หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างของหนัง “The Hurt Locker” ต้องออกมาแสดงความเสียใจ หลังส่งอีเมล์ล็อบบี้ผู้ลงคะแนนออสการ์หลายๆ คนด้วยการโจมตี ”Avatar” หนังคู่แข่ง ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎของออสการ์
กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับการแจกรางวัล เมื่อ นิโคลัส ชาร์ติเย หนึ่งใน 4 ผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่อง The Hurt Locker ได้ส่งอีเมล์ฉบับหนึ่งให้กับคนในวงการภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เพื่อโน้มน้าวให้ช่วยโหวตให้กับงานของเขา
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่ออีเมล์ฉบับดังกล่าว อาจเข้าข่ายการทำผิดกฎของสถาบันฯ ที่ห้ามส่งจดหมายซึ่งมีลักษณะ "ส่งเสริมหนังหรืองานของด้วยเอง ด้วยการกล่าวร้ายต่องานของผู้อื่น" ตามที่โฆษกของสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ ผู้รับผิดชอบรางวัล ได้ออกมากล่าวหลังเกิดเรื่องขึ้น
"ผมหวังว่าคุณจะชอบ The Hurt Locker ซึ่งถ้าคุณชอบมัน และต้องการให้หนังเรื่องนี้ได้รับชัยชนะ ช่วยบอกกับเพื่อนที่มีในสิทธิ์โหวต บอกกับผู้กำกับ, นักแสดง, ทีมงานทุกคน เพื่อชัยชนะของหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ 'หนังทุน 500 ล้านเหรียญฯ เรื่องนั้น' เราต้องการให้หนังอิสระ เหมือนกับหนังที่คุณเองก็สร้างอยู่เป็นผู้ชนะ ถ้าคุณเชื่อว่า The Hurt Locker เป็นหนังที่ดีที่สุดของปี 2010 ช่วยเราด้วยเถอะครับ" เป็นส่วนหนึ่งของข้อความในอีเมล์ ซึ่งมีการกล่าวพาดพิงถึงหนัง หนังทุน 500 ล้านเหรียญฯ ซึ่งใครๆ ก็พอจะทราบว่าหมายถึง Avatar อย่างแน่นอน
อีเมล์ฉบับดังกล่าว ถูกส่งในวันที่ 19 ก.พ. โดนผู้อำนวยการสร้างหนังขวัญใจนักวิจารณ์ The Hurt Locker คนนี้ เลือกอาศัยกระแสหมั่นไส้หนังรายรับ 700 ล้านเหรียญฯ ด้วยการโจมตีไปที่ทุนสร้างของหนัง
นอกจากนั้นในจดหมาย ยังมีการระบุอย่างละเอียด ขอร้องให้เหล่ากรรมการเลือกให้คะแนน โดยการให้เลือก The Hurt Locker ในอันดับ 1 และเลือก Avatar ในอันดับ 10 ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัล จากกฎใหม่ที่ให้เลือกหนังที่ชอบที่สุด และรองๆ ลงไป แตกต่างที่เคยให้ลงคะแนนให้กับหนังที่ชอบที่สุดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
หลังเกิดเรื่องบริษัท Summit Pictures ผู้จัดจำหน่าย ได้ออกแถลงการณ์ ว่าไม่ได้รู้เห็นกับเรื่องทั้งหมดเลย ... "เราไม่รู้เรื่องอีเมล์ จนกระทั้งมันเป็นข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน" ตัวแทนของบริษัทกล่าว
ซึ่งบริษัทได้เรียกตัว ชาร์ติเย เข้ามาพูดคุยแล้ว โดยผู้อำนวยการสร้างคนนี้ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจกับเรื่องทั้งหมด ผ่านอีเมล์ และโบ้ยว่าเป็นเพราะความใหม่ในการเข้าชิงรางวัลใหญ่แบบนี้ของเขา ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ... "เพราะความไร้เดียงสา ไม่ได้ทราบถึงกฎต่างๆ ที่มีอยู่ ผมจึงได้ทำสิ่งเบาปัญญาลงไป ผมไม่อาจเอาเรื่องที่ว่า นี่คือการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเป็นครั้งแรกมาเป็นข้ออ้างถึงพฤติกรรมดังกล่าวได้เลย ผมต้องขออภัยจริงๆ การถูกเสนอชื่อชิงรางวัลเป็นเกียรติสูงสุด ซึ่งควรใช้เวลาศึกษา และอ่านข้อบังคับทั้งหมดเสียก่อน"
ผู้เกี่ยวข้องกับ Avatar ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ตัวแทนของสถาบันฯ จะออกมาแถลงถึงมาตรการลงโทษต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นการออกแถลงการณ์ประณาม หรือกระทั่งยึดบัตรเชิญมาจากแจกรางวัลครั้งนี้ของเขาก็เป็นได้
