xs
xsm
sm
md
lg

เกย์ฟัดกะเทย "นที" ออกโรงฉะ "นก" กรณีร้องไห้ออกทีวีอยากใช้น.ส. จวกจะเอาไปหลอกผู้ชายหรือไง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"เกย์นที" ออกโรงฉะ "นก ยลดา" กรณีเรียกร้องขอใช้นางสาว เพราะอ้างว่าตนเองเป็น "ผู้หญิงข้ามเพศ" ไม่ใช่กะเทย-ตุ๊ด จวกทำให้เกิดลัทธิเยาวชนเลียนแบบพากันแห่แปลงเพศ ยันถ้าอยากใช้นางสาวต้องเป็นนางสาวที่มีบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบได้ว่า เคยเป็นผู้ชายมาก่อน ไม่ใช่จะเรียกร้องให้เหมือนผู้หญิงทุกอย่าง จวกอย่ามาอ้างพ่อแม่เสียใจที่ไม่ได้ใช้นางสาว แขวะอยากใช้นางสาวไปหลอกผู้ชายหรืออย่างไร แฉอดีตนก ยลดาก็เคยปลอมบัตรประชาชนประกวดนางแบบ เย้ยทำแบบนั้นแล้วพ่อแม่ภูมิใจหรืออย่างไร

กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้หลังจาก "นก ยลดา โคมทอง" นายกสมาคมสตรีข้ามเพศเเห่งประเทศไทย สาวประเภทสองที่เคยสร้างวีรกรรมใช้บัตรประชาชนปลอมเป็นหญิงสมัครเข้าประกวดนางแบบเวทีแห่งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนจนกลายเป็นข่าวโด่งดัง ออกมาโวยวายผ่านรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" ว่าตนเองเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบ เป็นผู้หญิงพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า "ผู้หญิงข้ามเพศ" ไม่ใช่กะเทยหรือตุ๊ด หากแต่เป็นผู้หญิงตั้งแต่กำเนิด เพียงแต่เกิดมาในร่างผู้ชาย พร้อมกับร้องห่มร้องไห้เรียกร้องสิทธิในการเป็นผู้หญิง โดยการขอใช้คำนำหน้าว่า "นางสาว" เนื่องจากพ่อแม่อับอายที่ลูกไม่ได้ใช้นางสาว นอกจากนั้นแล้วก็ยังเรียกร้องขอให้ผู้หญิงข้ามเพศทั้งหลายได้ใส่ชุดรับปริญญาในแบบผู้หญิงในวันพระราชทานปริญญาบัตร เนื่องจากเป็นวันสำคัญในชีวิต

โดยทางรายการได้นำเสนอประเด็นดังกล่าวถึงสองสัปดาห์เต็มๆ จนกลายเป็นกระแสร้อนแรง ทำเอา "เกย์นที ธีระโรจนพงษ์” หัวหน้ากลุ่มเกย์การเมืองไทย ออกมาสับแหลกรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ที่หยิบประเด็นดังกล่าวมานำเสนอ จวกไม่ได้ให้ประโยชน์กับสังคม ซ้ำยังทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนแพร่หลายออกไป นอกจากนั้นแล้วก็ยังซัดนก ยลดา ประกาศตัวเป็นผู้หญิงข้ามเพศเมื่อแปลงเพศ ก่อให้เกิดค่านิยมแปลงเพศ ส่งผลให้เยาวชนแห่ทำตาม ยันถ้าอยากใช้นางสาวต้องเป็นนางสาวที่มีบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบได้ว่า เคยเป็นผู้ชายมาก่อน ไม่ใช่จะเรียกร้องให้เหมือนผู้หญิงทุกอย่าง จวกนก ยลดากรณีอ้างพ่อแม่เสียใจที่ไม่ได้ใช้นางสาว แขวะอยากใช้นางสาวไปหลอกผู้ชายหรืออย่างไร แฉอดีตนก ยลดาก็เคยปลอมบัตรประชาชนประกวดนางแบบ เย้ยทำแบบนั้นแล้วพ่อแม่ภูมิใจหรืออย่างไร

"การเอาคำว่าหญิงข้ามเพศมาพูด ผมว่าคุณจะเชื่อยังไงมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณ คุณจะเชื่อว่าคุณเหาะเหินเดินอากาศได้ก็เรื่องของคุณ คุณจะเชื่อว่าคุณเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบก็เรื่องของคุณ แต่สิ่งที่เรามีความกังวลก็คือว่า ผู้หญิงข้ามเพศที่คุณบอกว่า เป็นผู้หญิงสมบูรณ์เมื่อตัดอวัยวะเพศเนี่ย ตอนนี้มันส่งผลกระทบต่อสังคมไทยเรียบร้อยแล้ว"

"เพราะตอนนี้มีพ่อแม่ชื่อพี่วลีโทรศัพท์มาหาผมว่า ลูกชายที่ปัจจุบันแต่งสาวกำลังเรียกร้องว่า ถ้าอายุครบ 18 จะขอไปผ่าตัดแปลงเพศ โดยจะขอเงินแม่เป็นจำนวน 5-6 หมื่น ส่วนตัวเขาเองเก็บเงินได้ประมาณ 2 หมื่นกว่า ดังนั้นการที่คุณยลดาออกมาพูดทำให้คนเชื่อ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เขายังไม่สามารถตกผลึกความคิดได้ดี ก็จะโน้มเอียงไปทางคุณยลดา และก็เกิดความรู้สึกว่า ต้องรีบไปจัดการตัดอวัยวะเพศออก เพื่อจะได้เป็นผู้หญิงสมบูรณ์ เป็นผู้หญิงพันธุ์ใหม่"

"ผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้คุณยลดาได้สร้างปัญหาให้กับครอบครัวเรียบร้อยแล้ว การที่คุณบอกว่า คุณพูดหลายร้อยครั้งแล้วว่า เป็นผู้หญิงสมบูรณ์ ตรงนี้แหละความเสียหายมันเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้สร้างลัทธิขึ้น มันแย่กว่าการจะเรียกร้องใช้นางสาวซะอีก เพราะการใช้นางสาวมันต้องมีกฎกติกา แต่การเชื่อไปแล้วเป็นสิทธิส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปควบคุมได้ และการเชื่อของเด็กมันเป็นน้ำเชี่ยวไหลแรง การที่คุณมาตอกย้ำมาจุดประกายให้เขา มันเป็นการสร้างค่านิยมว่า จะต้องตัดอวัยวะเพศถึงจะเป็นผู้หญิงสมบูรณ์"

"ที่น่าตกใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ รายการวู้ดดี้ที่เอาคุณยลดามาออกเนี่ย ไม่ได้สร้างค่าสร้างประโยชน์อะไรเลย ไม่ได้เอาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องจิตเวชมาพูดดักไว้ พอเด็กมาดูปุ๊บกลายเป็นแบบว่า....ถามหน่อยคนที่มาออกรายการใครสวย มัม(มัม ลาโคนิค)ก็ไม่สวย พี่จิ๋มซาร่าก็ไม่สวย แต่คุณยลดาสวย ซึ่งมันได้เปรียบในการครองใจเขา และการที่คุณบอกว่า เป็นผู้หญิงสมบูรณ์ ถ้าคุณตัดอวัยวะเพศออกเมื่อไหร่ คุณเป็นผู้หญิงสมบูรณ์ รัฐบาลจะต้องออกมารองรับ เหล่านี้มันเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับบุคคลฝ่ายเดียว และก็นำเอาสิ่งที่มันเป็นขยะไปกองไว้ในใจของเด็กๆ เหล่านี้ และเด็กๆ ก็จะคิดว่า พี่ยลดาคนสวยคนนี้เป็นไอดอลของฉัน เพราะฉะนั้นอย่าลืมนะว่า ตรงนี้มันอันตรายมาก และในที่สุดมันจะพัฒนาไปสู่ความคิดแบบคุณยลดาก็คือ พวกเขาคิดว่าตนเองคือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ถ้าตัดอวัยวะเพศออกไป"

"ซึ่งผมคิดว่าการที่ตัดอวัยวะเพศออกไป ไม่ได้เป็นผู้หญิงสมบูรณ์ ยังไงก็ไม่ ไม่มีทางเป็นผู้หญิงสมบูรณ์เท่าผู้หญิงจริงๆ ผมเองภูมิใจที่เกิดมาเป็นผู้ชายแต่เป็นเกย์ และผมก็มีน้องๆ กะเทยจำนวนหนึ่ง ซึ่งเขาก็คุยกับผมว่า จิตใจเขาเป็นผู้หญิงแต่เขาเป็นกะเทย ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คนเรารู้จักตัวตนของตนเอง ผมว่ามันน่าแฮบปี้"

"ถ้าจะขอคำว่านางสาว อันนี้ผมเห็นด้วย แต่จะต้องเป็นนางสาวที่มีบาร์โค้ด ก็คือเป็นนางสาวจะต้องมีรากเหง้าที่มา เพราะการที่จะมาเป็นนางสาวคุณจะต้องไม่ไปลิดรอนสิทธิของผู้หญิงคนอื่นๆ อาทิเช่น กรณีการแข่งขันกีฬา คุณเป็นสาวที่แปลงเพศมา ไม่ว่าจะข้ามเพศ ไม่ข้ามเพศ หรือเป็นกะเทยก็แล้วแต่ แต่คุณแปลงเพศมาโครงสร้างร่างกายมันได้เปรียบ แข่งยังไงคุณก็ชนะผู้หญิง ดังนั้นการเข้าไปละเมิดสิทธิของผู้หญิงคือข้อแรกที่ผมไม่เห็นด้วย"

"ข้อที่สองการที่คุณบอกว่า คุณจะเป็นนางสาวโดยที่ไม่มีข้อจำกัด เหมือนผู้หญิงทุกอย่างแบบสมบูรณ์แบบ เพื่อการที่คุณจะไปหลอกผู้ชายได้ใช่หรือไม่ และแน่นอนที่สุดเลย ถ้าเราไม่สนับสนุนให้เกย์หลอกผู้หญิง ไฉนเลยเราจะสนับสนุนให้กะเทยหลอกผู้ชาย ดังนั้นมาตรฐานนี้เราไม่เห็นด้วย ยังไงถ้าจะใช้นางสาวก็ต้องมีบาร์โค้ด ถ้าผู้ชายคนไหนเขารักคุณเขามาดูบาร์โค้ดแล้วเขารับได้หรือเปล่า ถ้าเขารับได้ก็อยู่กันไป แต่ทุกอย่างมันต้องเช็คได้ไม่งั้นจะมีปัญหา"

"และข้อสุดท้ายผมคิดว่า ถ้าจะให้ใช้คำว่านางสาว นอกจากจะให้กับกะเทยที่แปลงเพศแล้ว ต้องให้กับกะเทยที่ยังไม่ได้แปลงเพศด้วย แต่ต้องเป็นกะเทยที่ผ่านจิตเวชมาแล้วว่า คุณเป็นกะเทยจริงๆ แต่คุณไม่สามารถแปลงเพศได้เพราะ 1.แปลงเพศแล้วคุณตาย 2.แปลงเพศไม่ได้เพราะไม่มีเงิน 3.แปลงแล้วอาจมีผลกับฮอร์โมน 4.คุณมีชีวิตที่ดีมีสามีที่ดีอยู่แล้ว คุณสามารถมีชีวิตที่มีจู๋อยู่ได้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องโดนบังคับตัดจู๋ ตรงนี้ถ้าจะให้ต้องครอบคลุมทั้งหมด ถ้าองค์กรใดที่เป็นภาครัฐยกคำว่านางสาวให้กับกะเทยแปลงเพศ แต่ไม่ให้กะเทยที่ไม่ได้แปลงเพศ ผมจะยื่นฟ้องทันที"


เผยอยากให้สาวประเภทสองมีคำนำหน้าว่า "นายสาว" มากกว่า "นางสาว"
"ตัวของผมเองอยากจะให้ใช้คำอื่นด้วยซ้ำไป เช่นคำว่า นายสาว นายสาวก็คือคนเคยเป็นนายแล้วมาเป็นสาว ส่วนทอมก็ใช้สาวนาย อันนี้คือการพูดแบบกำปั้นทุบดินนะครับ ส่วนจะไปย่อยให้สวยหรูยังไงก็ค่อยว่ากันไป แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องยอมรับว่า การใช้นางสาวสำหรับกะเทยมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการเดินทางไปต่างประเทศ ถ้าพาสปอร์ตเป็นนาย แต่รูปลักษณ์เป็นผู้หญิงกะเทยคนนั้นก็จะเข้าประเทศไม่ได้ อันนี้เขาเดือดร้อน ฉะนั้นก็น่าจะหาแนวทางให้เขาด้วยการใช้นางสาว แต่ต้องเป็นนางสาวที่มีบาร์โค้ดได้ไหม แล้วก็ส่งจดหมายไปบอกกับประเทศต่างๆ ว่า ประเทศไทยจะใช้แบบนี้ แบบนี้มันก็ได้"

"คือมันต้องดูกันเป็นกรณีไป บางอย่างกะเทยเขาก็เดือดร้อนจริงๆ แต่ถ้าจะไปเรียกร้องให้เหมือนผู้หญิงหมดเลย ใครจะไปให้คุณล่ะ แต่ที่คุณยลดาบอกว่า การไม่ได้ใช้นางสาวมันกระทบกระเทือนจิตใจเขามาก พ่อแม่เกิดความอับอาย ถ้าอย่างนั้นคงต้องขอมติขององค์กรที่เป็นความหลากหลายทางเพศ เพราะการที่มายกตัวเลขขึ้นมาลอยๆ ที่คุณบอกว่ามีคน 2 พันคนอยากใช้นางสาวเนี่ย เคยไปถามใจเขาหรือเปล่าว่า เขาอยากได้นางสาวหรือเปล่า และถ้าไม่ได้หัวใจจะสลายหรือเปล่า และก็ต้องลองไปถามพ่อแม่ด้วยว่ารู้สึกอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เพราะคำว่าหัวใจสลายมันพูดง่าย"

"การเอาพ่อแม่มาอ้างผมคิดว่า มันไม่สมเหตุสมผลเลย พ่อแม่จะไม่อับอายก็ต่อเมื่อลูกเป็นคนดี ไปถามพ่อแม่คนที่มีลูกเป็นกะเทยดูได้ ทุกคนจะบอกเหมือนกันหมดว่า รู้สึกตกใจที่ลูกจะไปแปลงเพศ และก็กลัวว่าลูกจะดูแลตัวเองไม่ได้ และตายตอนที่อายุน้อยๆ เพราะผลจากการแปลงเพศ นี่คือสิ่งที่พ่อแม่เป็นห่วง การที่คุณเอามาอ้างสารพัดมาอ้าง ผมอยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่า นี่เป็นพฤติกรรมลวงโลกหรือเปล่า การที่คุณมาให้ข้อมูลเอาอะไรออกมาแฉ ต้องแฉให้หมด"

"การที่คุณออกมาร้องไห้ออกทีวีก็เหมือนกัน ผมอยากจะถามว่ามีระบบตรวจสอบด้วยหรือเปล่า ในอดีตต้องดูย้อนไปด้วยว่า คนบางคนเคยเอาตัวเองไปประกวดแบบผู้หญิง โดยใช้บัตรประชาชนปลอม อย่างนี้พ่อแม่คุณภูมิใจเหรอที่ไปทำผิดกฎหมาย แล้วมาบอกว่า การที่ไม่ได้นางสาวแล้วพ่อแม่ไม่ภูมิใจ"

"อยากจะถามหน่อย การที่คุณเอาคำว่านางสาวกับพ่อแม่มาอ้างเนี่ย คุณอยากได้นางสาวโดยไม่มีบาร์โค้ดเนี่ย เพื่อที่จะเอาไปหลอกผู้ชายใช่ไหมล่ะ หลอกหาสามีใช่ไหม ผู้ชายคนไหนที่มันหน้าโง่หน่อย ซื่อหน่อยไม่รู้หน่อย ก็จะถูกหลอกอย่างเต็มเปาเลย การที่จะทำอะไรมันจะต้องไม่ละเมิดสิทธิ์คนอื่น ไม่ใช่บอกว่า การที่คุณได้นางสาวแล้วพ่อแม่คุณสบายใจ คุณสบายใจโรคจิตคุณหายหมดเลย แต่คุณเอาอันนี้ไปหลอกผู้ชาย ไปหลอกคณะกรรมการแข่งขันกีฬา อย่างนี้คุณเอาความยุติธรรมที่ไหนเป็นตัวตั้ง"

ส่วนการเรียกร้องให้สาวประเภทสองใส่ชุดแบบผู้หญิงรับปริญญา "เกย์นที" บอกว่า เห็นด้วย แต่ทุกอย่างต้องมีการเรียกร้องเป็นขั้นตอน ไม่ใช่ออกมาร้องไห้ออกทีวี
"เรื่องนี้ผมเห็นด้วยถ้าเขาเป็นกะเทยและแต่งชุดแบบผู้หญิงมาตลอด 4 ปี และมหาวิทยาลัยอนุญาตให้ใส่ ท้ายที่สุดมันก็ต้องมีการเรียกร้องให้ไปถึงจุดนั้น แต่ทุกอย่างมันต้องมีกาลเทศะ มีขั้นตอนแต่การกระทำของคุณยลดาไม่เหมาะสม เรื่องของมหาวิทยาลัยมันต้องผ่านขั้นตอนการรับพระราชทานปริญญาบัตร จะต้องมีเรื่องของสำนักราชเลขา ดังนั้นถ้าคุณจะเรียกร้อง คุณจะต้องนำเรื่องนี้เรียนต่อราชเลขาด้วยเหตุผลอันเหมาะสมของความเป็นมนุษย์อย่างไรเป็นข้อๆ แต่ไม่ใช่มาบอกว่า คุณเป็นโรคจิตวิปริตทางเพศ และก็มาบอกว่า ทำไมไม่ให้ดิฉันในวันสำคัญ โดยที่คุณไม่เคยยื่นหนังสือไปถึงราชเลขา"

