อาลัยผู้กำกับอารมณ์ดี "อุดม อุดมโรจน์" ผู้สร้างสรรค์ "ปุกปุย"

วงการภาพยนตร์บ้านเราต้องสูญเสียบุคลากรมือดีไปอีกหนึ่ง คราวนี้เป็นผู้กำกับชื่อดังในอดีต "ปื๊ด อุดม อุดมโรจน์" หลังเสียชีวิตด้วยโรคไวรัสตับอักเสบบี โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม ณ ศาลา 3 วัดอนงคาราม ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 15 มกราคมนี้

อุดม อุดมโรจน์ มีชื่อจริงว่า "อุดม อริยอุดมโรจน์" เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม. ศิลปากร ก่อนผันตัวเองเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการทำงานเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ให้กับภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ทั้ง เทพธิดาโรงงาน, นิจ, เงินเงินเงิน, ป.ล.ผมรักคุณ, เมียแต่ง

จากนั้นเจ้าตัวได้หันมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับด้วยตนเอง และถือได้ว่าเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ในแนวที่เรียกว่า "ฟิลกู้ด" (Feel Good) ยุคแรกของบ้านเราเลยก็ว่าได้ โดยเจ้าตัวมีผลงานภาพยนตร์ออกมาทั้งสิ้ง 7 เรื่องด้วยกัน คือ โปรดทราบ..คิดถึงมาก (2529), ปุกปุย (2533), บุญตั้งไข่ (2535), คู่แท้ 2 โลก (2537), คนป่วนสายฟ้า (2540), มากับพระ (2549), บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด (2552)

รวมไปถึงผลงานละครอย่าง คู่รัก 2 ชาติ, สารคดีเรื่อง การจราจรเทิดพระเกียรติในหลวง และการนั่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์อย่าง 9 พระคุ้มครอง, ละครเรื่อง หักเหลี่ยมกุหลาบ และละครเรื่องกำแพงรัก

สำหรับภาพยนตร์ที่ทำให้ชื่อของอุดม อุดมโรจน์เป็นที่รู้จักขึ้นมาก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง "ปุกปุย" เรื่องราวของ "ว่าว" เด็กหนุ่มที่พ่อคิดว่าเป็นตัวซวยมาเกิด ทำอะไรก็ทำให้พ่อเดือดร้อนตลอด เขาจึงตัดสินใจส่งว่าให้ไปอยู่กับน้าสาวแทน ซึ่งระหว่างเดินทางนั้นเอง ว่าว ก็ได้เจอกับ "ชิชา" สาวน้อยหน้าหวานเข้า

โดยนักแสดงหลักๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ ณพัชร สุพัฒนกุล รับบทเป็น ว่าว, ปรางใส ณ นคร รับบทเป็น ชิชา , ธิติมา สังขพิทักษ์ แสดงเป็นแม่ว่าว, เกรียงไกร อุณหะนันท์ เป็นพ่อว่าว และ ญาณี จงวิสุทธิ์ แสดงเป็นน้าสาว

ปุกปุย สามารถทำรายได้ไปถึง 8 ล้านบาทและกวาดรางวัลต่างๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากชมรมวิจารณ์บันเทิง รางวัลผู้แสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม จากชมรมวิจารณ์บันเทิง รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง (รางวัลตุ๊กตาทอง) รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาส่งเสริมครอบครัวจากสื่อมวลชนคาทอลิคแห่งประเทศไทย

นอกจากนั้นยังเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมในโครงการสัปดาห์ภาพยนตร์อาเซียนครั้งที่ 3 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมประกวดในงานโตเกียวอินเตอร์เนชันนอลฟิล์มเฟสติวัล 1991 ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย