xs
xsm
sm
md
lg

จากนรกสู่สวรรค์กับหนึ่งปี ‘Super บันเทิง’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ต่อพงษ์ เศวตามร์ ผู้อำนวยการช่อง
บนเวทีการแสดง One Standup Comedy ครั้งที่ 4 ของ ‘เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา’ หรือ ‘น้าเน็ก’ เขาบอกว่า “ข่าวบันเทิงเป็นข่าวที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ ไม่เหมือนข่าวการรายงานสภาพดินฟ้าอากาศ หรือข่าวการขึ้นลงของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์” หลังแสดงทรรศนะผู้ชมที่นั่งชมอยู่หลายคนหัวเราะออกมา ในจำนวนผู้ชมที่อ้าปากเปล่งเสียงหัวเราะเหล่านี้ครึ่งหนึ่งทำงานข้องแว้งอยู่ในวงการบันเทิง และอีกครึ่งหนึ่งเสพข่าวบันเทิงเป็นกิจวัตร
 
อวดนม โชว์ก้น เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ดาราคนนั้นเปลี่ยนแฟน ดาราคนนี้แย่งสามีชาวบ้าน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่นักข่าวบันเทิงนิยมนำมาขาย และมันก็ทำให้ผู้คนในสังคม’เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง’ แสดงอาการ ‘ยี้’ ข่าวบันเทิงในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่เคยพลาดที่จะตาโพลงหูผึ่งไปกับข่าวคาวๆ ในวงการบันเทิงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน

ด้วยทัศนคติที่สังคมมีต่อข่าวบันเทิงดังกล่าวนี้เอง ที่ทำให้ช่อง Super บันเทิง ถือกำเนิดขึ้นมา ด้วยเจตนารมณ์ของ ‘ต่อพงษ์ เศวตามร์’ ผู้อำนวยการช่องที่จะฟื้นฟูศักดิ์ศรีของคนทำข่าวบันเทิง และถือว่าช่อง Super บันเทิงเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายขององคาพยพข่าวบันเทิงของเอเอสทีวีผู้จัดการ หลังจากที่สื่อบันเทิงในรูปแบบหนังสือพิมพ์และอินเทอร์เน็ตประสบความสำเร็จไปอย่างสวยงามแล้ว

ในเมื่อต่อพงษ์กับทีมนักข่าวของเขาเคยทำให้ผู้เสพข่าวบันเทิงเข้ามาอ่าน เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ manager.co.th ได้วันละหลายหมื่น ทำไมเขาจึงจะทำในลักษณะเดียวกันกับสื่อโทรทัศน์ไม่ได้ เมื่อแนวคิดเช่นนี้เกิดขึ้น และผู้ใหญ่ของสถานีอนุมัติ ต่อพงษ์จึงเดินหน้าโปรเจคดังกล่าวอย่างเต็มกำลัง ทุ่มเทกำลังสมองและเวลาคิดทั้งชื่อ โลโก้ รูปแบบรายการ ฯลฯ ด้วยตัวเอง

รสชาติของรายการต่างๆ ในช่อง Super บันเทิงจัดจ้านถึงใจตามสไตล์การบริหารงานของเขา โดยเฉพาะรายการเขย่าจอที่เป็นการต่อยอดมาจากรายการต่อปากต่อพงษ์ที่มีแฟนๆ ติดตามลีลาการวิพากษ์วิจารณ์แบบคลุกวงในอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา เขย่าจอจึงเป็นรายการวิพากษ์แบบเจาะลึกอย่างตรงไปตรงมาด้วยสำนวนเผ็ดร้อนที่ผู้ชมที่ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ‘ต่อพงษ์’ ต้องดู!!

แนวคิดที่สำคัญที่สุดของผู้อำนวยการช่องท่านนี้ก็คือการยึดผู้ชมเป็นหลัก มิใช่การทำรายการขึ้นมาประชาสัมพันธ์หรืออวยคนในวงการบันเทิงกันไปมา สรุปมาเป็นแก่นการทำรายการที่ต่อพงษ์มักจะย้ำกับทีมงานเสมอว่า “เราทำรายการให้คนดูข่าวบันเทิงดู ไม่ใช่ทำรายการให้คนในวงการบันเทิงดู”

ประโยชน์จึงตกอยู่ที่ผู้ชม เพราะที่ผ่านมาตลอดหนึ่งปีเราได้เห็นวาทะการวิพากษ์ที่ตรงไปตรงมา ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมสมสโลแกน ‘ซ้อสั่งลุย’ ที่บอกผู้ชมเป็นนัยๆ ว่าจัดจ้านเจาะลึกไม่แพ้คอลัมน์บีบสิวอันโด่งดังของคอลัมนิสต์จอมแฉในตำนานอย่างซ้อเจ็ดแน่นอน

เปลวไฟสีแดงเพลิงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดของช่อง Super บันเทิง และถูกขยายมิติกลายเป็นธีมหลักของงานเปิดตัวของ Super บันเทิงเมื่อปีก่อนอีกด้วย

ในงานวันนั้น บรรยากาศเคลือบคลุมไปด้วยสีส้ม ดำ และความร้อนแรงสมกับชื่องาน The Hell So Sweet หรือนรกแสนหวาน และมีดารากับผู้คนในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง เป็นการเปิดตัวที่สวยงามของ Super บันเทิง ณ ลานด้านข้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เมื่อเวลาเดินผ่าน การจัดรายการและกระแสตอบรับที่ผู้ชมมีต่อรายการต่างๆ ทางช่อง Super บันเทิงที่ออกอากาศทางช่อง ASTV3 ก็คึกคักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ผังรายการโหว่แหว่งเต็มไปด้วยช่องว่างในช่วงเริ่มต้น แต่ใช้เวลาเพียงไม่นานช่อง Super บันเทิงก็เริ่มแน่นและหลากหลายขึ้น รายการต่างๆที่มีอยู่ก็แสดงอัตลักษณ์ของตัวเองออกมาให้ผู้ชมได้สัมผัส ทั้งเขย่าจอที่มีต่อพงษ์เป็นหัวเรือใหญ่ ข่าวบันเทิงที่มีเวลาการนำเสนอที่เยอะและอัดแน่นไปด้วยข่าวเล็กใหญ่ครอบคลุมทุกประเด็น โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวบันเทิงต่างประเทศทั้งฮอลลีวู้ดและเอเชียที่อาจจะเรียกได้ว่าเยอะที่สุดในบรรรดารายการรายงานข่าวบันเทิงที่มีอยู่ในประเทศเลยทีเดียว

หลังจากนั้นทิศทางของช่อง Super บันเทิงก็ชัดเจนและเข้าที่เข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ มีรายการรูปแบบแปลกใหม่เพิ่มเข้ามาอีกไม่น้อย ทั้งรายการการวิพากษ์ประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงแบบลงดาบ และแตกหน่อต่อยอดคำว่า ‘บันเทิง’ จากเรื่องคาวฉาวและความเป็นไปของคนในวงการไปสู่ไลฟ์สไตล์ของผู้คน ผู้ชมจึงได้เห็นการพากินพาเที่ยวเป็นช่วงหนึ่งของรายการบันเทิง และเกิดรายการพาเที่ยวแบบเสริมสิริมงคลให้แก่ตัวเองอย่างเต็มรูปแบบขึ้นมาอีกด้วย

การพัฒนาที่ชัดเจนที่สุดอีกประการหนึ่งของช่อง Super บันเทิงก็คือการได้เพิ่มพื้นที่ในการออกอากาศที่ช่องทรูวิชั่นส์ 70 ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ไม่ว่าจะติดแพ๊กเกจแบบใดก็สามารถเข้าไปชมรายการต่างๆ ของช่องนี้ได้ทั้งสิ้น เวลาผ่านมาเพียงสี่เดือน ฐานผู้ชมก็ขยายวงกว้าง เพราะมีทั้งแฟนประจำจากช่อง ASTV3 แฟนใหม่จากทรูวิชั่น และผู้ที่เข้ามาติดตามเพราะสนใจคลิปวิดีโอบางตัวที่บังเอิญพบในอินเทอร์เน็ต

ช่องทางในการเผยแพร่ของ Super บันเทิงขยายไปสู่สังคมออนไลน์ มีทั้ง Social Network สุดฮิตอย่าง Facebook และเว็บไซต์สำหรับเผยแพร่วิดีโอชื่อดัง Youtube.com

นับจากวันแรกต้องยอมรับว่า ณ จุดที่ช่อง Super บันเทิงอยู่ในขณะนี้เป็นตำแหน่งที่ไกลห่างจากจุดออกตัวไม่น้อยเลยทีเดียว และเป็นการพัฒนาที่แม้แต่บุคลากรที่มุ่งมั่นทำงานกันอย่างเอาจริงเอาจังเองก็ยังยอมรับว่า “ไปไกลเกินกว่าที่หวังไว้”

หนึ่งปีที่ผ่านไป ต่อพงษ์และบรรดาซูเปอร์ทั้งหลายจึงภาคภูมิใจที่จะบอกเล่าผลงานการสร้างสรรค์ให้ผู้ชมทั้งใหม่เก่าตลอดจนคนที่อาจจะยังไม่เคยรู้จัก Super บันเทิงได้ทดลองชิม ตลอดจนขอบคุณท่านผู้ชมที่สนับสนุนให้กำลังใจ งานฉลองครอบรอบหนึ่งปี Super บันเทิงจึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้ชื่อ Super Heavy on Heaven

เป็นการเคลื่อนย้ายกระบวนพลจากนรกที่แสนหวานอันเป็นถิ่นฐานของเหล่าซูเปอร์ไปยังสวรรค์ แต่จะเป็นชั้นใดภูมิไหนนั้น ชาวซูเปอร์เองก็มิอาจตอบได้ ที่แน่ๆ สวรรค์ในแบบฉบับของพวกเขาไม่หวานเลี่ยนขาวฟุ้งจนน่าเบื่ออย่างแน่นอน

สิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในงานนี้ก็คือการแจกรางวัล Super บันเทิงอวอร์ดครั้งที่หนึ่ง เป็นการเริ่มต้นมอบรางวัลให้คนบันเทิงที่มีเรื่องฮ็อตฮิตเป็นที่สนใจจากผู้ชมในรอบปีที่ผ่านไป ซึ่งรางวัลดังกล่าวยึดเอาเสียงประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกระแสสังคมหรือยอดผู้ชมในอินเทอร์เน็ต และแบ่งสาขารางวัลครอบคลุมทุกแวดวงทั้ง ตัวดารา หนัง ละครและเพลง

นอกจากนั้นก่อนเริ่มงานภาคกลางคืน บริเวณรอบๆ ยังมีบูทขายสินค้าเกือบ 50 บูทจากเหล่าดาราที่ขนของมาจำหน่ายกันคับคั่ง ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์ดารา, เครื่องดื่ม, อาหาร และของใช้ ที่หลายบูทจะมีดาราเจ้าของกิจการมานั่งทำหน้าที่พ่อค้าแม่ค้าด้วยตัวเองอีกด้วย

ไปร่วมสนุกและให้กำลังใจชาวซูเปอร์กันได้ที่งาน Super Heavy on Heaven ของช่อง Super บันเทิง ในวันอังคารที่ 18 มกราคมนี้ ณ ลานด้านข้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

เพราะปริมาณความคึกคักของงานในวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการยืนยันว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านไป แม้เรื่องราวต่างๆ ของผู้คนในวงการบันเทิงจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่พื้นที่ของการนำเสนอความบันเทิงในรูปแบบข่าวบันเทิงได้เพิ่มขึ้นมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ชม

เพราะท้ายที่สุดข่าวบันเทิงอาจจะเป็นข่าวที่ ‘ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้’ เหมือนที่น้าเน็กพูดบนเวที แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยในสังคมนี้ก็พร้อมใจกันเสพข่าวบันเทิง และถ้าคนทำข่าวบันเทิงได้กำลังใจแทนสายตาหยามเหยียด ข่าวบันเทิงน้ำดีก็จะถูกผลิตขึ้นมาป้อนผู้เสพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต

เพราะถึงอย่างไร เราคงปฏิเสธไมได้ว่า ถึงไม่ ‘จำเป็น’ ต้องรู้ แต่ชีวิตของเราก็คงเฉาถ้ายึดโยงอยู่กับเรื่อง ‘จำเป็นต่อชีวิต’ ในความรู้สึกของคนที่เกลียดปลาไหลแต่แอบไปซดน้ำแกงเสียงดังซู้ดซ้าด ซึ่งเรื่องนี้เราอาจไปเลียบเคียงถามน้าเน็กที่งานฉลองครอบหนึ่งปีของ Super บันเทิงได้ เพราะเขาเป็นหนึ่งในพิธีกรดำเนินรายการร่วมกับ’ป้าเดย์ ฟรีแมน’ นั่นเอง

.............................

บรรดาซูเปอร์จาก Super บันเทิง
กำลังโหลดความคิดเห็น