"การกระทำของคุณตอนนี้มันเรียกว่า การทำผิดขั้นผิดตอนไม่ถูกกาลเทศะอย่างยิ่ง และทำให้สังคมปิดประตูตายไปเลย คุณควรมีหนังสือไปยังท่านราชเลขา ผมเชื่อว่าเราเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ก็อาจจะมีจดหมายตอบกลับมา ยอมรับแล้ว หรือเห็นด้วยแต่ต้องมีการเปลี่ยนนางสาวก่อน ตรงนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของรัฐบาลต่อไป แต่การที่คุณออกมาร้องห่มร้องไห้ในห้องส่ง และพูดว่า เราไม่เอาก็ได้ มันเป็นการหมิ่นหรือไม่อย่างไร มันเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมไม่บังควรอย่างยิ่ง ดังนั้นตัดออกอากาศมาได้อย่างไรรายการคุณวู้ดดี้จ๋า"

"รายการวู้ดดี้หยิบเอาเรื่องมาพูดมันขาดองค์ความรู้อย่างมาก เขาไม่ได้เอาคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตเวชมาพูดเลย เอาแต่หมอด้านโมเลกุล แล้วยังมีการมาสรุปปิดรายการอีกว่า อย่างน้อยวันนี้ก็ดีที่ได้มาพูดคุยกัน ซึ่งมันไม่ใช่ มันไม่ได้ประโยชน์ ไม่ได้อะไรเลย สิ่งที่ได้คือ ได้ความเข้าใจผิดในวงกว้างกว่าเดิม เป็นเหมือนมะเร็งที่กินเนื้อร้าย ผมขอประณามรายการวู้ดดี้ และต่อไปนี้ก็จะไม่ขอดูรายการวู้ดดี้ ถ้าเขาไม่ออกมาขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบ"

"เขาควรจะเชิญคนมาเคลียร์ทุกอย่างให้ชัดเจน ควรจะหาผู้เชี่ยวชาญมาหาคำตอบเรื่องนี้ว่า คุณยลดาเข้าใจผิด เรื่องนี้มันไม่ใช่โรคจิต และถ้าการใช้นางสาวมันมีผลต่อจิตใจของกะเทย ก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาตอบให้ได้ว่า มีผลเท่าไหร่ มันมีน้ำหนักพอที่รัฐบาลจะนึกถึงไหม การที่คุณไม่ได้ชุดแบบผู้หญิงไปรับปริญญาเนี่ย มันทำให้จิตของคุณโคม่าไปเลยหรือเปล่า แต่รายการวู้ดดี้ไม่ได้ตอบปัญหาพวกนี้ ไม่ได้เอาจิตแพทย์มาออกรายการเลย"

"เรื่องนี้ผมถือว่าเป็นความบกพร่องของทางรายการ ถือว่าเป็นความบกพร่องของการสื่อสารมวลชน คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนมาออกรายการ แล้วทำไมไม่เลือกคนที่สามารถเป็นที่พึ่งที่พิงของสังคมไทยมาออกรายการ เมื่อมันเป็นแบบนี้ผมตัดสินใจแล้วว่า สัปดาห์หน้าผมจะไปยื่นหนังสือต่อแพทยสภาว่า คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ และก็จะไปอสมท.ว่าทำไมปล่อยรายการแบบนี้ออกมาเพ่นพ่าน ทำให้เกิดความเสียหายต่อกรอบความคิด ทำให้คนคิดว่าคนที่เป็นคนหลากหลายเพศวิปริตจิตผิดปกติ ทำให้เกิดความคิดว่ามีผู้หญิงอีกพันธุ์หนึ่ง ทำให้เกิดความคิดเพี้ยนๆ ผิดๆ ไปหมด ไม่มีคำตอบให้กับสังคมเลย ท่านปล่อยรายการแบบนี้ให้ออกอากาศในอสมท.ได้อย่างไร และแพทยสภาปิดปากเงียบได้อย่างไร"

"คือรายการนี้ทำประเด็นนี้ออกมาแล้วมันพลาด มันไม่ได้ประโยชน์ มันไม่ได้คำตอบให้กับสังคม ประชาชนไม่ได้อะไร ทุกอย่างมันเสียหมดเลย คุณทำอะไรส่งเดชแบบนี้ต่อไปประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร"

กำลังโหลดความคิดเห็น