“ยุ้ย” รับแล้วเกิดอุบัติเหตุยิงปืนใส่ทีมงาน “พระจันทร์ลายพยัคฆ์” จริง แต่เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น ลั่นไม่เคยใช้กระสุนจริง และสิ่งที่โดนทีมงานดวงซวยก็ไม่ใช่ลูกปืน แต่เป็นอะไหล่ของปืนที่หลุดออกมา สุดเขินต้องเลิฟซีนกับ “เวียร์” จูบจริง ลูบไล้ แสดงสีหน้าทั้งสายตาและอารมณ์
ตั้งแต่เกิดเรื่องกระแสข่าวลือหนาหูที่ว่า “ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม” เกิดผิดคิวในกองถ่าย “พระจันทร์ลายพยัคฆ์” ปืนลั่นใส่นักแสดงตัวประกอบจนอกทะลุ กระสุนฝังในไม่สามารถผ่าตัดออกได้ เนื่องจากถ้าผ่าอาจเสียชีวิตได้ และปลายปฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท โพลีพลัส ผู้ผลิตละครเรื่องนี้ได้เปิดเผยกับทีมข่าว ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะทีมงานเรื่องนี้ใช้แต่ลูกกระสุนปืนปลอม แต่ยอมรับว่า มีการผิดพลาดและบาดเจ็บกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พร้อมกับเผยว่า ข่าวนี้ทำให้ทุกคนๆ เครียดไปตามๆ กัน เพราะกระแสข่าวลือไปเร็วมาก
แต่ล่าสุดยุ้ยก็ได้ยอมรับในขณะมาร่วมงาน 7 สีคอนเสิร์ตพิเศษ รวมเด็ดละคร 7 สีว่า ได้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวชึ้นจริง แต่เป็นแค่ชิ้นส่วนบางอย่างที่หลุดออกจากปืน ลั่นไม่ใช่กระสุนจริง และทีมงานไม่ได้รับบาดเจ็บมาก
“ยุ้ยจะบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่มันเกินความคาดหมาย ทั้งทีมงานเอง ทั้งยุ้ยเอง หรือว่าทั้งเจ้าของปืนเองก็ไม่มีใครคาดคิด มันเป็นอะไหล่ของปืนที่มันผิดพลาด แล้วมันก็อยู่ข้างในปืนจริงๆ และในส่วนของเหตุการณ์ยุ้ยไม่ขอเล่าดีกว่า เพราะว่าก็มีหลายๆ คนไม่อยากให้พูดถึง แล้วก็เอาเป็นว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่มันเป็นอะไหล่ของปืนที่มันหลุดออกมา โดยที่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ข้างใน”
“ก็ตกใจค่ะ เพราะว่าเราเองก็ไม่คิดว่ามันจะมีอะไรหลุดออกมาจากในปืนที่เราใช้ยิงกันทุกวัน จริงๆ แล้วในเรื่องนี้เรามีฉากบู๊กันเยอะมาก แล้วลูกปืนที่ใช้ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นลูกแบงค์ เป็นลูกปืนปลอม ไม่ใช่ลูกปืนจริงแน่นอนที่ออกไป มันเป็นแค่อะไหล่ส่วนหนึ่งของปืนที่มันอาจจะหลวม หรือว่าอาจจะไม่แน่นที่มันอยู่ในปืนและมันออกมาตามแรงดันของปืน และเวลาที่ยิงมันก็จะออกแค่ประกายไฟ แต่ไม่ใช่ลูกปืน”
เผยคนที่โดนไม่ใช่นักแสดงเอ็กซ์ตร้าหรือสตั้นท์ แต่เป็นทีมงานคนหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้เจ็บร้ายแรงด้วย แต่พอเกิดเรื่องตนก็ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ยกใหญ่
“คนที่โดนเป็นทีมงานค่ะ ซึ่งทีมงานเองก็ไม่มีใครคิดเหมือนกัน แล้วก็อยู่ในกองถ่ายด้วยกันหมดตลอดทุกวัน แล้วเราก็ใช้ปืนกันทุกวันอยู่แล้ว ทีมงานคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แข็งแรงเหมือนเดิม แล้วก็ทำงานเป็นปกติ ก็พอเกิดเรื่องยุ้ยก็ไปทำบุญ พอเกิดเหตุการณ์ไม่ดีเราก็ต้องทำบุญอยู่แล้ว ก็ไปสะเดาะเคราะห์ แล้วก็เหมือนกับทำบุญให้กับทุกสิ่งทุกอย่างจะได้สบายใจขึ้น”
“ตอนแรกก็ยอมรับว่าตกใจ แต่เราก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ และทุกคนก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่ว่าโชคดีที่พี่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะว่ามันก็เป็นแค่อะไหล่ชิ้นเล็กๆ แล้วก็ไม่ได้โดนจุดสำคัญอะไร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับกลัวการจับปืนนะคะ เพราะว่าทุกวันนี้ก็ยังใช้ปืนจริงยิงปืนกันตลอด ไม่ถึงกับกลัว เพียงแต่ยุ้ยว่ามันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือทุกคนจะไม่ประมาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ นักแสดงทีมงาน หรือว่าแม้แต่เจ้าของปืนเองก็จะเซฟกันมากขึ้น ระมัดระวังกันมากขึ้น เวลาที่เรายิงปืนเราก็จะเคลียร์ทุกอย่างให้พร้อม จากวันนั้นมาจนวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดการเซฟ เกิดการระมัดระวังกันมากขึ้น ยุ้ยเองก็ไม่ประมาทในการใช้ปืน”
เผยว่าตอนนี้ก็ยังถ่ายทำกันอยู่ เพราะละครเรื่องนี้ได้เพิ่มตอนออกไปอีก และมีอีกฉากหนึ่งที่ทำตนหนักใจคือฉากที่ต้องเลิฟซีนกับพระเอกหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารส” ที่งานนี้ยอมรับว่าจูบจริง
“ตอนนี้ยังไม่ปิดกล้องเลยค่ะ และมีการเพิ่มตอน จากเดิม 15 เป็น 18-19 ตอน เรื่องฟกช้ำดำเขียวเป็นเรื่องปกติ ขานี่เขียวหมดเลย แต่เป็นเรื่องปกติของละครบู๊น่ะค่ะ มันก็จะค่อนข้างเหนื่อยนะ เพราะว่าทั้งบู๊ ทั้งอารมณ์เก็บกด อารมณ์ร้ายมีอะไรหลายๆ อย่าง ก็จะค่อนข้างยาก”
“ฉากเลิฟซีนก็ค่อนข้างเยอะ ก็ตื่นเต้น ยุ้ยจะบอกเลยว่าถ้าให้ยุ้ยเล่นฉากอื่น ฉากบู๊ ฉากยิงเตะต่อยยุ้ยเล่นได้หมด แต่พอเป็นฉากเลิฟซีนมันยากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยเล่นมา(หัวเราะ) ก็จูบจริงค่ะ แต่ว่าแค่โดนนิดหน่อย คือมันเป็นงานน่ะค่ะ และอีกอย่างพี่ผู้กำกับก็อยากให้มันสมจริง และมันต้องเห็นจริงๆ ว่า ปากเราโดนกัน และอยากให้คนดูเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่เรารักเขาและเราได้สัมผัสกับผู้ชายที่เรารัก อยากให้รู้ถึงความรู้สึก”
“ตอนเล่นก็เขินนะ ฉากนั้นเป็นฉากที่เขาเมาแล้วยุ้ยต้องเลิฟซีนกับเขา อันนั้นเป็นฉากที่ยากที่สุด แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมากนะคะ คือเป็นฉากที่เขาเมาแล้วเขาก็นึกว่าเราเป็นจันทร์ฉาย เป็นพี่อั้มน่ะค่ะ แล้วก็เลยมีอะไรกัน เป็นฉากที่ยุ้ยต้องแสดงอารมณ์นิดหน่อย แต่เราเล่นไม่ค่อยได้ผู้กำกับก็จะช่วยบอกว่า ขอมือหน่อยๆ จิกหน่อยๆ ลูบไล้หน่อยอะไรอย่างนี้(หัวเราะ) ”
“คือยุ้ยกับเวียร์สนิทกันด้วยไงคะ แค่มองหน้ากัน กอดกันมันก็รู้สึกขำ ก็ไม่ถึงกับหลายเทคนะคะ แต่ว่าจะถ่ายทำนาน เพราะผู้กำกับเขาก็พยายามเจาะรายละเอียดแต่ละอย่าง มือ หน้า แววตา ปาก พอถ่ายเสร็จก็ไปดูที่มอร์นิเตอร์ก็เขินนะ ดูแล้วเขิน แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะมันเป็นงาน แค่กลัวออกมาแล้วน่าเกลียดมากกว่า”