ขณะที่บางคนบอกว่าน่าจะมีการลงโทษโดยการตัดสิทธิ์หนังออกจากการประกวดดูบ้าง เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างในปีต่อไปไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาอีก
ถึงตอนนี้โอกาสของ The Hurt Locker ในการเป็นผู้ชนะสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมยังคงมีอยู่มาก เพราะข่าวฉาวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งผู้ลงคะแนนส่วนใหญ่ซึ่งมีจำนวนหลักพันคน ได้ส่งผลโหวตของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเส้นตายของการส่งคะแนนคือคืนวันอังคารที่ 2 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่า สิ่งที่เกิดได้กลายเป็นผลร้ายต่อหนังทุนน้อยขวัญใจนักวิจารณ์เรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งถ้า The Hurt Locker จะได้รางวัล หรือไม่ได้ขึ้นมา ชาร์ติเย ก็อาจกลายเป็นเป้าของการถูกโจมตีได้ทั้งนั้น
ออสการ์รางวัลทางภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก มีผลทั้งต่อชื่อเสียงของคนทำหนัง และธุรกิจภาพยนตร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกฝ่ายพยายามผลักดันงาน หรือคนของตัว ให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ จนบางครั้งกลายเป็นเรื่องของการเล่นนอกเกมส์ หรือการชกใต้เข็มขัด
ในปี 2003 โรมัน โปลันสกี้ ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก The Pianist ในเวลาใกล้เคียงกันกลับมีการเผยแพร่คำพิพากษาคดีล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ของโปลันสกี้ ซึ่งเกิดขึ้นนานตั้งแต่เมื่อปี 1977 ตามเว็บไซต์ต่างๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีผลอะไรเมื่อผู้กำกับชาวโปแลนด์ คว้าออสการ์ครั้งแรกของเขามาครองได้สำเร็จในปีนั้น
ขณะที่ในปี 2002 ที่ A Beautiful Mind หนังอันว่าด้วยประวัติชีวิตของ จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์รางวัลโนเบล ที่มี รอน ฮาวเวิร์ด เป็นผู้กำกับเป็นตัวเต็งในหลายๆ รางวัล แต่จู่ๆ ก็มีสื่อบางเจ้าที่หยิบยกเอาประวัติที่ชี้ถึงพฤติกรรมด้านลบหลายอย่างของ แนช ในอดีตรวมถึงการเหยียดผิวออกมานำเสนอ
เช่นเดียวกับในปี 2004 การพยายามผลักดันนักแสดงหญิงเชื้อสายอิหร่าน โชห์เรห์ อัคแดชลู ในสาขานักแสดงสมบทหญิงจาก House of Sand and Fog โดยบริษัท DreamWork เกือบต้องทำให้นักแสดงหญิงคนนี้ต้องถูกตัดสิทธิ์ เพราะบริษัทผู้สร้างหนังใช้โฆษณาสิ่งพิมพ์ที่ลงข้อความโจมตีนักแสดงคู่แข่งอย่าง เรเน่ เซลเวเกอร์ จาก Cold Mountain จนเกือบๆ จะเข้าขายผิดกฎของสถาบันฯ และสุดท้ายก็กลายเป็น เซลเวเกอร์ ที่ได้รับรางวัลไปในที่สุด
สุดท้ายแล้วผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เกมส์สกปรกระหว่างเจ้าของหนัง และผู้อำนวยการสร้างพวกนี้จะไม่มีกระทบใดๆ ต่อผู้ลงคะแนน "ผมอาจจะซื่อเกินไปก็ได้นะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าผู้ลงคะแนนทุกคนออกเสียงด้วยตัวของตัวเองโดยไม่ให้อะไรมามีอิทธิพลเหนือ ผมรู้จักสมาชิกของสถาบันฯ หลายๆ คน พวกเขาทำงานนี้ด้วยความภูมิใจ" เลียวนาร์ด มัลติน นักประวัติศาสตร์ภาพยนตร์กล่าว และยืนยันว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจนเหล่าผู้ลงคะแนนจนพวกเขาคุ้นชินกันหมดแล้ว
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |