ถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ให้ตัวเอกของเรื่อง เป็นกลุ่มคนเพศที่ 3 หญิงรักหญิง สำหรับ "Yes Or No อยากรักก็รักเลย" ภาพยนตร์รักโรแมนติกที่ไม่มีเรื่องของเพศมีกีดกั้นในเรื่องของหัวใจ ซึ่งกับเนื้อหาที่แหวกแตกต่างไป ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกพูดถึง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย ทางรายการเปิดหมดเปลือก ช่องซูเปอร์บันเทิง จึงได้เชื้อเชิญผู้กำกับอย่าง "คุณสรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร" และดารานำผู้รับบทสาวหล่อ "ติ๊นา ศุภนาฎ จิตตลีลา" มานั่งเปิดใจพูดคุยกัน
"สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร" ผู้กำกับภาพยนตร์
กว่าจะก้าวมาเป็นผู้กำกับเต็มตัว
"ที่ไม่ค่อยได้เห็นในวงการภาพยนตร์ ก็เพราะว่าเราทำอยู่เบื้องหลังไต่มาเรื่อยๆ ตามขั้นตอนอย่างเรื่อง องค์บาก ก็อยู่เบื้องหลังมา หรือว่าจะเป็นเรื่องล่าสุดก็คือ สิ่งเรียกๆ ที่เรียกว่ารัก แต่สิ่งที่ทำให้คิดว่าอยากนั่งแท่นผู้กำกับเองจริงๆ ก็คืออยากทำมานานแล้ว พร้อมมาตั้งนานแล้วกับการเป็นผู้กำกับ จนวันนึงเราได้รับโอกาสและเราจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งถึงเรื่องสิ่งเล็กๆ ฯ จะประสบความสำเร็จก็ไม่ทำให้เรากดดัน เพราะว่าผลตอบรับออกมายังไงเราก็จะมีความสุขกับมัน ตอนแรกเราไม่ได้กลัวอะไรเลย ไม่ได้กลัวว่าจะเอาไปเปรียบเทียบอะไร แต่แค่พี่ๆ ที่อยู่ในวงการหนังออกมาพูดว่าเออทำออกมาดี เก่งก็ดีใจแล้วค่ะ เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยเอาจริงๆ เพราะว่ามันเหมือนหนังเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้คาดหวังเรื่องเงินเลย แค่มีคนชอบหนังเราก็พอแล้ว"
"กับเรื่องนี้ที่มาที่ไป คือจริงๆ เราอยากทำมานานแล้ว แต่ไม่ได้เอามาจากชีวิตจริงเลยนะ เอามาจากหนังสือ แต่อยากทำมานานแล้ว และเรารู้สึกว่าถ้าเราอยากดูหนังแนวนี้ก็ได้ดูแต่ของประเทศเพื่อนบ้าน พอเราได้อ่านหนังสือก็เลยอยากทำ เราก็เอาเนื้อหาจากหนังสือมาดัดแปลง ซึ่งพอหนังออกไปเราก็ได้ไปดูฟีดแบคจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ดีมากค่ะ ผลงานออกมาดีเกินคาดในสิ่งที่เรารู้สึกว่า ได้รับการตอบรับที่อบอุ่นมาก ไม่ว่าจะจากอินเทอร์เน็ตหรือว่าแฟนคลับ ซึ่งในช่วงแรกๆ คนเข้าไปดูจะเป็นน้องสาวๆ แต่พอมีกระแสเข้ามาก็จะมีทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งคนทำงาน ควงกันเป็นคู่ก็มี ผู้ชายที่เข้าไปดูเขาบอกว่าผิดคาด เพราะว่าจริงๆ ในหนังไม่ได้ชูประเด็นว่าจะเป็นหญิง-หญิง เราชูประเด็นเรื่องความรักที่มาจากใจมากกว่า กับหนังเรื่องนี้มีโอกาสโกอินเตอร์ด้วยนะ เพราะว่ามีประเทศญี่ปุ่นมาติดต่อแล้ว แล้วถ้าหนังเรื่องนี้เดินหน้าต่อไปผลตอบรับดีทำเงินแบบนี้ ก็อยากทำหนังแนวนี้ต่อ ไม่เปลี่ยนประเภทแน่นอน ถ้าถามว่าจะถึงทางตันไหม ไม่ถึงค่ะ ความรักไม่มีทางตัน มันไปได้หมด เพียงแต่ว่าภาคต่อไปจะเป็นแนวไหน"
"แต่ตอนแรกที่เปิดตัวหนังเราก็หวั่นนะ ว่าจะมาดูกันแค่เฉพาะกลุ่ม คือจริงๆ เราตั้งว่าจะทำแค่เปิดดูเป็นเฮ้าส์ก็พอ ไม่ใช่เป็นโรงหนังใหญ่ขนาดนี้ เราแค่ทำว่าอยากทำแล้วมาดูเถอะ เพราะว่าเราไม่ได้ทำแบบว่าดาคมาก เราแค่อยากทำให้มาดูเรื่องความรัก มันไม่ใช่แค่หญิงรักหญิง เราแค่อยากบอกว่าความรักที่มาจากข้างใน เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราเอากลางทิ้งเอาเพศทิ้ง เซ็กซ์ทิ้ง มันก็จะได้ใจกลางของมัน จะเจอแก่นแท้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้อง หรือว่าคนทุกคน ในหนังก็เหมือนกันไม่ใช่ว่าจะรักแค่หญิงรักหญิงแต่ว่ารักได้ทุกคนที่เข้ามา คือหนังจะเล่าเรื่องความบริสุทธิ์ที่มาจากใจจริงๆ จุดขายของเราคือความใส"
มั่นใจฉากเลิฟซีนไม่หวือหวา ไม่เป็นการชักนำวัยรุ่นสับสนทางเพศ
"แต่ถ้าฉากเลิฟซีนหญิงรักหญิงก็มีค่ะ แต่ว่าไม่หวือหวา แต่ถ้าเข้าไปดูแล้วหวังตรงนั้นไม่มีแน่นอน แต่ถ้าบอกว่าเรื่องนี้ชี้นำเรื่องทางเพศ ไม่ชี้นำแน่ๆ เพราะว่าจริงๆ น้องทุกคนที่เป็นหญิงรักหญิงจริง ๆมันลำบาก แต่จริงๆ มันเกิดจากความรู้สึกข้างใน แล้วก็ไม่อยากมีใครที่อยากจะหลุดกรอบทางสังคม ไม่ใช่ว่าดูแล้วคุณต้องเป็น แต่ว่าถ้ามาดูแล้วเด็กจะเข้าใจเยอะว่ามันเป็นยังไง และอยากจะบอกว่าหญิงรักหญิงไม่ได้เป็นไข้หวัด ไม่ติด แต่ก็แล้วแต่คนที่คิดว่าเหมือนฉัน ก็มีคนนึงที่เข้าไปดูแล้วบอกว่าชีวิตเหมือนหนูเลย ตั้งแต่ต้นเพียงแต่ว่าตอนจบไม่เหมือนกัน แต่ก็อยากจะบอกว่าหญิงรักหญิงก็คบกันได้ แต่อย่าไปทำอะไรที่เสียหาย มีอะไรก็ปรึกษาพ่อแม่บอกเขาไปเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนรับได้ ไม่ต้องปิดบังไม่ต้องกลัว เพียงแต่ว่าเราคบกันก็ทำในสิ่งที่ดี อย่าไปทำอะไรที่ไม่ดี พ่อแม่ก็อยากให้เข้าใจเขา อย่าไปด่าเขา แต่เราเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนรักลูก เปิดใจยอมรับและคุยกับเขาและเราจะได้อะไรเยอะค่ะ"
กว่าจะได้นักแสดงที่เหมาะสม
"เราก็ได้คุยกับเขา ทำไมดูหวานจัง เราก็บอกทุกอย่างพูดทุกอย่าง ซึ่งพอเราได้คุยกับเขา และเราเกิดสงสัยว่าเออนี่ผู้หญิงผู้ชายหรืออะไรกันแน่ นั่นแหละทำให้เราได้ตัวแสดงของเราแล้ว เราก็บอกเขาเลยว่าให้เขาเป็นตัวเองในหนัง แต่จริงๆ แล้วการที่เราได้นักแสดงมา เราก็ต้องทำการแคสติ้งก่อนว่าเล่นได้ไหม แต่พอเราเจอน้องคนนี้เราไม่แคส เพราะเรามั่นใจเขา แต่เราก็มีมองสาวหล่อในวงการบันเทิงไว้บ้าง เยอะมาก แต่ยังไม่เจอว่าคนที่งงๆ กับชีวิตแล้วจริงๆ เขาคิดยังไง เราก็ส่งเรียนแอคติ้ง ใส่ทุกอย่างให้เป็นตัวน้องเขา โดยที่เราเอาคนเขียนบทมาแล้วใส่ความเป็นน้องเขา คือเราไม่ได้เอาน้องเขามาเล่นบทที่เราเขียน แต่เราเขียนบทความเป็นน้องให้เขาเล่น"
"ซึ่งพอหนังออกไปเราก็ไม่ได้ห่วงน้องเขาในเรื่องภาพลักษณ์ว่า จะเป็นสาวหล่อ แมนจ๋าอะไร เพราะว่าตัวจริงของน้องเขาก็ไม่ใช่ค่ะ น้องเขาก็เป็นแบบนี้ แต่ลึกๆ จริงๆ แล้วน้องเขาเป็นผู้หญิงนะ ซึ่งตอนที่เราจะเอาน้องเขามาเล่น เราก็มีการนั่งคุยกับน้องเขาถึงทัศนคติว่ามีทัศนคติแบบไหน เขาก็บอกมาว่าทัศนคติน้องเขาเป็นยังไง เราก็เลยโอเค เขาไม่ได้บอกว่าต้องจำกัดเพศ เขาบอกว่าแค่วันนึงที่หัวใจมันคลิกมันก็โอเคค่ะ เรามองเห็นอะไรในตัวน้องเขาเยอะมาก ไปทุกแหล่งเลยไม่ว่าจะเป็นสยาม ไปทุกที่ที่คิดว่าจะมีทอมเยอะๆ ผับไปทุกที่ ลงพื้นที่ทั้งหมด เราก็เจอหล่อเข้มเท่ห์แต่ว่ายังไม่ใช่ที่เราต้องการ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือเธอจะเป็นทอม หรือเธอเป็นผู้หญิงหรือยังไง จนวันนึงมีน้องที่สนิทกันถามเราว่า ทำไมเราเที่ยวทุกวันเลยอกหักเหรอ มีปัญหาอะไร เราก็บอกว่าเปล่า เราจะหานักแสดงมาเล่นหนังของเรา เขาก็เลยบอกว่าเขาจะแนะนำน้องให้รู้จัก แต่งตัวชุดนักศึกษามาเลย น้องเขาไปสอบเข้ามหาลัยมาที่เชียงใหม่ เราก็คิดว่าทอมคนนี้น่ารักดี"
"ส่วนที่เลือกน้อง ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวว่าเขาเคยมีข่าวกับทอม แต่เพราะว่าเราเห็นเขาเล่นหนังมาคิดว่าน้องเขาเล่นดี แอคติ้งดีเราก็เลยหยิบน้องเขามา แต่เราก็มีการนั่งพูดคุยกันก่อนนะ และที่สำคัญคือน้องเขาเป็นคนเปิดเผย เขาเล่าหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาคบทอม คือเขาเข้าใจทุกคนค่ะ เท่าที่คุยกับเขาเรื่องผู้หญิงชอบผู้หญิง เขาก็มีทัศนคติว่าเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอกมันเป็นความรู้สึกข้างในลึกๆ เราเป็นผู้ใหญ่กว่า เราน่าจะชี้ทางให้เขามากกว่า ไม่ใช่ว่าเราจะมาห้ามไม่ให้เขาเป็นแบบนั้นแบบนี้"
ติ๊นา ศุภนาฎ จิตตลีลา
ยืนยันถึงเล่นบททอมก็ไม่เกิดอาการสับสนทางเพศ
"ถ้าถามว่าติ๊นาสับสนทางเพศไหม ก็เหมือนตัวละครที่ติ๊นาแสดง ยังไม่เคยเจอความรักจริงจัง เป็นลูกคนเดียว โตมาด้วยคุณพ่อเลี้ยงคนเดียว คุณแม่เสียชีวิตอันนี้ในเรื่องนะคะ แต่ติ๊นาก็มีผู้ชายตั้งแต่ม.ต้นเลยค่ะ แต่สัดส่วนผู้หญิงจะมาชอบกับติ๊นามากกว่า ความรู้สึกคลิกกับเพศเดียวกันก็มี กับผู้ชายก็มี แต่ว่ายังไม่เคยมีแฟนแบบจริงจัง ต้องเป็นแฟนกันอะไรทำนองนี้ยังไม่เคยมี ฉันกับเธอยังไม่เคยมี แต่บุคลิกติ๊นาจริงๆ ก็ภาพนอกอาจจะดูแบบห้าวๆ แต่ข้างในก็ผู้หญิงคนหนึ่งปกติ ไม่ได้สาวห้าวไม่ได้แมน ไม่ได้เรียบร้อย คือไม่ได้เป็นสาวเรียบร้อยแต่ก็ไม่ได้อยากเป็นผู้ชาย ติ๊นาไม่ชอบเล่นกีฬา ไม่ชอบอะไรที่เหนื่อยๆ เหงื่อออก แต่ถ้าถามว่าชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ผู้ชายก็น่ารักดีนะคะ แต่ว่าผู้หญิงก็น่ารัก รักไม่จำกัดเพศค่ะ"
ภาพยนตร์เรื่องแรกยากมาก แต่สามารถรับเล่นได้ทุกบท
"กับภาพยนตร์เรื่องแรกก็ยากมากคะ ยากไปทุกเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นแอคติ้ง ร้องก็ต้องร้อง เรียนกีต้าร์ก็ต้องเรียน แต่ยากที่สุดก็คือการเล่นซีนที่ต้องใช้อารมณ์ ตอนแรกพี่เขาถ่ายอีกคนนึงก่อน แล้วก็ให้ติ๊นาทำอารมณ์ พออีกคนจะทำอารมณ์ได้ ติ๊นาเดินมาร้องไห้น้ำตาไหล พี่เขาต้องเอากล้องมาถ่ายติ๊นาก่อน เพราะซีนนั้นยากมาก การเล่นดราม่าถือว่ายากมากค่ะ แต่หลังๆ ก็พัฒนาขึ้น ก็มีการนั่งคุยกับผู้กำกับ หลังๆ ก็ดีขึ้น แต่ก็ได้ผลตอบรับดีมากเลย โดยเฉพาะกับผู้หญิง หลังจากหนังออกไปแล้วก็มีแต่ผู้หญิงขอถ่ายรูป แต่ผู้ชายก็มีแต่น้อยกว่าผู้หญิง ยิ่งแฟนคลับประเทศจีนชอบมาก ปล่อยเอ็มวีเพลงไปก็เป็นล้านคนเปิดดูนะคะ ก็ไม่กลัวว่าภาพลักษณ์ติ๊นาจะเป็นแบบนี้ เพราะว่าติ๊นาก็ไม่ได้ห้าวแมนเกินร้อยขนาดนั้น ติ๊นาเล่นได้ทุกบทไม่ใช่ว่าจะมาอยู่แค่แบบนี้ สาวหวานก็เป็นได้ เล่นได้"
"หนังเรื่องต่อไปที่อยากลองเล่น ก็อยากลองเล่นเป็นผู้หญิงเลย เราก็อยากรู้ว่าเคยเล่นแนวนี้ไปแล้ว แล้วถ้าเรามาเล่นเป็นผู้หญิงเขาจะเชื่อเราไหม อยากรู้ว่าถ้าเล่นเป็นผู้หญิงเลย แฟนคลับและคนดูจะยอมรับเราไหม และก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเหมือนว่าเขาต้องรับเราได้ที่เราเป็นเรา รับเราได้ด้วยความที่เราเป็นตัวเรามากกว่า อยากเล่นบททุกบทเลย เพราะก็คิดว่าจะเอาดีด้านวงการบันเทิงเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ก็ทำงานเป็นดีเจอยู่ที่คลื่นปิ๊ง 98 FM ก็อยากฝากผลงานไว้ด้วยค่ะ"