งหมด แค่ฟังไว้เพื่อเตือนสติ สวนกลับ ระวังจะทักผิด ยัน ไม่คิดหึงพลอยกับโดมที่แสดงละครด้วยกัน เพราะเป็นคนใจกว้าง
“ส่วนเรื่องที่ว่าหมอดูทัก ว่าผมกับพลอยจะไปกันไม่รอด ก็พอทราบมาบ้าง สำหรับเรื่องนี้เราก็เลือกที่จะระวังมากกว่า ไม่ได้คิดว่าเรื่องหมอดูจะเป็นหมอเดาซะทีเดียว มันเป็นเรื่องที่สามารถเตือนสติเราได้บ้าง ส่วนเรื่องที่เขาทักว่าจะเลิกกัน ก็เขาต้องระวังนิดนึงเพราะว่าเขาอาจจะทักผิด(หัวเราะ) ที่ทักว่าจะรีเทิร์นแฟนเก่า สำหรับตัวผมจริงๆ ไม่ได้มองอนาคตมากไปกว่าสิ่งที่เป็น เราโฟกัสกับปัจจุบัน”
“พลอยกับโดมเล่นละครคู่กัน ผมคิดว่ามันเป็นการทำงานอย่างหนึ่ง เราก็ใจกว้างเราให้อิสระ ให้เขาทำงานและรับงานอย่างเต็มที่ ผมไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพราะเป็นการตัดสินใจของเขา เราก็เคารพในทุกอย่างที่เขาคิด ไม่มีปัญหาครับ โดยธรรมชาติของผมไม่ใช่คนขี้หึงเท่าไหร่ บางทีออกจำไม่ขึ้หึงเลย จนเขาคงคิดว่าทำไมไม่หึงฉันเลย(หัวเราะ) มันไม่ได้คิดอะไรเพราะว่ารู้มันคือการทำงาน และเขาก็คือเพื่อนกัน”
ส่วนกับ “ได๋ ไดอาน่า” ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ ปัด “พลอย” ห้ามไม่ให้ติดต่อกับอีกฝ่าย ส่วนเรื่องฉายาของทั้งคู่ เจ้าตัวไม่อยากรื้อฟื้น เพราะตนเป็นต้นเหตุ
“กับได๋ เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จริงๆ ไม่ได้คุยกับเขานานมากแล้ว ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมากผมก็อยู่ตรงนี้ พยายามที่จะไม่คิดร้ายกับใคร และจะรู้สึกดีต่อทุกๆ คน คงไม่ถึงขนาดต้องเลิกติดต่อกัน เพราะไม่อยากมีปัญหา มันคล้ายๆ กับว่าเราไม่ได้โคจรมาพบกัน เราปล่อยให้เป็นไปธรรมชาติ ไม่ได้เจอกันอีก เราก็ไปเรียนที่เมืองนอกด้วย ไม่อยากให้มันเป็นปัญหามากมาย ไม่เกี่ยวด้วยว่าพลอยห้ามร่วมงานกับได๋ มันห้ามกันไม่ได้ เราเคารพซึ่งกันและกัน ไม่อยากที่จะให้คนอื่นเข้ามามีผลกระทบต่อเรา สำหรับผมกับพลอยเราก็รู้สึกดีๆ ให้กันเสมอ”
“ส่วนเรื่องฉายาของพลอยและได๋ ถามผมว่ารู้สึกยังไง ผมต้องถามกลับว่าใครตั้งให้ล่ะ ไม่ใช่พวกพี่เหรอ (หัวเราะ) แต่จะมาบอกว่าเป็นเพราะผม ซึ่งผมไม่อยากจะรื้อฝื้นอะไร อยากให้มันจบ ปีใหม่แล้ว เรามองไปข้างหน้าจะดีกว่า เราผ่านอะไรมาเยอะ อยากให้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด”