xs
xsm
sm
md
lg

“ไก่ ทรงกลด” ยันไม่เคยส่งเด็ก ส่วนภาพลวนลามแค่หยอกกัน บอกมีแรงกว่านั้นอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไก่ ทรงกลด” ยันไม่เคยส่งเด็กขายตัวเสี่ย-ผู้ใหญ่วงการบันเทิง ส่วนภาพลวนลามเด็กก็แค่หยอกกันและมีแรงกว่านั้นอีก เจ้าตัวงงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ออกปากได้รับผลกระทบจนเครียด และอยากให้เรื่องจบๆ

ยังคงวุ่นไม่รู้จบสำหรับกรณีของนักปั้น "ไก่ ทรงกลด" จาก Angelsstar โมเดล หลังถูก "แม็กซ์ ภฐตท ดวงสนิท” ผกก.ภาพยนตร์และละครเวทีที่เคยร่วมงานกันมา ออกมาฟ้องร้องเอาผิดในข้อหาฉ้อโกงพร้อมขนเอาอดีตเด็กจากแองเจิ้ล โมเดล ที่อ้างว่าถูกอีกฝ่ายหลอกลวงร่วมเป็นพยาน

โดยก่อนหน้านี้ทาง ไก่ ทรงกลด ก็ได้ออกมาเปิดเผยในทำนองว่าเรื่องคดีจบไปแล้วเพราะตำรวจสั่งไม่ฟ้อง ทำเอาคู่กรณีต้องออกมายืนยันว่าคดียังคงมีอยู่ ไม่มีการยกฟ้อง พร้อมแฉต่อไปถึงพฤติกรรมของอีกฝ่ายที่เคยส่งเด็กไปบำเรอผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงเพื่อแลกกับงาน รวมไปถึงพฤติกรรมลวนลามเด็กๆ ผู้ชายในสังกัดของตนเองก่อนโชว์รูปถ่ายเป็นหลักฐาน

ภายหลังจากที่เรื่องดังกล่าวกลายเป็นข่าวออกไป ล่าสุดทาง "ไก่ ทรงกลด" พร้อมด้วยเด็กๆ ที่เรียนการแสดงเกือบ 10 คน ก็ได้เดินทางมาที่ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ เพื่อขอชี้แจงเรื่องต่างๆ โดยบอกว่าเรื่องที่ตนบอกว่าคดีจบไปแล้วเพราะตำรวจยกฟ้องนั้นอาจจะเกิดจากการที่ตนใช้คำผิด พร้อมกับยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยมีหมายเรียกมาหาที่ตนเองสักครั้งอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวหา

“วันนั้นที่ผมไปสน. ตำรวจเขาก็บอกว่ามันไม่ได้เป็นคดีความนะ เขาก็คงไม่ได้รับฟ้อง เขาก็บอกผมอย่างนี้ แต่อันนี้ผมว่าต้องโทรคุยกับตำรวจดีกว่า อย่าถามผมเลย เดี๋ยวผมตอบไม่ถูก แต่ผมยังไม่เคยได้รับหมายอะไรเลย เพราะผมโทรคุยกับตำรวจตลอดว่าตกลงเป็นยังไงบ้างแล้ว เขาก็ให้คำแนะนำมาตลอด จนมาเจอเหตุการณ์นี้ตำรวจก็เลยรู้กันทั้งหมดว่ามันไม่มีอะไร แต่พวกคุณดังกันจังเลย อันนี้ตำรวจพูดนะ”

“กับทนายเราก็รู้เรื่องกันตลอด แล้วที่เขาบอกว่าทนายผมถอนตัวไปแล้ว จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ ผมก็คุยกับทนาย ทนายก็บอกไม่มี ไม่ได้ถอนอะไร ผมก็ไม่รู้ว่ายังไงนะ คือจริงๆ ตอนนี้ผมไม่อยากให้มันเป็นอะไรเลย อยากให้มันจบ ยอมรับเครียดมากเลยนะ นอนจนเลือดออกไม่รู้ตัว ถามเด็กๆ ได้เพราะพวกนี้นอนอยู่กับผม เขายังตกใจกันหมดเลย"

"ไม่รู้นะว่ามันออกมายังไง ออกตามหน้า ตามตาเนี่ย แต่ก็เห็นว่าทางนั้นเขาก็ยังคงดำเนินการอะไรของเขาอยู่ นี่ก็เพิ่งโทรมาชวนเด็กๆ ของผมให้ไปร่วมกับเขา วันนี้ผมก็เลยโทรไปหาน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งก็เป็นเพื่อนกับน้องๆ นี่แหละ เขาก็บอกว่า ผมหนูไม่อยู่ที่กรุงเทพฯ นะ แต่ว่าหนูยินดีคุย ยินดีโฟนอินมาหนูคุยได้นะ”

ส่วนกรณีที่อดีตเด็กในสังกัด “อิ๊ง พิชญา แอบเนียน” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าถูก “ไก่ ทรงกลด” ส่งตัวให้ผู้ใหญ่ในวงการเพื่อแลกกับการได้เล่นนั้นเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นตนต่างหากที่สอนให้เด็กๆ ระวังเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้

“เรื่องที่น้องอิ๊งพูด ผมไม่เคยส่งไปขายให้ใครนะ คือส่งน่ะส่งไปจริง ก็คือส่งไปตามระบบแหละ ก็ส่งไปทำงาน แต่มันเป็นเรื่องของเขาคุยกันนะ ผมไม่เคยบอกว่าให้ยอมๆ ไปนะ แต่ผมจะบอกน้องๆ ว่าเอาตัวรอดเองแล้วกัน บอกว่าต้องระวังตัวเอง สอนอย่างนี้"

"ไม่เคยสอนอย่างอะไรอย่างนั้นเลย ผมก็สอนตรงๆ อย่างนี้เลย ถ้าเขาบอกว่ามีหลักฐานก็คงตอนที่ไปที่ไอทีวี ผมไปฟ้องไอทีวีด้วย เพราะไอทีวีเขาโทรมาสัมภาษณ์ คือไปสัมภาษณ์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เขาก็บอกหมดเลยว่าดาราคนนั้น คนนี้ก็โดน”

“พอผมรู้ผมก็โทรไปบริษัทนั้นเลย เป็นค่ายละครค่ายหนึ่งนะ บอกว่าพูดอย่างนี้ไม่ได้นะ ผมก็โกรธค่ายนี้อยู่ปีนึง ไม่คุยกับเขา พอเป็นข่าวผมก็พาเด็กไปไอทีวี ขอให้เขาช่วยเคลียร์ด้วย เขาก็ขอโทษให้ ผมก็บอกไม่ต้องขอโทษหรอก แต่ให้มันจบไป เพราะถึงขอโทษไปมันก็หายไปเหมือนกระแส"

"เพราะรู้สึกข่าวมันจะออกตอนช่วงวันสงกรานต์พอดี คนไม่ค่อยได้ดู แต่บังเอิญว่าผมดูพอดี ชื่อรายการ ไอทีวี สเปเชี่ยล รีพอร์ต แล้วก็ปล่อยให้มันจบไป แต่ตอนนั้นโกรธมากเลยนะ น้องๆ ที่มานี่ก็รู้ดี เพราะเขาเป็นเซ็ทเดียวกันกับคนที่บอกว่าเกิดเรื่องนั่นแหละ และถึงฟ้องไปผู้ใหญ่คนนั้นเขาก็ไม่มีเงินมาจ่ายผมหรอก”

“แต่ผมน่ะไม่รู้หรอกว่าผู้ใหญ่ที่ผมส่งเด็กไปให้เขาจะทำอะไรเด็กบ้าง แต่เด็กกลับมาเล่าให้ฟัง เราก็อึ้งนะ แต่ก็บอกว่าดูแลตัวเองนะ อย่าไปคนเดียว เอาพี่ไปด้วย เอาแม่ไปด้วย ก็พูดอย่างนี้แหละ แต่ที่ข่าวบอกว่านั่งรถไปกันเองอันนี้ผมไม่รู้แล้วนะ "

"ผมจะไปห้ามเขาได้เหรอ เขาโทรคุยกันน่ะ ผมห้ามไม่ได้ ตอนนั้นมันก็แข่งกันเกิดด้วยมั้ง เด็กๆ ก็มีมาเล่าหลายคนนะ
เล่าเยอะเลยจนผมทำอะไรไม่ถูก ผมบอกได้แต่คุณไปไหนคุณต้องเอาพ่อแม่ไป อย่าอยู่คนเดียว ไม่ต้องไปไหนสองต่อสอง ไม่ชอบก็อย่าไปอยู่กันสองคน”

“แต่พ่อแม่เขาก็ไม่ได้มาอะไรกับผมนะ แล้วผมก็ยังบอกกับพ่อแม่น้องเขาเลยว่า ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องนะ บางทีเด็กก็ไม่เล่าให้พ่อแม่ฟัง เพราะเขาไม่กล้าเล่ากลัวเป็นเรื่องเป็นราว ผมก็บอกว่าถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องทำหรอก ผมก็สงสาร เห็นใจเขา แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าเราส่งงานเราก็ต้องผ่านทางนั้น แล้วมันเป็นอะไรที่ร่วมงานกันมา”

“ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้มันก็ผ่านไปนานแล้ว และคนนั้นเขาก็ได้รับการลงโทษแล้วนะ ผมก็เห็นนะว่าเขาโดนย้ายไปแล้ว แล้วอยู่ดีๆ ตอนนี้ออกมาพูด ผมก็เครียดเหมือนกัน เอามาพูดตอนนี้แล้วเราต้องไปเอายังไงกับบริษัทนั้นอีกล่ะ แล้วมาบอกว่าผมรับเงินมา เขามีหลักฐานมั้ยล่ะ ผมก็ไม่รู้ว่าหลักฐานเขาคืออะไร แล้วผู้ใหญ่คนนั้นเขาจะมาพูดหรือเปล่า เขาก็ไม่มาพูดหรอก ทุกคนเขาก็เงียบหมดแหละ เขาพยายามเงียบ”



ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายนำภาพที่อ้างว่าตนลวนลามเด็กนั้น เจ้าตัวยืนยันว่าทุกคนก็รู้ว่ามันคือการหยอกกัน แกล้งกัน แล้วก็มีมากกว่านั้นอีก

“เรื่องเด็กผู้ชายที่ว่าผมเข้าไปทำอะไรเขาน่ะ ไม่มีหรอก ไม่เคยเลย ถ้าภาพนั้นผมก็เห็นแล้วนะ ผมเล่นๆ กันมากกว่า ดูภาพอื่นมั้ยล่ะ(หัวเราะ) คือผมก็นอนกับพวกน้องๆ นี่แหละเยอะแยะหลายคน บางทีก็จัดฉากกันเอาผมมาทำอะไรก็ไม่รู้ ให้ผมเป็นบ้าโรคจิต เล่นแบล็คเมย์กัน เขาบอกพี่ไก่จะได้ดัง เด็กๆ เขาเล่นกันน่ะ แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าใครถ่ายภาพพวกนั้น เพราะว่าคนมันเยอะมาก”

"ก็พยายามจะนึกนะว่าภาพที่เขาเอามามันเป็นภาพอะไร ถ่ายเมื่อไหร่ ใครถ่าย เพราะเรื่องหยอกกันแหย่กันกอดกัน ดึงผ้าขนหนูกัน มันเรื่องปกติน่ะ ไม่เขื่อถามพวกนี้ดูได้ เพราะพวกเราค่อนข้างสนิทกัน โหย จริงๆ มีมากกว่านั้นอีก แล้วก็มีแต่ไอ้พวกนี้น่ะสิที่มันจะปล้ำพี่ แกล้งแก้ผ้าพี่ (หัวเราะ)"

"คือถ้าจะเป็นภาพนะ มันมีมากกว่านั้นอีก แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การลวนลามหรือกินเด็กอะไรแน่นอน ไม่มี ก็เสียใจนะที่มันกลายเป็นเรื่องแบนี้ออกมา "

พร้อมบอกไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรถึงต้องออกมาทำเช่นนี้
“แต่ถ้าจะบอกว่ารวมตัวกันจะเอาผมเข้าคุกเนี่ย คือผมเลวขนาดนั้นเลยเหรอ ผมก็ถามตัวเองนะว่าผมเลวขนาดนั้นเลยเหรอ ผมทำเขาขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ถ้าเขาจะลุยมาผมก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เรื่องหลักฐานผมก็ไม่รู้จะเอาหลักฐานอะไรมายืนยันว่าผมบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่ผมทำอดีตจนถึงปัจจุบัน ผมก็เป็นคนอย่างนี้ ผมก็ทำมาอย่างนี้ ถ้าบอกว่าไม่เคยมีอะไรกับเด็ก มันก็ไม่ใช่ เคยมี แต่ไม่ใช่เด็กที่มาทำงาน เป็นแฟนก็มี”

“ถามหน่อยเถอะอยากให้วงการมันมีเรื่องมีอะไรแบบนี้เหรอ ผมไม่ทำก็ได้นะไอ้งานผู้จัดการดาราเนี่ย แต่เราจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้เหรอ คนจะมองยังไงผมก็ไม่รู้ แต่ผมก็เข้าใจนะว่าข่าวมันออกไปเรื่อยๆ แต่เหมือนกับตอนนี้มันเป็นแฟชั่นไปแล้ว แล้วถ้าเกิดผมตายไปล่ะ เขาจะรู้สึกบาปหรือเปล่า มันเหมือนไปสร้างความนิยมให้เขานะ"

"เมืองไทยทุกวันนี้แตกแยกกันจะตาย ปัญหาภาคใต้อะไรก็เยอะแยะ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ผมก็บอกแล้วจะให้ผมขอโทษ จะให้ผมทำอะไรผมก็ทำให้ได้หมดนะถ้าจะให้มันจบ ผมไม่มีทิฐิอะไร แต่ผมไม่อยากให้มีค่านิยมอย่างนี้เกิดขึ้น”


“ถามว่ากลัวติดคุกมั้ย ผมไม่กลัว ถ้าต้องติดก็ติด ทำไงได้ล่ะ ถ้าเกิดกฎหมายจะบอกว่าผมผิด ถ้าบอกว่าผมไม่มีหลักฐาน ถามจริงๆ เถอะ เรื่องที่ผมโดนใส่ร้ายสารพัด ถ้าผมแจ้งความกลับจะเกิดอะไรขึ้น กฎหมายช่วยอะไรเราไม่ได้เลยนะตอนนี้ มันเป็นกระแสที่กำลังทำผมมากกว่า คิดว่ากฎหมายปกป้องผมได้มั้ย ถามตรงๆ เถอะ เพราะผมทำทุกวิถีทาง ไปโรงพักเพื่อที่จะไปขอเคลียร์อะไรต่างๆ ทำทุกวิถีทาง แต่มันมีอะไรที่ปกป้องผมได้บ้าง ”

ยอมรับตั้งแต่มีข่าวมาเริ่มมีผู้ปกครองของเด็กไขว้เขว แต่ก็มีบางส่วนที่ให้กำลังใจ และมีผลหนักถึงขนาดว่า อีเว้นท์หรืองานบางอย่างไม่ยอมรับเด็กในสังกัดของตนเข้าร่วมงานเลย ทำให้เสียรายได้ไปเยอะ
“ตอนนี้เด็กที่อยู่กับผมก็เยอะ แต่ว่าพ่อแม่เขาก็เริ่มเป๋ๆ กันบ้าง พวกน้องๆ ที่มานี่เขาก็ลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง ไม่รู้สิ เขาก็อยู่กัน พ่อแม่บางคนก็ให้กำลังใจ เขาก็บอกพี่ไก่อย่าไปสนใจ เขาบอกว่าลูกเขาก็สบายใจตรงนี้ แต่เขาก็กังวลว่าทำไมอะไรมันไม่จบ เขาบอกไม่รู้จะจบยังไงเขาก็ยังดูไม่ออกกันนะ แล้วผมก็กลัวว่าถ้าเขวกันเยอะๆ ขึ้นมา กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีก แล้วเรื่องการเงินตอนนี้ผมก็เริ่มแย่ เริ่มไม่มีอะไรที่แน่นอน ไม่ชัดเจน มันจะเป็นยังไงต่อไปล่ะคราวนี้”

“เรื่องของการส่งงานลูกค้าบางที่เขารู้จักกับผมเขาก็จะรู้ว่าไม่มีอะไร แต่บางที่ก็มีบ้างที่บอกว่า เด็กของไก่ ทรงกลดไม่รับนะ บางคนก็มีนะไปเกาะกระแส เพราะมีวันหนึ่งผู้กำกับค่ายหนังค่ายหนึ่งโทรมาบอกพี่ไก่ไปพูดเหรอว่า ถ้าจะเล่นหนังต้องมาตรงนี้ ไปบอกว่าพี่ทำร่วมกับบริษัทผม ผมก็อึ้งสิ เพราะผมไม่เคยติดต่อผู้กำกับคนนี้เลยนะ”

“บางคนหาวิธีเข้าวงการบันเทิงโดยเอาชื่อเราไปใช้หมดเลยว่าโดนเราหลอก ผมก็มานั่งคุยกับน้องๆ ว่าเราจะทำยังไงดี แต่เราก็หยุดไม่ได้ ไปหยุดปากเขาไม่ได้ แต่มีอีกเยอะกว่านี้นะ บางทีก็มีเข้ามาบอกว่าบางบริษัทติดป้ายห้ามเด็กไก่ ทรงกลดเข้า ติดป้ายเลยนะ ผมก็โทรเคลียร์เลยว่า ผมเลวขนาดนั้นเลยเหรอ เขาก็บอกไม่มีๆ นะ นี่คือคนเริ่มพูดกันไปอีกแบบนึง”

แล้วรู้มั้ยตอนนี้ผมไม่มีตังค์เลย นี่ก็เพิ่งลงทุนทำที่ใหม่เป็นชื่อ ASA ที่กำลังจดทะเบียนใหม่ ลงทุนไปเป็นแสน แต่ไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลย กลับมีแต่หนี้มาเพิ่ม ตอนนี้ก็มีแค่ที่ออกเทปเป็นงานตัวเดียวที่เราวางอยู่ แล้วน้องๆ เขาก็ยังรับงาน เขาก็พยายามไปคุยตามที่ต่างๆ ตามกองถ่ายว่าพี่ไก่ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เขาก็พยายามคุย พยายามเคลียร์ แต่กระแสมันเยอะไง”

“ถ้าถามว่าตอนนี้จะสร้างชื่อตัวเองให้กลับมายังไง ก็มีน้องคนหนึ่งที่เขามีสัญญากับค่ายๆ หนึ่งนะโทรมา เขาจะถอนสัญญาจากที่นั่น เขาก็ส่งข้อความมาบอกว่าพี่ไก่ พี่เป็นผู้จัดการให้ผมนะ ผมก็บอกว่าพี่ไม่เป็น แต่พี่จะฝากไปให้ทำงานในกลุ่มช่อง 7 นี่แหละ ให้หนูไปเป็นนักแสดงที่นั่น แต่ให้หนูดูแลตัวเองนะ ให้แม่ดูแลก็ได้ พี่ไม่ดูแล เขาก็บอกไม่เอาผมจะให้พี่ดู ผมไม่เชื่อใครหรอก นั่นแหละคือคำตอบ ตอนนี้ผมขอเป็นครูที่สอนเขา เป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่ผู้จัดการหรือไม่ใช่โมเดลลิ่ง ไม่อยากทำแล้ว สู้ภาวะจิตใจของเด็กยุคนี้ไม่ได้”

“ถามว่านาทีนี้ผมทำอะไรได้มั้ย ผมก็ไม่รู้ว่าผมต้องทำอะไร รู้อย่างเดียวว่าเหนื่อย ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราว อยากให้มันจบๆ มีวิธีมั้ย แต่ที่ผมไม่ได้ติดต่อพวกแม็คซ์หรือคู่กรณีคนอื่น พูดตรงๆ นะ เพราะผมเถียงไม่ทัน แต่คงไม่ออกมาแก้ข่าวอะไรอีกแล้ว วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ออกมาแก้ ต่อไปอยากจะเขียนอะไร อยากจะด่าอะไรก็เชิญ ไม่ออกมาแล้ว ถ้าผมไม่ออกมาก็คงจะไม่มีข่าวไก่ ทรงกลดอีก ผมก็อยู่ของผม ไม่เคยไปด่าอะไรเขาหรอก แต่ไม่ออกมาพูดเลยก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ แต่ต่อจากนี้ก็คงไม่มีแล้วล่ะ”

ทางด้านของ “โอที รัฐธนินท์ จิรวัฒน์โภคิน” พิธีกรภาคสนามรายการ TALK TEEN ช่อง NBT ช่วยยืนยันว่า นักปั้นรุ่นเก๋าคนนี้ไม่มีการส่งเด็กไปขายตัวแน่นอน และตนก็รู้จักกับอีกฝ่ายเป็นอย่างดีเพราะก็เป็นเพื่อนๆ กันทั้งนั้น แถมอีกฝ่ายยังโทรชวนไปเข้าพวกอีกต่างหาก

       “มันไม่มีหรอกครับ ผมเป็นพยานได้เรื่องส่งเด็กเรื่องอะไร เพราะคนที่ออกมาเป็นข่าวก็เป็นกลุ่มเซ็ทผม เพื่อนผม ก็ยังคุยกันอยู่ ซึ่งผมก็รู้รายละเอียดทั้งหมดว่ามันเป็นอะไรบ้าง ผมก็ยังบอกเขาเมื่อคืนนะว่า ผมจะออกมาพูดแต่จะให้กระทบกับพวกเขาน้อยที่สุด ผมจะพยายามเซฟทุกอย่างที่สุด เขาก็บอกโอเคได้”

“ผมรู้สึกว่าทางฝ่ายนั้นเขาผิดประเด็นไปเยอะมาก จนผมไม่รู้ว่าเขาจะเล่นอะไรกันแน่ เล่นเรื่องคดี หรือเล่นเรื่องเด็กอะไร คือเขามั่วไปหมดแล้วครับ เขามาหลายทางจนกลายเป็นว่าตัวเด็กเองเหมือนเกาะกระแสไปเรื่อยๆ ครับ เพราะเมื่อคืนเขาโทรมาหาผม เขาบอกว่าให้ผมไปอยู่กับทางเขาด้วย แต่ผมบอกว่าผมไม่ยุ่ง เขาก็บอกว่าอีกคนหนึ่งเขาก็มานะ คิดว่าอีกวันสองวันเขาก็คงมีออกมาแถลงข่าวกันอีกว่ายังไง”




กำลังโหลดความคิดเห็น